15 มี.ค.61 เป็นเพราะถูกปลูกฝังให้ทำมาหากิน ดิ้นรน เพื่อปากท้องมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากรุ่นสู่รุ่นมายาวนาน ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนมักจะพบเห็น เด็กนักเรียน ขับขี่จักรยานเป็นกลุ่มๆ ละ 5 -6 คน ถือไม้ไผ่ยาว 4-5 เมตร สะพายข้องหรือไม่ก็ตาข่ายทำเป็นถุง สำหรับใส่กะปอม ตระเวนจับกะปอม ทำเป็นอาหาร ที่เหลือ ถ้ามีคนซื้อก็จะ ขาย เป็นค่าขนม
ด.ช.กริชชัย งามละออ อายุ 12 ปี จ.อำนาจเจริญ เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านภูเขาขาม ต.คึมใหญ่ บอกว่า ครอบครัวทำนาปลูกข้าว ฐานะยากจน จึงต้องช่วยพ่อแม่ทำมาหากินทุกอย่าง และทุกวัน ในตอนเช้าอากาศไม่ค่อยร้อน กะปอมจะออกมาหาจับแมลงกินเป็นอาหาร โดยจะเกาะอยู่ตามต้นไม้ หรือริมรั้วบ้านข้างถนน ก็จะออกไปหาจับกะปอมมาทำเป็นอาหาร ที่เหลือหากมีคนซื้อก็ขาย
ซึ่งไปกัน 5- 6 คน ด้วยการขับขี่จักรยานคนละ 1 คัน พร้อมอุปกรณ์ในการจับกะปอม (กิ้งก่า) เช่น ไม้ไผ่ยาว 5 เมตร ที่ปลายไม้ไผ่ใช้เชือกเอ็นทำเป็นบ่วงคล้องกะปอม และตาข่ายทำเป็นถุง ใส่กะปอม หากใช้ข้อง มันใบเล็ก เมื่อเตรียมอุปกรณ์ครบแล้ว ก็จะปั่นจักรยานไปตามถนนระหว่างหมู่บ้าน ตำบล สายตาก็จะสอดส่ายมองหากะปอมตลอดเวลา หากพบเห็นกะปอมเกาะอยู่กิ่งไม้ หรือริมรั้วบ้าน ก็จะจอดรถ ค่อยๆเดินย่องเข้าหาพร้อมผิวปาก เพื่อสะกดกะปอมไม่ให้หลบหนี ซึ่งเป็นกลยุทธ์การจับกะปอมที่บรรพบุรุษใช้มาได้ผลดีมาแล้ว เมื่อกะปอมได้ยิงเสียงเพลงจากการผิวปาก จะผงกศรีษะรับเข้าจังหวะเสียงเพลงผิวปาก จากนั้นก็ใช้ไม่บ่วงเกี่ยวที่คอแล้วกะตุก กะปอมจะดิ้นไม่หลุด หากพลาด ก็จะมีเพื่อนอีกคน เตรียมหนังสติ๊ก รอยิงทันที ในวันหนึ่งจะจับกะปอมได้ 20 -30 ตัว ก็จะแบ่งกัน ที่เหลือหากมีคนซื้อก็จะขาย ราคา 3 ตัว 10 บาท แต่ละวันจะได้เงิน 300-500 บาท ก็จะ แบ่งกันคนละครึ่ง
ด้านนายวิเชียร เกื้อทาน ผู้อำนวยการโรงเรียนสร้างนกทา ต.สร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ระยะนี้ อากาศร้อยอบอ้าวมาก ในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ จะพบเห็นนักเรียนจับกลุ่มกันไปหาจับสัตว์ต่างๆมาทำเป็นอาหารหรือขาย ไม่ว่า จะเป็น จักจั่น แมงกีนูน ไข่มดแดง กะปอม (กิ้งก่า) เป็นต้น แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เนื่องจากการออกไปจับกิ้งก่าหรือกะปอม ท่ามกลางแสงแดดแรงจ้า และอากาศร้อนอบอ้าว ถ้าเด็กอยู่กลางแจ้งนานๆ อาจเป็นโรคลมแดด ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะการแวะเล่นน้ำคลายร้อนตามอ่างเก็บน้ำใกล้บ้าน หากอยู่ในน้ำนานๆอาจจะเป็นตะคริว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กจมน้ำเสียชีวิต ทุกปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี