‘โรตี-ชาชัก-ส้มตำ’! ฝันเล็กๆ‘นักโทษหญิง...คุกสตูล’ในวันรับ‘อิสรภาพ’
“กำแพง” ที่สูงชัน ติดรั้ว...
“ลวดหนาม” ป้องกันการหลบหนี...
“กรงเหล็ก” ที่ปิดอย่างมิดชิดและเข้มงวดทุกคนที่เข้าออก...
สถานที่แห่งนี้ คือ “เรือนจำจังหวัดสตูล” เป็นสถานที่ “ต้องห้าม” ที่ไม่ให้ใครได้เข้า-ออกง่ายๆด้วยระเบียบที่เข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ “อิสรภาพ” ที่ถูกจำกัดในบางข้อ ตามสถานะของ “ดินแดน” ควบคุมตัวผู้กระทำความผิด แต่ในอีกหนึ่งสถานะ “เรือนจำ” ทุกแห่งถือเป็นสถานที่ฝึกเพื่อ “คืนคนดีสู่สังคม” เพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นคนปกติทั่วไป ด้วยการฝึกทักษะอาชีพที่ตอบโจทย์สังคม ซึ่งการเปิด “ร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง” เป็นอีกทักษะหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ต้องขัง “แดนหญิง” ในการเข้ามามีส่วนร่วมฝึกอาชีพก่อนออกไปสู่สังคมโลกภายนอก
“ร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง” ของเรือนจำจังหวัดสตูล ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ต้องขังด้วยกันเอง โดยเฉพาะเมนูน้ำ “ชาชัก” ชาเขียว กาแฟเย็น ชามะนาว น้ำผลไม้ปั่น เป็นต้น ซึ่งขายได้วันละ 60-100 แก้ว ยังมี “โรตี” ที่ขายได้วันละ 4 กิโลกรัม เมนูอาหารตามสั่ง “ส้มตำ” วันละไม่น้อยกว่า 5,000 บาท
“พี่แหม่ม” อายุ 42 ปี ผู้ต้องขังหญิงคดียาเสพติด บอกว่า ที่เลือกฝึกชงน้ำ “ชาชัก” ชาอ้อ ชาเขียวอ้อ เพราะชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และคิดว่าทำง่ายไม่ยุ่งยากอะไร ลงทุนไม่มากนัก จากการได้ลองทำและขายภายในเรือนจำวันละไม่น้อยกว่า 50 แก้ว จำหน่ายทุกอย่างแก้วละ 20 บาท แต่หากเป็นน้ำผลไม้ปั่นแล้วละ 25 บาท
“อยากขอโอกาสคนสังคมให้โอกาส อย่าได้รังเกียจ ขอให้พวกเราได้ทำงานประกอบอาชีพสุจริต” นั่นคือคำร้องขอจาก “พี่แหม่ม” ที่ช่วงหนึ่งของชีวิต “ก้าวพลาด” ไป
เช่นเดียวกับ “พี่ติ๋ม” อายุ 50 ปี ผู้ต้องขังหญิงคดีปลอมแปลงเอกสาร บอกว่า เลือกฝึกตำ “ส้มตำ” ลาบ ก๋วยเตี๋ยว และอาหารตามสั่งที่ทานได้ทุกชนชั้น คิดว่าตลาดสังคมภายนอกน่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี การได้ฝึกที่นี่ก็ฝึกในเรื่องรสชาติ ความอร่อย และรับรองด้วยความสะอาด เพราะจะมีการตรวจความสะอาดเรียบร้อยทุกวัน รวมทั้งวัตถุดิบที่ใช้ ทำให้มีผู้ต้องขังตอบรับดีขายได้วันละไม่น้อยกว่า 3,000 บาท หากได้ขายใน “แดนชาย” สามารถขายได้วันละ 5,000 บาท โดยทุกเมนูอยู่ที่ราคาถุงละ 40 -45 บาท
“เชื่อว่าหากพ้นโทษไปจะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้เป็นอย่างดี” พี่ติ๋ม วาดฝันถึงวันได้รับอิสรภาพ
ด้าน “นายภัทรพงศ์ หมวกสกุล” ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสตูล กล่าวว่า ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดสตูล ร้อยละ 70 พบว่าต้องคดียาเสพติด เป็นผู้ต้องขังชาย 984 คนและผู้ต้องขังหญิง 96 คดี การส่งเสริมอาชีพให้ผู้ต้องขังเป็นหนึ่งในนโยบาย “กรมราชทัณฑ์” ที่ต้องการคืนคนดีสู่สังคม โดยผู้ต้องขังทุกคนจะสามารถใช้เงินได้ต่อวันต่อคน 300 บาท ในบัญชีจะมีเงินไม่เกิน 9,000 บาท จะมีการจ่ายให้ผู้ต้องขังเป็น “คูปอง” แทนการใช้เงินสด การซื้อหาอาหารร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังต้องนึกไว้ตั้งแต่กลางคืนว่าพรุ่งนี้จะทานอะไร ไม่ได้เปิดโอกาสให้สั่งซื้อตามใจชอบ เพราะขาย-สั่งซื้อเป็นเวลา
พร้อมกันนี้ทุกคนที่มาฝึกทักษะอาชีพจะได้เป็น “เงินปันผล” ทุกเดือนจากกำไรร้อยละ 50 เพื่อเป็นกำลังใจ แต่สิ่งที่จะได้มากกว่านั้น คือ “ทักษะ” ที่จะกลับออกไปประกอบอาชีพที่สุจริต และได้รับการยอมรับ 100% ว่าการได้เข้ามาอยู่ภายในนี้ได้การฝึกฝนและพัฒนาตนมาแล้ว
ในอนาคตอันใกล้นี้ ร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง จะมีการทำมาจำหน่ายให้ญาติที่เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องขังได้รับประทาน เป็นการเปิดตัวสู่สังคมภายในนอก และให้กำลังใจต่อการทำดี ด้วยการประพฤติดี ปฏิบัติดี ก่อนจะเป็น “คนดี” คืนกลับสู่สังคม
พัชรี เกิดพรม/สตูล...รายงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี