16 มี.ค.61 จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ศูนย์รวมแหล่งอารยธรรมขอมโบราณบนดินแดนแห่งลำนำและตำนาน” ในพื้นที่เขตอีสานตอนล่าง ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และยังคงร่องรอยของมรดกทางวัฒนธรรมชิ้นเอกของโลก ซึ่งมีความงดงามในด้านสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า สร้างจินตนาการย้อนรอยกลับไปอดีตในสมัยพันกว่าปีได้เป็นอย่างดี สถนที่แห่งนี้คือ “ปราสาทหินพนมรุ้ง”
ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นปราสาทหินทราย ที่มีการวางผังอย่างมีระเบียบ โดยสร้างเทวาลัยบนเนินเขา ตั้งอยู่ที่บ้านตาเป็ก ต.ตาเป็ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ อยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ ประมาณ 77 กิโลเมตร เป็นศาสนสถานที่สำคัญสมัยลพบุรี ที่มีอายุประมาณพันปี ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 1,320 ฟุต จากระดับน้ำทะเล กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติแล้ว
นักโบราณคดีเชื่อว่า “มหาเทวาลัยพนมรุ้ง” สร้างขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 15-18 โดยมหาฤาษีนเรนทราทิตย์ ซึ่งเป็นญาติของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 แห่งขอม ต่อมาเกิดการแก่งแย่งเพื่อสืบราชสันตติวงศ์ นเรนทราทิตย์ได้เสด็จหนีออกไปบำเพ็ญพรตภาวนา เพราะเบื่อการแย่งชิงอำนาจ และได้เดินทางไปพบถ้ำบนเขาพนมรุ้งในที่สุด
นเรนทราทิตย์ เป็นผู้ที่เคร่งในศาสนาฮินดู และจากการเสด็จออกไปบำเพ็ญพรตภาวนาในป่า จึงมาพบภูเขาพนมรุ้ง และได้เลือกเป็นที่บำเพ็ญบุญในถ้ำเงียบสงบ ทั้งได้สร้างปราสาทหินทรายถวายแด่พระอิศวร ตามตำนานเล่าว่า หลังจากนเรนทราทิตย์บวชเป็นฤาษีเข้าไปบำเพ็ญภาวนาโดยปิดปากถ้ำไว้ ด้วยความเพียรจึงได้ตบะญาณทำลายปากถ้ำออกมาพบกับแสงสว่างภายนอก เป็นมหาฤาษี ณ ปราสาทพนมรุ้ง แห่งนี้
นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ประเพณีการเดินขึ้นเขาพนมรุ้ง เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2481 โดยท่านเจ้าคุณโอภาสธรรมญาณ วัดท่าประสิทธิ์ จังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางไปวิปัสสนากรรมฐานบนเขาพนมรุ้ง ในวันแรม 1 ค่ำเดือน 5 ชาวบ้านจึงจัดให้มีกิจกรรมสำคัญ การทำบุญปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลอง และถือเอาวันนั้นเป็นวันฉลองประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง เป็นครั้งแรก
จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกับกรมศิลปากร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง เพื่อสืบทอดประเพณีแต่อดีต โดยนำข้อสันนิษฐานต่างๆ มาเรียงร้อยเรื่องราว จำลองภาพขบวนเสด็จของกษัตริย์ในอดีต พร้อมจัดเตรียมเครื่องบูชา มาร่วมขบวนด้วย
สำหรับขบวนเทพพาหนะทั้ง 10 ทิศ ประกอบด้วย หงส์ สัตว์พาหนะของพระพรหม ทางทิศเบื้องบน ช้าง สัตว์พาหนะของพระอินทร์ ทางทิศตะวันออก , วัว สัตว์พาหนะของพระอิศวร ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ , แรด สัตว์พาหนะของพระอัคนี ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ , คชสีห์ สัตว์พาหนะของพระกุเวร ทางทิศเหนือ , นกยูง สัตว์พาหนะของพระขันธกุมาร ทางทิศใต้ , นาค สัตว์พาหนะของพระวิรุณ ทางทิศตะวันตก , ม้า สัตว์พาหนะของพระพาย ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ , รากษส สัตว์พาหนะของพระนิรฤติ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และ กระบือ สัตว์พาหนะของพระยาเทพพิทักษ์ ทางทิศเบื้องล่าง โดยตลอดเส้นทางจะมีหญิงสาวยืนโปรยปรายดอกไม้ เพื่อต้อนรับขบวนเสด็จทั้งสองข้างทางด้วย
จังหวัดบุรีรัมย์ได้ประกาศให้ปราสาทพนมรุ้ง เป็นอุทยานประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 เป็นต้นมา ทั้งนี้ เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ให้คงอยู่ ทางจังหวัดจึงได้กำหนดจัดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งในปีเดียวกันกับการเปิดอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวชมโบราณสถานแห่งนี้
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า การจัดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งในปี 2561 นี้ จะจัดให้มีความยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งทางจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมศิลปากร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 30 มี.ค. -1 เม.ย.61 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะปราสาทหินพนมรุ้งให้เพิ่มมากขึ้น และเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามด้วย
โดยภายในงานจะมีกิจกรรมการแสดงมากมาย ทั้งการบวงสรวงองค์พระศิวะและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาพนมรุ้ง ซึ่งจะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 31 มี.ค. ด้วยขบวนแห่เทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ขบวนแห่พาหนะเทพ ผู้พิทักษ์ทิศทั้ง 10 และขบวนเสด็จพระนางภูปตินทรลักษมีเทวีอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งปีนี้ผู้ที่รับบทเป็น พระนางภูปตินทรลักษมีเทวี คือ กัญญารัตน์ พงศ์กัมปนาท หรือ นินิว รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2554 ส่วนผู้ที่รับบทแสดงเป็นองค์นเรนทราทิตย์ คือ มุขพล โปษกะบุตร หรือ พอล
ชมการแสดง แสง สี เสียง ที่เป็นมิติใหม่ของประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง โดยจะมีการสอดประสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ Dimensional Mapping Light & sound Show เรื่อง เรืองศรัทธาศิวะนฤมิตร เรืองวิจิตรคุณค่าพนมรุ้ง การแสดงแสงแห่งศรัทธาปราสาทหินพนมรุ้ง การแสดง Special Light Show ใต้แนวความคิด เจิดแจรงแสงศรัทธา ซึ่งเป็นการย้อมองค์ปราสาทพนมรุ้งด้วยแสงสีที่สวยงาม พร้อมบทบรรยายบอกเล่าเรื่องราวมนต์ขลังของมหาเทวาลัย จำลองแสงพระอาทิตย์สาดส่องลอด 15 ช่องประตู ในเวลากลางคืน
พร้อมเปิดตลาดอารยธรรมเรืองตระการตลาดวนัมรุง ให้ผู้ที่มาเที่ยวงานจะได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม ผ้าฝ้ายที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทั้งผ้าซิ่นตีนแดง ผ้าหางกระรอกคู่ตีนแดง ผ้าภูอัคนี (ผ้าฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟ) รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร เครื่องใช้ และของที่ระลึกอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองโบราณหายากเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น จาก 23 อำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ มาให้ให้เลือกซื้อ เลือกชม และเลือกชิมได้ตลอดทั้งงาน
ขณะเดียวกันในวันที่ 3-5 เม.ย.61 เวลา 06.10 น. จังหวัดบุรีรัมย์ ขอเชิญร่วมพิสูจน์ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ แสงพระอาทิตย์ ส่องตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง ผ่านศิวลึงค์ ซึ่งอยู่กลางปราสาทองค์ประธาน ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นบนยอดเขาพนมรุ้ง เพียงปีละ 4 ครั้ง เท่านั้น นับว่าเป็นการรับพลังแสงอาทิตย์ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองช่วงหน้าร้อนนี้ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น หากไม่รู้หรือยังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวไม่ได้ ชาวบุรีรัมย์ขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวชม “งานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง” ประจำปี 2561 ในวันและเวลาดังกล่าว เพื่อชมความอัศจรรย์ของพระอาทิตย์ที่สาดส่อง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง ชมอารยธรรมขอมโบราณ เพื่อสืบสานความเป็นไทยในวัฒนธรรมของชาติอันล้ำค่า ร่วมกันฟื้นฟูศาสนสถานพนมรุ้ง มุ่งสู่อารยธรรมโลก เพื่อคงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี