ประชากรวัยเด็กมีแนวโน้มลดน้อยลง ขณะที่จำนวนประชากรสูงอายุมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น แสดงว่าโครงสร้างประชากรได้เปลี่ยนแปลงเข้าไปสู่ “สังคมสูงอายุ” (Aging society) ทั้งนี้องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ให้นิยามผู้สูงอายุหมายถึง ประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 1.ระดับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging society) หมายถึงสังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไป มากกว่า 10% มีประชากรอายุตั้งแต่ 65 ปีมากกว่า 7%
2.ระดับสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged society) หมายถึง สังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไป มากกว่า 20% หรือมีประชากรอายุตั้งแต่ 65 ปี มากกว่า 14% และ 3.ระดับสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ (Super-aged society) หมายถึง สังคมที่มีประชากรอายุ 65 ปี ขึ้นไป มากกว่า 20% โดย สิงคโปร์ เป็นประเทศที่เข้าสู่ระดับสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่เร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ตามด้วยไทย บรูไนและเวียดนาม
"การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศอาเซียน ส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของภาวะเจริญพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้จำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยลง ส่งผลให้สัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างมากในแต่ละประเทศ การมีอายุยืนยาวขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ประชากรสูงอายุมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น พิจารณาได้จากอายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิด พบว่าทุกประเทศมีอายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
ส่วนการรับมือนั้น สิงคโปร์มีโปรแกรมช่วยเหลือที่น่าสนใจมาก ตั้งแต่ 1.Medisave โดยประชาชนแต่ละคนต้องจ่ายเงินประมาณ 8%-10.5% ต่อปีเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ฐานะผู้สูงวัย เพื่อจะได้มีเงินไว้รักษาตัว บวกกับการสนับสนุนของทางราชการ 2.Enhancement for Active Seniors (EASE) โดยรัฐออกเงินให้ 95% ของค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับผู้สูงวัย เช่น ราวบันไดใหม่ ทำพื้นที่ไม่ลื่น ฯลฯ
3.ComCare Long Term Assistance ผู้สูงวัยจะได้เงิน 1,180 สิงคโปร์ดอลลาร์ (28,000 บาทต่อเดือน) หากไม่สามารถช่วยตนเองได้ เจ็บป่วย และอาจมีเงินสนับสนุนทางอื่นด้วย 4.Silver Support Scheme รัฐบาลจ่ายเงินเพิ่มให้อีกเดือนละ 300-750 เหรียญสิงคโปร์ (8,300-18,000 บาท) สำหรับคนแก่ที่มีรายได้ต่ำสุด 20% แรกที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว5
5.Pioneer Generation Package ผู้สูงวัยในฐานะผู้บุกเบิกสิงคโปร์ (เกิดก่อน 31 ธันวาคม 2492) หรือผู้ที่เปลี่ยนมาเป็นสัญชาติสิงคโปร์ก่อน 31 ธันวาคม 2529 จะได้รับเงินไม่เกิน 800 สิงคโปร์ดอลลาร์ (19,000 บาท) ต่อปีและอื่นๆ เป็นการเพิ่มเติม 6.Lease Buyback Scheme โดยผู้สูงวัยที่มีห้องชุด 4 ห้องนอนหรือน้อยกว่านี้สามารถให้ทางราชการเซ้งห้องชุดต่อเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายได้ และ 7.Senior Citizen Concession Card ผู้สูงวัยมีสิทธิพิเศษในการจ่ายค่ารถราต่างๆ ในอัตราต่ำกว่าปกติ
ส่วนมาตรการของประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ บรูไน รัฐบาลมีโปรแกรมสำหรับผู้สูงวัย เช่น ละเว้นภาษี การดูแลสุขภาพ การศึกษาและที่อยู่อาศัย รวมทั้งเงินบำนาญเดือนละ 6,000 บาท , ฮ่องกง มีศูนย์รับเลี้ยงผู้สูงวัยในเวลากลางวันให้กับผู้สูงวัยโดยมีทั้งอาหาร กิจกรรมต่าง ๆ การให้คำปรึกษา และอื่น ๆ เสริมให้อีกด้วย , ญี่ปุ่น เริ่มใช้หุ่นยนต์ในการดูแลผู้สูงวัย รวมทั้งการให้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อสนับสนุนการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัย ,
ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะย่านมากาตี ทางราชการยังให้บัตรรักษาพยาบาล ได้บัตรดูหนัง เค้กวันเกิด และเงินอีก 100,000 เปโซ (60,000 บาท) เป็นเงินบำเหน็จอีกด้วย, ศรีลังกา มีเงินบำเหน็จให้ประมาณ 20,000-50,000 บาท นอกจากนี้รัฐบาลยังให้ดอกเบี้ยเงินในอัตราต่ำพิเศษแก่ผู้สูงวัยอีกด้วย, ไต้หวัน ผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะได้รับการสนับสนุน เช่น การสนับสนุนทางการเงินแก่ครอบครัวที่ดูแลผู้สูงวัย มีโปรแกรมให้ผู้สูงวัยได้รับการดูแลโดยชุมชนเอง นอกจากนี้ยังทำคล้ายในญี่ปุ่นที่ให้เทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนการดำรงชีวิตของผู้สูงวัยอีกด้วย
“ถึงกระนั้น บางครั้งผู้สูงวัยจำเป็นต้องมีทางออกแปลกๆ เช่น เคยมีข่าวว่าผู้สูงวัยญี่ปุ่นตบเท้าเข้าคุก หนีค่าครองชีพสูงบำนาญต่ำ หรืออย่างในประเทศไทย ทางออกทางเป็นไปได้ก็เช่น การบวชเป็นพระ หรือสำหรับสุภาพสตรีก็บวชชี ซึ่งก็จะสามารถช่วยสนับสนุนผู้สูงวัยให้สามารถครองชีพตามอัตภาพได้ระดับหนึ่ง หากเป็นกรณีเจ็บป่วย และมีบัตรทอง ก็ยังสามารถได้รับการรับการรักษาพยาบาลตามอัตภาพอีกเช่นกัน”
การที่ในประเทศไทยมีประชากรสูงวัยประมาณ 10.5% หรือ 7.3 ล้านคนนั้น หากเป็นผู้สูงวัยที่ยากไร้ขาดที่พึ่ง น่าจะมีประมาณ 730,000 คน หรือราว 10% ของผู้สูงวัยทั้งหมด ในจำนวนนี้หากต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลคนละประมาณ 500 บาทต่อวัน ก็จะเป็นเงินปีละ 79,935 ล้านบาท หรือเพียง 2.8% ของงบประมาณแผ่นดินปี 2561 เท่านั้น แสดงว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุน ยิ่งกว่านั้นหากคิด ณ อัตราคืนทุนที่ 10% เงิน 79,935 ล้านบาท ก็เป็นเงิน 799,350 ล้านบาท เงินส่วนนี้อาจต้องระดมทุนจากกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องมีการวางแผนในระยะยาว
จะเห็นได้ว่าการจัดสวัสดิการสังคมแก่ผู้สูงวัย คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำได้ หากรัฐบาลจะดำเนินการ (และโดยไม่ให้มีการทุจริต)!!!
โสภณ พรโชคชัย
ประธานกรรมการบริหาร
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี