26 เม.ย.61 บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ภายในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้กาแฟสดบ้านไร่พรเสน่ห์ และกลุ่มกาแฟตะนาวศรี ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เต็มไปด้วยต้นกาแฟอายุราว 1-2 ปี หลายหมื่นต้น ที่ปลูกบนพื้นที่โล่ง สลับกับตามใต้ต้นไม้ตามเทคนิควิธีการเพราะปลูก ตามช่วงอายุของต้นกาแฟ ก่อนจะถึงขั้นเก็บเกี่ยวที่มีต้นโตเต็มวัย ออกดอก ออกผล นับเป็นผลสำเร็จของตัวแทนเกษตรกร และเป็นผู้บริหารระดับตำบล ที่มีใจรักและประสบการณ์ในการทำการเกษตรมากว่า 40 ปี จากการลองผิดลองถูกที่นำต้นกล้าของเมล็ดกาแฟสดสายพันธุ์โรบัสต้าจากจังหวัดชุมพร มาทำการทดลองเพราะปลูกจนสามารถเพราะปลูกได้สำเร็จ ล่าสุดมีการเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้และเตรียมขยายพันธุ์ นำออกให้กับเกษตรกรในตำบลไปเพราะปลูกที่บ้านของตนเองและนำเมล็ดผลผลิตที่ได้มาส่งให้กับทางกลุ่ม เพื่อนำมาแปลรูปและเตรียมหาตลาดกระจายผลผลิต
นายเสน่ห์ แคนเพ็ชร วัย 62 ปี นายก อบต.ตำบลยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และยังเป็นเกษตรกรเจ้าของ “บ้านไร่พรเสน่ห์” เปิดประสบการณ์ให้ฟังว่า การเพาะปลูกกาแฟและการอุตสาหกรรรมกาแฟ ตนเองได้ศึกษามานานหลายปีจากการได้เดินทางไปนั่งคุยกับเกษตรกรที่ปลูกกาแฟใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เกี่ยวกับวิธีการปลูก การดูแลตลอดจนถึงขั้นตอนของการชงกาแฟรับประทานเอง หลังจากศึกษาแบบส่วนตัวและทำความเข้าใจเกี่ยวกับกาแฟมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี จึงได้มีโอกาส กลับมาทดลองปลูกกาแฟในไร่ของตนเองในพื้นที่ประมาณ 60 ไร่ เมื่อราวต้นปี 2560 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ากาแฟสามารถเจริญเติบโตและงอกงามในพื้นที่ตำบล ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นอย่างดี
ภายหลังจากที่ทดลองเพราะปลูกจนมั่นใจแล้ว ตนจึงได้ทำการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนโดยใช้ชื่อ "กลุ่มกาแฟตะนาวศรี ตำบลยางหัก" เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2561 เพื่อรวมกลุ่มเกษตรกรในตำบลผู้ที่สนใจปลูกพืชทางเลือกใหม่ในพื้นที่ตำบลยางหัก ทั้งนี้เพื่อต้องการขยายพื้นที่ในการปลูกกาแฟให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่มีราคาค่อนข้างจะคงที่ และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในอนาคต เพราะพื้นที่สำหรับการปลูกและการผลิตอุตสาหกรรมกาแฟเพื่อบริโภคในประเทศไทยยังมีน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงควรมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในชุนชน เนื่องจากการปลูกกาแฟจะต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการเพาะปลูก การดูแลรักษา ตลอดไปจนถึงการเกี่ยวผลผลิต และการทำอุตสาหกรรมกาแฟ ก็คือ การสี การคั่ว การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟในรูปแบบต่างๆ เช่น กาแฟคั่ว กาแฟดริป กาแฟผงสำเร็จรูป หรือผลิตภัณฑ์กาแฟแปรรูปอื่นๆ
นายเสน่ห์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากทางกลุ่มจะได้เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรในตำบลได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการเพราะปลูกแล้ว เรายังเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจเข้ามาเยี่ยมชมกลุ่มกาแฟตะนาวศรีฯ โดยจะมีการให้ความรู้ในเรื่องของการผลิตกาแฟ เริ่มตั้งแต่การเพาะต้นกล้าจากเมล็ด การลงปลูกในพื้นที่ การดูแลรักษา (การใส่ปุ๋ย รดน้ำ และตัดแต่งกิ่ง) ตลอดจนการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ (ทั้งนี้จะสามารถเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟในช่วงปีที่ 3 หลังจากปลูก การตากเมล็ดกาแฟ การสีเมล็ดกาแฟ การคั่วเมล็ดกาแฟ ซึ่งการคั่วเมล็ดกาแฟจะมีทั้งแบบคั่วมือและใช้เครื่องคั่ว ไปจนถึงการนำมาชงพร้อมรับประทาน ด้วยเครื่องชงแบบต่างๆ และยังมีการนำกาแฟมาแปรรูปกาแฟเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้ แบลนด์ อุ๊ยเก่อ คอฟฟี่ "กาแฟสด คั่วเอง ชงเอง" อีกด้วย เช่น การทำสบู่กาแฟ ฯลฯ ซึ่งในปัจจุบันเรามีสมาชิกและเกษตรกรในกลุ่มผู้ปลูกกาแฟกว่า 29 ราย และมีพื้นที่การปลูกกาแฟในตำบลยางหักกว่า 400 ไร่ และเมื่อได้ผลผลิตแล้ว ทางกลุ่มกาแฟตะนาวศรียังมีการจัดเตรียมการรับซื้อผลผลิตคืนจากสมาชิกผู้ปลูกด้วย
ทางด้านนายนวพล ชัยชูมินทร์ วัย 42 ปี ผู้ดูแลไร่พรเสน่ห์ และ กลุ่มกาแฟตะนาวศรี เล่าให้ฟังว่า เดิมตนเองเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา หรือ โคราช ได้มีโอกาสสัมผัสและเรียนรู้การปลูกกาแฟตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากพักอยู่ในไร่กาแฟ ทำให้มีความคุ้นเคยและเข้าใจวิธีการเพราะปลูก รวมไปถึงการชงกาแฟรับประทานเป็นอย่างดี และรู้จักกับนายเสน่ห์ มานานจึงได้มีการชวนให้มาทำกลุ่มกาแฟตะนาวศรีที่ ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งหน้าที่ในไร่จะเป็นผู้ดูแลคนงานที่ปลูกกาแฟในไร่พรเสน่ห์ทั้งหมด และคอยให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับเรื่อง กาแฟ เช่นการปลูกกาแฟ การดูแล การเก็บ รวมไปถึงการนำเม็ดกาแฟมาตากแดด จนถึงการคั่วการบดเม็ดกาแฟ และการชงด้วยวิธี ดริป, การชงด้วยเครื่องชง ไซฟ่อน, การชงด้วยเครื่องชงบาลานชิ่ง เป็นเครื่องชงแบบหม้อต้มโมก้าพ๊อท และการชงด้วยเครื่องเฟ๊นเพรส
เราจำหน่ายเมล็ดกาแฟโรบัสต้าคั่วสำเร็จ ถุงล่ะ 200 กรัม ราคาตกถุงล่ะ 200 บาท ส่วนกาแฟดริปจะอยู่ที่ราคาซองล่ะ 120 บาท 1 ซองมี 6 แพ็ค ส่วนราคากาแฟในไร่ ที่นักท่องเที่ยวอยากเข้ามาสัมผัสแบบโดยตรงถึงไร่กาแฟจะตก แก้วล่ะ 80 บาท คือ จะเริ่มตั้งแต่ นักท่องเที่ยวจะต้องเริ่มคั่วกาแฟเอง เป็นการคั่วด้วยมือ บนกระทะตั้งเตา โดยจะมีคนคอยดูแลระดับการคั่วให้ตั้งแต่เริ่มจนจบการคั่วด้วยมือ จากนั้นจะนำกาแฟที่ตนเองคั่วสำเร็จมาบดเองด้วยเครื่องบดมือ จะมีคนคอยเเนะนำระดับความละเอียดของการบดกาแฟให้ เพื่อดูว่าความละเอียดขนาดไหนพอบดแล้วควรจะนำมาชงเป็นกาแฟอะไร เช่น บดเพื่อมาชงเป็น กาแฟคาปูชิโน่, เอสเพรสโซ่ร้อน หรือ เย็น และที่พิเศษเมื่อนักท่องเที่ยวบดกาแฟด้วยมือแล้วก็จะเป็นขั้นตอนการชง คือ สามารถเลือกใช้เครื่องชงชนิดต่างๆ ที่ทางไร่เตรียมไว้ให้ เช่น การชงด้วยวิธี ดริป การชงด้วยเครื่องชง ไซฟ่อน การชงด้วยเครื่องชงบาลานชิ่ง เครื่องชงแบบหม้อต้มโมก้าพ๊อท การชงด้วยเครื่องเฟ๊นเพรส ทุกขั้นตอนก่อนจะสู่การดื่มกาแฟสด ผู้ดื่มจะได้สัมผัสบรรยากาศในการกินกาแฟในไร่กาแฟที่..คั่วเอง..ชงเอง...ชิมกาแฟสด 100% ถือว่าเป็นการกินกาแฟแบบ slow life เป็นเสน่ห์อย่างนึงของการดื่มกาแฟสดโดยแท้จริง
นอกจากกาแฟที่นักท่องเที่ยวจะได้ชิมเป็นกาแฟร้อนแล้วยังสามรถเลือกที่จะชิมเป็นแบบกาแฟเย็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเอสเพรสโซ่เย็น ลาเต้ คาปูชิโน ม๊อคค่า อเมริกาโน่ และยังมีกาแฟเย็นสูตรพิเศษของไร่พรเสน่ห์ ส่วนจะเป็นกาแฟสูตรไหนต้องให้นักท่องเที่ยวมาที่ไร่ครับ ถึงจะมีโอกาศได้ลอง นายนวพล ชัยชูมินทร์ กล่าว
ส่วนผู้ที่สนใจอยากเข้าไปท่องเที่ยวและหาความรู้กว่าจะได้มาเป็นกาแฟสดพร้อมดื่มจะต้องทำกันอย่างไรบ้าง โดยสามารถเข้าเยี่ยมชมไร่และคั่วกาแฟ อุ๊ยเก่อ คอฟฟี่ "กาแฟสด คั่วเอง ชงเอง" ได้ทุกวันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือเส้นทางได้ที่หมายเลขโทร 086-1646467
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี