ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.บ้านดุง ทำเรื่องขอย้ายตัวเองออกจากคำชะโนด หลักถูกภัยมืดจากกลุ่มมาเฟีย และผู้มีอิทธิพลที่เขาไปแสวงหาผลประโยชน์ในคำชะโนดคุกคาม ขณะที่ "นายอำเภอ"และ"กำนัน" ยอมรับมีจริง ด้านชาวบ้านแฉมีทั้งกรรมการคำชะโนดและเจ้าหน้าที่รัฐแสวงหาผลประโยชน์จนหลายคนยกฐานะจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีการซื้อขายตำแหน่งการเข้าไปดูแลในคำชะโนดกันว่าเล่น เผยทหาร-จังหวัดขยับเตรียมเข้าไปจัดระเบียบอีกครั้ง
19 เม.ย.61 พันจ่าเอกยศกร เพชรล้ำ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าของรัฐที่ทางจังหวัดอุดรธานี ส่งเข้าไปจัดระเบียบคำชะโนดร่วมกับคณะกรรมการคำชะโนด แต่เกิดปัญหาขึ้นอีกเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาดูแลคำชะโนดก่อนหน้านี้ได้ถอนตัวออกไป และให้ทางอำเภอจัดระเบียบกันเอง จนมีกลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์ข่มขู่และคุกคามปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ที่เข้าไปดูแลจัดระเบียบคำชะโนด จนเจ้าตัวต้องขอย้ายออกจากพื้นที่ทันที
พันจ่าเอกยศกร เพชรล้ำ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.บ้านดุง เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเป็นข่าวมีการคุกคามจริงลักษณะคือการเล่นนอกเกม เช่นการขับรถประกบให้กลัวบ้าง ลักษณะการงัดบ้านพักโดยที่ของไม่หายบ้าง ที่เป็นการกระทำเชิงจิตวิทยา ถามว่าเรากลัวไหม เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ที่อาจจะเป็นการข่มขู่ด้วยวาจา ที่เป็นเรื่องปกติที่ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงต้องเจอ ไม่ใช่ว่าที่บ้านดุง แต่จะเป็นแบบนี้ทุกอำเภอที่ต้องเจอแบบตนแน่นอน การขอย้ายไม่ใช่ว่าเป็นการหนีตาย แต่ตนคิดว่าการขอย้ายคือ ถ้าเรายอมถอย คนใหม่ที่จะมาทำงานแทน อาจจะทำให้พื้นที่พัฒนาได้ดีกว่าที่เราทำอยู่ก็ได้
"ตอนนี้หนังสือคำร้องขอย้ายผมก็เขียนไว้แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ยื่นต่อผู้บังคับบัญชา เมื่อยื่นไปแล้วก็สุดแต่ทางผู้บังคับบัญชาจะให้อยู่ต่อหรือให้ไป เพราะเราเป็นข้าราชการอาชีพ เมื่อมีคำสั่งมา หากอยู่ต่อเราก็ต้องทำเต็มที่กับงานเหมือนเดิม ในฐานะที่เป็นข้าราชการฝ่ายปกครอง ที่ต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุข มองผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ถ้าสิ่งที่เราทำเกิดผลประโยชน์ในภาพรวม ไม่ได้เกิดผลประโยชน์กับตัวเอง ก็เป็นวัตถุประสงค์ของกระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามว่า พอจะระบุได้หรือไม่ว่ากลุ่มไหนที่เข้ามาคุกคามจนทำให้ต้องขอย้ายออกนอกพื้นที่ พันจ่าเอกยศกร ตอบว่า อย่าให้ตนระบุว่าเป็นกลุ่มไหน แต่เป็นกลุ่มที่เสียผลประโยชน์มากกว่า ซึ่งตนก็ไม่ต้องการผูกใจเจ็บ ทางรัฐศาสตร์เขาเรียกว่ากลุ่มผลประโยชน์ ที่มีทั้งเสียและได้ผลประโยชน์ เพราะเราทำให้ชาวบ้านในภาพรวมให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ที่เป็นหน้าที่ของเรา อาจทำให้มีความขัดแย้งบ้างเป็นเรื่องธรรมดา โดยกลุ่มผลประโยชน์ที่คำชะโนด จะมีพวกร้านค้า แผงล็อตเตอรี่ เรื่องพิธีกรรม เรื่องเงินบริจาค เรื่องของบทบาทหน้าที่ เรื่องการบริหารงานบุคคล เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งความจริงสิ่งเหล่านี้มันลดน้อยลงไปเยอะมากแล้ว หากมีการผลักดัน ให้เป็นมูลนิธิคำชะโนดความโปร่งใสก็จะเกิดขึ้น และสามารถตรวจสอบได้เลย
ด้านนายวีระวัฒน์ วงศ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นยอมรับคำชะโนดแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็มีปัญหาขึ้นมาอีก และตนเองยอมรับว่ามีเรื่องผลประโยชน์จริงในคำชะโนด คงต้องช่วยกันแก้ต่อไป เรากำลังเร่งผลักดันให้เป็นมูลนิธิคำชะโนดเพื่อเป็นองค์กรที่ตรวจสอบได้ แม้นายอำเภอหรือปลัดจะย้ายไปที่อื่น แต่ก็ทำให้ไม่เกิดปัญหาอีกถือเป็นการวางรากฐานระเบียบคำชะโนดระยะยาวและไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใส
ทางด้าน นายพงศ์ศักดิ์ ศรีชนะ กำนันตำบลบ้านม่วง กรรมการบริหารคำชะโนด เปิดเผยว่า การที่ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.บ้านดุง ถูกคุกคามตามข่าวนี้ออกมานั้น เรื่องนี้ตนไม่เคยทราบ ไม่เคยได้ยินข่าวมาก่อน ที่ผ่านมาปลัดฯคนนี้ก็ทำงานดี ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการจัดระเบียบให้ทางจังหวัดและอำเภอเข้ามาดูแล พวกเราก็ดำเนินการมาก่อน โดยตอนนั้นเรื่องของมาเฟียก็อาจจะมีบ้าง ซึ่งความจริงก็ไม่ใช่มาเฟีย แต่เป็นพวกที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ที่เป็นคนในหมู่บ้าน ที่มาเก็บค่าร้านค้า ล็อตเตอรี่ ที่ต้องเสียค่าบำรุงสถานที่ เมื่อมีการจัดระเบียบแล้ว ทุกอย่างก็มีการจัดเก็บอย่างถูกต้อง
"ข้อเท็จจริงที่ปลัดฯถูกคุกคาม คงเป็นเรื่องปัญหาข้อร้องเรียนของชุมชนอีกกลุ่ม ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของปลัด อาจจะจริงจังเกินไป จนทำให้ชาวบ้านกลุ่มนั้นไม่พอใจ ซึ่งไม่เกี่ย่วกับคณะกรรมการคำชะโนด ที่ตอนนี้เรามีการจัดเป็นฝ่ายๆ แยกกันไป ซึ่งมีการจัดระเบียบด้วยดี ตั้งแต่ทหารเข้ามาดำเนินการจัดระเบียบคำชะโนด ที่มีการวางแนวทางไว้ตั้งแต่เริ่มต้น แต่ขอยืนยันว่าไม่มีผู้มีแทธเพล มาเฟียอย่างแน่นอน แต่รับว่ามีผู้แสวงผลประโยชน์บ้าง แต่ปละปลายเท่านั้น ซึ่งเราก็เตือนบุคคลพวกนี้อยู่ว่า จะเข้ามาทำแบบนี้ไมได้ ที่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนในพื้นที่ ที่เคยมีส่วนได้เสีย ที่เขาเคยได้มาก่อน เขาก็อยากได้ในส่วนนี้ของเขา"
นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวย้ำตอนท้ายว่า ส่วนกรรมการคำชะโนดทั้งหมด 34 คน ตนยืนยันได้ว่าไม่มีใครที่ไปยุ่งเกี่ยว โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เราดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน พื้นที่ทางเกาะคำชะโนด และส่วนของทางทางวัด (ที่พักสงฆ์) ที่ร่วมดูแลด้วยกัน เน เรื่องพานบายศรี ที่รายได้จะเข้าทางวัดและชุมชน ไม่ได้เข้าทางคณะกรรมการ ทุกวันนี้คณะกรรมการฯและปลัดอำเภอ เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรต่อกัน ทุกคนก็ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันตลอด ส่วนที่ออกข่าวไป อาจจะมีความในใจกับใครบางคนก็ได้ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร
"๐ส่วนต่อไปหากให้ทางกรรมการดูแล เราก็ดูแลคำชะโนดไปได้ เรื่องเงินบริจาคก็มีกรรมการตรวจสอบทุกวัน ทั้งตำรวจ อส.เจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่จะตรวจนับร่วมกัน และมีการส่งฝากธนาคารทุกวัน แต่หากทางจังหวัดและทหาร จะเข้ามาดูแล และช่วยเราตรวจสอบอีก หากเป็นไปได้ก็จะดี เพราะที่นี่มันผลประโยชน์เยอะ"
ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสได้พูดคุยกับแม่ค้าหลายคนในคำชะโนด แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ บอกว่า หลังเจ้าหน้าที่ทหารออกไปปรากฏว่ากลุ่มผู้แสงผลประโยชน์กลับมาดูวุ่นวายอย่างมาก มีทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรรมการคำชะโนด พ่อพรามหณ์ โดยเฉพาะพ่อพราหมณ์ที่มีวาระกัน 2 ปีมีการซื้อขายตำแหน่งนี้ถึง 500,000 บาท พอเจ้าหน้าที่ทหารออกไปกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองก็ได้ใจ แต่เป็นแบบใครมือยาวสาวได้สาวเอา จนเกิดมีปัญหาผิดใจกันเอง
"ตอนนี้มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายภายในคำชะโนด ซึ่งจะปล่อยให้กรรมการคำชะโนดบริหารกันเองไม่ได้หรอก เพราะต่างคนก็ไม่เกรงใจกันคิดว่าตัวเองก็ใหญ่พอๆ กัน"
ชาวบ้านเปิดเผยด้วยว่า ตอนนี้ผู้ใหญ่บ้านที่เข้าไปเป็นกรรมการหลายคนจากเดิมฐานะไม่ค่อยดีนัก แต่ตอนนี้พบว่ามีการสร้างบ้านใหม่ สร้างรั้วใหม่ ออกรถยนต์กันแทบทุกคน จึงอยากให้ทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาดูแลและจัดระเบียบใหม่
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางจังหวัดอุดรธานีและเจ้าหน้าที่ทหารเตรียมเข้าไปดูแลจัดระเบียบคำชะโนดอีกครั้ง และมีรายงานว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีอาจจะยับยั้งคำสั่งย้ายของปลัดอำเภอบ้านดุง เพราะอยากให้ลุยสางผู้มีผลประโยชน์คำชะโนดให้สิ้นซากต่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี