เกษตรฯยกเครื่องมาตรฐานการผลิตปลาร้า เป็นมาตรฐานทั่วไป ใช้โดยสมัครใจ เพื่อส่งเสริมพัฒนายกระดับสินค้าปลาร้า ให้มีคุณภาพมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่น หนุนส่งออกสู่ตลาดโลกยอมรับ ประกาศเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 17 เมษายน 2561
19 เม.ย.61 นายพิศาล พงศาพิชณ์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปลาร้าเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่คนไทยนิยมบริโภคอย่างแพร่หลาย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การผลิตปลาร้าขยายตัวเติบโตขึ้นจากระดับครัวเรือนหรือธุรกิจขนาดเล็ก เป็นการผลิตขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยมีปริมาณการผลิตสูงถึง 40,000 ตัน/ปี มีมูลค่าตลาดในประเทศรวมปีละกว่า 800 ล้านบาท ขณะเดียวกันไทยยังมีการส่งออกปลาร้าไปต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ สปป.ลาว เวียดนาม กัมพูชา และประเทศที่มีคนเอเชียไปอาศัยอยู่จำนวนมาก ทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (EU) และกลุ่มตะวันออกลาง มูลค่าการส่งออกปลาร้าของไทยรวมกว่า 20 ล้านบาท/ปี ซึ่งปริมาณและมูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ปลาร้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักปลากับเกลือ เติมรำข้าว หรือรำข้าวคั่ว และ/หรือข้าวคั่ว ในอัตราส่วนและระยะเวลาการหมักที่เหมาะสม เพื่อให้ได้กลิ่นรสที่มีลักษณะเฉพาะของปลาร้า ก่อนบรรจุในภาชนะบรรจุ ที่สามารถป้องกันการปนเปื้อนได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไทยยังไม่มีเกณฑ์กำหนดคุณภาพที่เป็นมาตรฐานสำหรับใช้อ้างอิงการซื้อขายปลาร้า ประกอบกับการรวมตัวเป็นกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีการค้าขายอย่างเสรี จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานคุณภาพสินค้าที่เป็นที่ยอมรับ
จากเหตุผลดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย มกอช. จึงร่วมกับกรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำร่างมาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่อง "ปลาร้า" ขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตปลาร้าที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยได้มาตรฐานสากล นอกจากนี้ ยังสามารถใช้มาตรฐานฯ ดังกล่าวเป็นเครื่องมืออ้างอิงในการค้าทั้งในประเทศและการส่งออก ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศส่งผลต่อการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ปลาร้าของไทยให้เติบโตขึ้นสาระสำคัญของมาตรฐานฯ ดังกล่าว มีข้อกำหนดเกณฑ์คุณภาพ ได้แก่ ลักษณะทั่วไป สี กลิ่น และรสชาติ ทั้งยังกำหนดปริมาณเกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ในปลาร้า ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 18 โดยน้ำหนัก ซึ่งเป็นปริมาณที่สามารถยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ก่อโรคได้ นอกจากนั้น ต้องไม่พบตัวอ่อนพยาธิตัวจี๊ด และตัวอ่อนพยาธิใบไม้ตับ และต้องไม่มีสิ่งแปลกปลอม เช่น เส้นผม ดิน ทราย กรวด รวมถึงแมลง มอด ชิ้นส่วนของแมลง ขนสัตว์ และสิ่งปฏิกูลต่างๆ ด้วย
ขณะเดียวกัน ยังได้กำหนดเกี่ยวกับวัตถุเจือปนอาหารในปลาร้า เช่น ห้ามใช้สีและวัตถุกันเสียทุกชนิด ข้อกำหนดสารปนเปื้อน อาทิ ปริมาณสูงสุดของสารตะกั่ว ไม่เกิน 1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม สารหนูในรูปอนินทรีย์ ไม่เกิน 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และสารปรอท ต่ำกว่า 0.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เป็นต้น
อีกทั้งยังมีข้อกำหนดด้านสุขลักษณะ ปริมาณจุลินทรีย์ ภาชนะบรรจุ การบรรจุ การแสดงฉลากทั้งร้านขายปลีกและขายส่งที่ต้องระบุชนิดปลา ส่วนประกอบ ชนิดของวัตถุเจือปน วันเดือนปีที่ผลิต-หมดอายุ คำแนะนำในการเก็บรักษา-การบริโภค ตลอดจนชื่อและสถานที่ตั้งของผู้ผลิต หรือผู้แบ่งบรรจุ รวมถึงการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรด้วย
ในขั้นตอนของการกำหนดมาตรฐาน ที่ผ่านมา มกอช. ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อร่างมาตรฐานฯ ปลาร้า เพื่อนำข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาปรับปรุง
ร่างมาตรฐานฯ ให้ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ และอยู่ในแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับ พร้อมประชาสัมพันธ์มาตรฐานฯ ปลาร้าให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการรับทราบ เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมและปรับตัวก่อนที่มาตรฐานจะประกาศใช้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม "มกอช.ได้ปรับปรุงรายละเอียดร่างมาตรฐานฯ และได้นำเสนอคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรได้มีมติให้ออกประกาศกำหนด มาตรฐานสินค้าเกษตร : ปลาร้า มาตรฐานเลขที่ มกษ.7023-2561 ไว้เป็นมาตรฐานทั่วไป ใช้โดยสมัครใจ เพื่อส่งเสริมพัฒนายกระดับสินค้าปลาร้า ให้มีคุณภาพมาตรฐาน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 และมีผลตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งล่าสุด มาตรฐานดังกล่าวได้ประกาศเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561" แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี