ชำแหละประวัติ‘ไพร่หมื่นล้าน ธนาธร’ จากหวังเป็นนักแต่งรถ ซิ่งสู่ฝัน'อนาคตใหม่'บนสนามการเมือง
หลังจาก “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ยักษ์อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit มีใจความระบุว่า “ผมขอเชิญพี่น้องสื่อมวลชนมาร่วม #กินกาแฟกับธนาธร ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคมนี้ เพื่อร่วมพูดคุยเปิดใจกับกลุ่มเพื่อนธนาธร หลังจากนั้นเวลา 10.00 น.จะเดินทางไปยื่นเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองที่ กกต. ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ....” พร้อมกับขอบคุณแฟนเพจที่ร่วมแสดงความเห็นตั้งชื่อพรรคการเมือง
การประกาศตัวอย่างชัดเจนของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ครั้งนี้ ทำให้เกิดมีการตั้งคำถามว่ามาจากอุดมการณ์ล้วนๆของนายธนาธร เอง หรือมี “เป้าหมายอื่น” แฝงอยู่ เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยเปิดตัวให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมาแล้วว่าอยู่ฝั่งเดียวกับ “กลุ่มคนเสื้อแดง”
สำหรับ นายธนาธร หรือ “เอก” เป็นนักธุรกิจชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ในปี 2561 เขาแสดงความต้องการเข้าสู่เส้นทางทางการเมืองในฐานะตัวแทน “คนรุ่นใหม่” ในการเลือกตั้งครั้งถัดไปที่จะมีขึ้น
นายธนาธร เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 5 คนของนายพัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ และนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงมีศักดิ์เป็น “หลานอา” ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย
เขาเข้าศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ ด้วยหวังจะเป็น “นักแต่งรถ”
เมื่อนายธนาธร เริ่มชีวิตในระดับมหาวิทยาลัย เขามีความรู้สึกท้อแท้กับการศึกษาและหมดแรงกระตุ้นในการเรียน เขามีความเชื่อว่า “ใบปริญญา” เป็นสิ่งหลอกลวง ไม่จำเป็นต้องมีปริญญาก็มีความรู้ได้
ตั้งแต่นั้นเขาก็หันไปเอาดีทางด้านกิจกรรมในมหาวิทยาลัย เขาได้รับเลือกเป็นอุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี 2542 และได้รับเลือกเป็นรองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยในปี 2543
ในช่วงที่เรียนอยู่ธรรมศาสตร์นี้เอง นายธนาธรได้มีโอกาสพาตัวเองเข้าไปร่วมม็อบของ “กลุ่มคนจน” หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของสมัชชาคนจน , กรรมกรไทยเกรียง , เครือข่ายสลัมสี่ภาค , การประท้วงกรณีท่อก๊าซไทย-มาเลย์ เป็นต้น
ในครั้งที่ร่วมชุมนุมกับสมัชชาคนจน เขาเคยเคยปรากฏขึ้นหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ขณะเป็นแนวหน้าให้ชาวบ้านสมัชชาคนจนที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่าง “ปีนทำเนียบรัฐบาล” เรียกร้องให้รัฐบาลชวน หลีกภัย เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล จนตัวเองได้รับบาดเจ็บ
เมื่อขึ้นชั้นปีที่ 3 นายธนาธร ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ ที่อังกฤษนี้เองเขาเริ่มศึกษาทฤษฎีของ “คาร์ล มากซ์ และ “วลาดีมีร์ เลนิน”
นายธนาธร ระบุว่า ตัวเองในช่วงนี้มีหัวคิดแบบ “สังคมนิยม” เขากลับมาทำงานด้านเอ็นจีโอที่ไทยได้ราวครึ่งปี บิดาของนายธนาธร เสียชีวิตในปี 2545 ในฐานะลูกชายคนโตของครอบครัว นายธนาธร ในวัย 23 ปี “จำใจ” ต้องกลับมารับช่วงบริหารบริษัทต่อจากบิดาและเข้าสู่ “วิถีทุนนิยม” ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยสนใจหรือยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวเลย
ตั้งแต่ที่นายธนาธร เริ่มเข้าไปบริหารไทยซัมมิท ทำให้ไทยซัมมิทเติบโตจากการมีรายได้ 16,000 ล้านบาทในปี 2544 เป็นมีรายได้ 80,000 ล้านบาทในปี 2560
นายธนาธร มีงานอดิเรก คือ “กิจกรรมผาดโผน” ทั้งการปีนเขา การพายเรือคายัค หรือการวิ่งระยะไกล
เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนไทยจำนวน 10 คน ที่ไปปักธงชาติไทยที่ “ขั้วโลกใต้” เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี