"ตลาด" ความหมายตาม พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ.2554 ระบุว่า หมายถึงที่ชุมนุมเพื่อซื้อขายของต่างๆ ขณะที่ความหมายตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 หมายถึงสถานที่ซึ่งปรกติจัดไว้ให้ผู้ค้าใช้เป็นที่ชุมนุมเพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทสัตว์ เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารอันมีสภาพเป็นของสด ประกอบหรือปรุงแล้ว หรือของเสียง่าย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นด้วยหรือไม่ก็ตาม และหมายความรวมถึงบริเวณซึ่งจัดไว้สำหรับให้ผู้ค้าใช้เป็นที่ชุมนุมเพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทดังกล่าวเป็นประจำหรือเป็นครั้งคราวหรือตามวันที่กำหนด
ตลาดเป็นสถานที่ที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาช้านานตั้งแต่ยุคแลกเปลี่ยนสิ่งของจนถึงยุคที่ใช้เงินตราเป็นสื่อกลาง เมืองหลวงอาณาจักรแรกของคนไทยคือ สุโขทัย เคยมีคำกล่าวว่า "ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า" คู่กับคำว่า "ปสาน" ที่เรียกเพี้ยนจากคำว่า "Bazaar" หมายถึงตลาดในภาษาเปอร์เซีย (อิหร่าน) ส่วนปัจจุบันตลาดมีทั้งตลาดกลางแจ้งที่ตั้งถาวรหรือสัญจรเป็นครั้งคราว รวมถึงตลาดที่มีการก่อสร้างอาคารเป็นกิจจะลักษณะ โดยนักลงทุนที่ต้องการนำที่ดินไปทำเป็นตลาด ต้องคำนึงถึงข้อปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ ดังต่อไปนี้
1.องค์ประกอบที่ต้องมีของตลาด โดยตามกฎหมาย "กฎกระทรวง ฉบับที่ 4 พ.ศ.2542 ออกตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535" แบ่งตลาดไว้ 3 ประเภทคือ "ตลาดประเภทที่ 1" หมายถึงตลาดที่มีโครงสร้างอาคารและดำเนินกิจการเป็นการประจำหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สิ่งที่ต้องมีในการตั้งตลาดประเภทนี้ "สำหรับตัวอาคาร"
(1) มีถนนรอบอาคารตลาดกว้างไม่น้อยกว่า 4 เมตร และมีทางเขาออกบริเวณตลาดกว้าง ไม่น้อยกว่า 4 เมตรอย่างน้อยหนึ่งทาง
(2) ตัวอาคารตลาดทำด้วยวัสดุถาวร มั่นคงแข็งแรง
(3) หลังคาสร้างด้วยวัสดุทนไฟ และแข็งแรงทนทาน ความสูงของหลังคาต้องมีความเหมาะสมกับการระบายอากาศของตลาดนั้นๆ
(4) พื้นทาด้วยวัสดุถาวรแข็งแรง เรียบ ทำความสะอาดง่ายและไม่มีน้ำขัง
(5) ฝาผนังทำด้วยวัสดุถาวรแข็งแรง เรียบ และทาความสะอาดง่าย
(6) ประตูมีความกว้างไม้น้อยกว่า 2 เมตร และสามารถป้องกันสัตว์ต่างๆ เขาไปพลุกพล่านในตลาด
(7) ทางเดินภายในอาคารสำหรับผู้ซื้อมีความกว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร
(8) มีการระบายอากาศภายในตลาดเพยงพอ ไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ
(9) ความเข้มของแสงสว่างในอาคารตลาดไม่น้อยกว่า 100 ลักซ์(Lux) เว้นแต่ที่แผงขายสินค้าหรือเขียงจำหน่ายเนื้อสัตว์ต้องมีความเข้มของแสงสว่างไม่นอยกว่า 200 ลักซ์ ทั้งนี้ต้องไม่ใช้แสงหรือวัสดุอื่นที่ทำให้สีของสินค้าเปลี่ยนแปลงไปจากธรรมชาติ
(10) แผงขายสินค้าเป็นแบบปิดทึบ ทาด้วยวัสดุถาวร เรียบ มีความลาดเอียงและทำความสะอาดงาย มีพื้นที่แผงไม่น้อยกว่า 2 ตารางเมตร สูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร และมีทางเข้าแผงของผู้ขายของกว้างไม่น้อยกว่า 70 เซนติเมตร มีที่นั่งสาหรับผู้ขายของไว้โดยเฉพาะอย่างเหมาะสมแยกต่างหากจากแผงและสะดวกต่อการเข้าออก
(11) จัดให้มีน้ำประปาอย่างเพียงพอสำหรับล้างสินค้าหรือล้างมือโดยระบบท่อสำหรับแผงขายอาหารสดต้องมีก๊อกนำไม่น้อยกว่า 1 ก๊อกน้ำต่อ 2 แผง และมีการวางท่อในลักษณะที่ปลอดภัยไม่เกิดการปนเปื้อนจากน้ำโสโครก ไม่ติดหรือทับกับท่ออุจจาระ และต้องจัดให้มีที่เก็บสำรองน้ำให้มีปริมาณเพียงพอและสะดวกต่อการใช้
(12) มีทางระบายน้ำทำด้วยวัสดุถาวร เรียบ ทางระบายน้ำภายในตลาดต้องเป็นแบบเปิดส่วนทางระบายน้ำรอบตลาดต้องเป็นแบบรูปตัวยูและมีตะแกรงปิดที่สามารถเปิดทำความสะอาดได้ง่าย มีความ ลาดเอียงระบายน้ำได้สะดวก มีบ่อดักมูลฝอย บ่อดักไขมัน และระบบบำบัดน้ำเสีย โดยน้ำทิ้งต้องได้มาตรฐานน้ำทิ้งตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร เวนแต่จะได้จัดส่งน้ำเสียไปบำบัดในระบบบำบัดน้ำเสียรวมของราชการส่วนทองถิ่น โดยได้เสียค่าบริการตามอัตราของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
และ (13) ต้องจัดให้มีเครื่องดับเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารติดตั้งไว้ในบริเวณที่เห็นได้ง่าย
"จุดขนถ่ายสินค้า" ต้องจัดให้มีและอยู่ในบริเวณหนึ่งบริเวณใด โดยเฉพาะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขนถ่ายสินค้าในแต่ละวัน และสะดวกต่อการขนถ่ายสินค้าและการรักษาความสะอาด "ห้องน้ำห้องส้วม" ต้องมีลักษณะดังนี้
(1) ตั้งอยู่ในที่เหมาะสมนอกตัวอาคารตลาด
(2) มีระบบการขับเคลื่อนอุจจาระและปัสสาวะลงสู่ที่เก็บกัก ซึ่งจะต้องป้องกันสัตว์และแมลงพาหะนำโรคได้ และไม่ปนเปื้อนแหลงน้ำธรรมชาติ และน้ำใต้ดินทุกขั้นตอน
(3) ห้องส้วมต้องสร้างด้วยวัสดุทนทานและทำความสะอาดง่าย มีขนาดเนื้อที่ภายในไม่น้อยกว่า 0.09 ตารางเมตรต่อหนึ่งที่นั่ง และมีความกว้างภายในไม่น้อยกว่า 0.09 เมตร ประตูเป็นชนิดเปิดออกและมีผนังกั้นเพื่อมิให้ประตูเปิดสู่ตลาดโดยตรง
(4) ระยะดิ่งระหว่างพื้นถึงส่วนต่ำสุดของคาน หรือเพดาน หรือสิ่งอื่นที่ติดกับคาน หรือเพดานต้องไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร และมีช่องระบายอากาศไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของพื้นที่ห้อง หรือมีพัดลมระบายอากาศ
(5) พื้นห้องส้วมต้องมีความลาดเอียงไม่น้อยกว่า 1:100 และมีจุดระบายน้ำทิ้งอยู่ในตำแหน่งต่ำสุดของพื้นห้อง
(6) กรณีเป็นโถส้วมชนิดคอห่านต้องสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 0.20 เมตร
(7) มีท่อระบายอุจจาระลงสู่ถังเก็บกัก ซึ่งต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร มีความลาดเอียงไม่น้อยกว่า 1:10
(8) มีท่อระบายก๊าซขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 2.50 เซนติเมตร สูงเหนือหลังคาส้วม หรือสูงจนกลิ่นเหม็นของก๊าซไม่รบกวนผู้อื่น
(9) ความเข้มของแสงสว่างในห้องสวมไม่น้อยกว่า 100 ลักซ์
(10) จัดให้มีกระดาษชำระ หรือน้ำสำหรับชำระให้เพียงพอสำหรับห้องส้วมทุกห้อง รวมทั้งจัดให้มีการทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน
นอกจากนี้ ส้วมต้องมีไม่น้อยกว่า 6 ที่ ต่อจำนวนแผงไม่เกิน 40 แผง โดยแยกเป็นส้วมชาย 2 ที่ ส้วมหญิง 4 ที่และให้เพิ่มทั้งส้วมชายและส้วมหญิงอีก 1 ที่และ 2 ที่ ตามลำดับต่อจำนวนแผงที่เพิ่มขึ้นทุก 25 แผง ที่ถ่ายปัสสาวะชายต้องจัดให้มีไม่น้อยกว่าจำนวนส้วมชายและอยู่ในบริเวณเดียวกัน ส่วนอ่างล้างมือต้องจัดให้มีไม่น้อยกว่า 1 ที่ต่อส้วม 2 ที่ และที่ถ่ายปัสสาวะ 2 ที่
"ที่รวบรวมขยะมูลฝอย" ต้องมีลักษณะเป็นสิ่งปลูกสร้างถาวร หรือเป็นที่พักมูลฝอยที่เจ้าพนักงานสาธารณสุขเห็นว่าเหมาะสมกับตลาดนั้นๆ มีขนาดเพียงพอที่จะรองรับปริมาณมูลฝอยในแต่ละวัน มีการปกปิดสามารถป้องกันสัตว์เข้าไปคุ้ยเขี่ยได้ ตั้งอยู่นอกตัวอาคารตลาดและอยู่ในพื้นที่ที่รถเข้าออกได้สะดวก "ที่จอดรถ" ต้องจัดให้มีตามความเหมาะสมตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด
ต่อมาคือ "ตลาดประเภทที่ 2" หมายถึงตลาดที่ไม่มีโครงสร้างอาคารและดำเนินกิจการเป็นการประจำหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สิ่งที่ต้องพิจารณา "ตัวพื้นที่ขายของ"
(1) พื้นทำด้วยวัสดุถาวรแข็งแรง เรียบ ทำความสะอาดง่ายและไม่มีน้ำขัง
(2) จัดให้มีรั้วที่สามารถปองกันสัตว์ต่างๆ เขาไปพลุกพล่านในตลาดได้
(3) แผงขายสินค้า ต้องทำด้วยวัสดุถาวร เรียบ มีความลาดเอียง และทำความสะอาดง่ายสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร ด้านล่างของแผงไม่ใช้เป็นที่เก็บหรือสะสมสินค้าแลแของอื่นๆ และมีทางเข้าแผงสำหรับผู้ขายของกวางไม่น้อยกว่า 70 เซนติเมตร
(4) ทางเดินสำหรับผู้ซื้อมีความกว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร
(5) จัดให้มีน้ำประปาหรือน้ำที่สะอาดไว้ใช้ในตลาดอย่างเพียงพอ
และ (6) มีทางระบายน้ำรอบตลาดแบบเปิด ทำด้วยวัสดุถาวร เรียบ มีความลาดเอียง ระบายน้ำได้สะดวก มีบ่อดักมูลฝอย บ่อดักไขมัน บ่อพักน้ำเสียและมีการบำบัดน้ำเสีย โดยในท้องที่ที่ใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารต้องจัดให้มีระบบบำบัดนาเสียและน้ำทิ้งต้องได้มาตรฐานน้ำทิ้งตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ส่วนในท้องที่ที่ยังไม่ใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ให้มีบ่อพักน้ำเสียก่อนระบายน้ำออกจากตลาดสู่ท่อสาธารณะ ทั้งนี้ ต้องไม่ระบายน้ำสู่แหล่งน้ำสาธารณะ และไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนข้างเคียง
สำหรับห้องน้ำห้องส้วมของตลาดประเภทที่ 2 ให้ใช้ข้อปฏิบัติเดียวกับตลาดประเภทที่ 1 โดยให้สร้างอยู่นอกพื้นที่ขายของ เช่นเดียวกับที่รวบรวมขยะมูลฝอย หากแต่ที่ทิ้งขยะของตลาดประเภทที่ 2 ไม่ต้องสร้างเป็นสิ่งปลูกสร้างถาวรอย่างตลาดประเภทที่ 1 ทั้งนี้ "ตลาดประเภทที่ 2 ไม่มีข้อกำหนดว่าด้วยที่จอดรถ" อย่างตลาดประเภทที่ 1 และ "ตลาดประเภทที่ 3" หมายถึงตลาดที่ไม่มีโครงสร้างอาคารและดำเนินกิจการชั่วคราวหรือเป็นครั้งคราวหรือตามวันกำหนด โดยผู้ที่จะทำตลาดประเภท 3 สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ
"พื้นที่ขาย"
(1) แผงขายสินค้าสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร
(2) ทางเดินระหว่างแผงสำหรับผู้ซื้อต้องกว้างไม้น้อยกว่า 2 เมตร
(3) จัดให้มีน้ำประปาหรือน้ำที่สะอาดไว้ใช้ในตลาดอย่างเพียงพอ
และ (4) จัดให้มีตะแกรงดักมูลฝอยบริเวณท่อระบายน้ำก่อนปล่อยน้ำทิ้งลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ ส่วนห้องน้ำห้องส้วมใช้หลักเกณฑ์เดียวกับตลาดประเภทที่ 2 เว้นแต่จะจัดให้มีส้วมเคลื่อนที่หรือมีส้วมสาธารณะ หรือส้วมของหน่วยงานราชการที่ได้รับอนุญาตให้ใช้อยู่ใกล้เคียงห่างไม่เกิน 100 เมตร และที่รวบรวมขยะมูลฝอย ใช้หลักเดียวกับตลาดประเภทที่ 2 และเช่นเดียวกัน ตลาดประเภท 3 ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีที่จอดรถ
2.มีตลาดแล้วก็ต้องรักษาความสะอาด ในกฎหมายเดียวกันระบุไว้ตั้งแต่ "แยกหมวดหมู่สินค้า" เช่น ของสดซึ่งเป็นวัตถุดิบประกอบอาหาร อาหารแปรรูป อาหารปรุงสำเร็จ และสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหาร เพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความสะอาด "อย่าให้น้ำหยดลงพื้นในกรณีเป็นอาหารสด" ทำท่อหรือตะแกรงนำน้ำจากตัวอาหารสดลงสู่ท่อระบายน้ำให้เรียบร้อย "อย่าวางข้าวของเกะกะ" จนกีดขวางทางเดินในตลาดและทางเข้า-ออก "ห้องน้ำต้องพร้อมใช้งาน" ตลอดเวลาเปิดทำการ อีกทั้งต้องเปิด-ปิดตลาดตามเวลาที่ขออนุญาตไว้ และล้างตลาดทุกวันในกรณีตลาดประเภท 1 กับประเภท 2 ส่วนตลาดประเภท 3 แม้ไม่มีข้อกำหนดให้ล้าง แต่ให้เก็บกวาดขยะมูลฝอยให้เรียบร้อย
3.โครงสร้างและอุปกรณ์ต่างๆ ในตลาดต้องบำรุงรักษา ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ ทั้งตัวอาคารหรือเพิงสำหรับขายสินค้า แสงสว่าง ระบบระบายอากาศ ระบบพักหรือบำบัดน้ำเสียตามแต่ที่กำหนดไว้ในตลาดแต่ละประเภท
4.ระวังปัจจัยก่อโรคติดต่อหรือความเดือดร้อนต่อพื้นที่โดยรอบ เช่น ไม่นำสัตว์เข้าไปในตลาดเว้นแต่สัตว์ที่มีไว้จำหน่าย อย่าก่อไฟในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญ อย่าทิ้งขยะเทสิ่งปฏิกูลนอกพื้นที่ที่กำหนดไว้ อย่าทำให้น้ำใช้ในตลาดเกิดความสกปรก อย่าใช้ตลาดเป็นที่หลับนอน เป็นต้น
5.ผู้ค้าและพนักงานในตลาด ต้องให้ความร่วมมือในการดูแลรักษาความสะอาดในตลาดตามข้อปฏิบัติที่กำหนดของตลาดแต่ละประเภท รวมถึงต้องไม่เป็นผู้เป็นโรคร้ายแรงที่สังคมรังเกียจ ได้แก่ วัณโรค อหิวาตกโรค ไข้ไทฟอยด์ โรคบิด ไข้สุกใส ไข้หัด โรคคางทูม โรคเรื้อน โรคผิวหนังที่น่ารังเกียจ และโรคไวรัสตับอักเสบชนิดเอ แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย รักษาความสะอาดร่างกาย และหากเป็นกรณีการจำหน่ายสินค้าประเภทอาหาร ต้องเก็บรักษาทั้งวัตถุดิบ อาหารปรุงสำเร็จ และเครื่องมือประกอบอาหารตามหลักสุขอนามัย
6.หน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่น เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าฯ กทม. ปลัดเมืองพัทยา หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในเขตปกครองท้องถิ่นนั้นๆ (อาทิ นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล) ในฐานะ "ผู้พิจารณาใบอนุญาตให้ดำเนินการตลาด" ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ให้อำนาจออกข้อกำหนดท้องถิ่นเกี่ยวกับการบริหารจัดการตลาดให้ถูกสุขลักษณะ ทั้งตัวตลาดและผู้ค้า และมีอำนาจพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการตลาดหากทำผิดข้อกำหนดด้วย
อนึ่ง..สำหรับผู้ขออนุญาตนอกจากจะต้องคำนึงถึงความสะอาดแล้ว ยังต้องดูเรื่องของ "ผังเมือง" ด้วย อาทิ สำหรับ กทม. ให้ดูตาม "กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2556" ว่าที่ดินของท่านสามารถประกอบกิจการใดได้บ้าง!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี