30 เม.ย. 2561 โลกออนไลน์มีการแชร์บทความ “ลูกค้าคือพระเจ้า แต่คนขายของต้องไม่ใช่ขี้ข้า” จากแฟนเพจ “Boy's Thought” ซึ่งเป็นเพจของนายวิสูตร แสงอรุณเลิศ หรือบอย นักเขียนแนวข้อคิดให้กำลังใจชื่อดัง โดยบทความดังกล่าวเผยแพร่ตั้งแต่เมื่อ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า..
..ผมก็ไม่รู้นะครับว่าใครเป็นคนคิด “ลูกค้าคือพระเจ้า” แต่เอาเป็นว่าผมเห็นประโยคนี้จนชินตามาตั้งแต่เด็ก คนคิดประโยคนี้อาจให้เรามองในมุมว่า ถ้าไม่มีลูกค้า คนขายของก็คงอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นลูกค้าก็เหมือนพระเจ้ามาโปรด...น่าจะเป็นอะไรในทำนองนั้น ถ้ามองในมุมนี้ ประโยคนี้ก็น่าจะดีนะครับ แต่หลังๆ ผมว่าบางคนเข้าใจประโยคนี้อีกแบบ
โดยเฉพาะในยุคที่ Supply มากกว่า Demand หรือพูดแบบบ้าน ๆ ก็คือ “มีคนขายมากกว่าคนซื้อ” บางคนเข้าใจว่า ในเมื่อลูกค้าคือพระเจ้า เพราะฉะนั้นคนขายของก็ต้องเป็นผู้รับใช้ และฉันจะสั่งอะไร ทำอะไร พูดอะไรก็ได้ทุกอย่าง ก็บอกแล้วไง "ลูกค้าคือพระเจ้า" บอกตรงๆ ช่วงหลังผมสงสารพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าจะเป็นค้าขายเล็กๆ เองหรือแม้แต่บริษัทใหญ่ เพราะทุกคนอยู่ด้วยความหวาดระแวงว่า..วันดีคืนดีจะมีลูกค้าคนไหนวีนแตกใส่ก็ไม่รู้
ว่าตั้งแต่ขั้นตอนถามข้อมูลก่อนซื้อ ด้วยอาการ “ข้าถือเงิน” เพราะฉะนั้นแกจะต้องตอบให้เร็ว ให้เคลียร์ ถ้าช้า ข้าไม่ซื้อ และเมื่อซื้อไปใช้แล้ว ก็ต้องลุ้นอีกทีว่าจะถูกใจหรือไม่ ถ้าไม่ถูกใจ ก็เตรียมตัวโทรมาด่า โดนแฉ ไปโพสต์ในออนไลน์ หาว่าหลอกลวงบ้าง ห่วยบ้าง ถ้าบำเรอฉันไม่ดีพอ ฉันก็จะขู่ย้ายไปเจ้าอื่น จุดนี้ลูกค้าหลายคนรู้ว่าคนขายในยุคนี้กลัวมาก จึงกลายเป็นมาตรฐานในใจไปแล้วว่า “ถ้าไม่ถูกใจ ดราม่าแน่” “ถ้าโวยวาย ฉันจะได้อภิสิทธ์”
ผมก็ไม่ได้บอกว่าไม่มีกรณีที่ควรแฉให้โลกรู้นะครับ แต่คิดว่าเราจะน่าปฏิบัติต่อกันในระดับเดียวกัน และตั้งเป็นค่าตั้งต้นในใจไว้ก่อนเลยว่า “ทุกคนเป็นคนดี แต่เขาอาจผิดพลาดได้โดยไม่ตั้งใจ” ขอให้คุย ให้สอบถามกันดีๆ ก่อนเท่านั้นเอง และย้ำว่า “ปฏิบัติต่อกันในระดับเดียวกัน” พ่อค้าแม่ค้าก็ทำมาหากินเหมือนกับเรานี่แหละครับ วันก่อนผมซื้อของจากแม่ค้าในเว็บแห่งหนึ่ง ของมาส่ง ใช้ได้ครึ่งวันเสีย ผมก็แค่ติดต่อแม่ค้าไป แม่ค้าก็เปลี่ยนให้ใหม่ บอกว่าจะรีบส่งให้ แม่ค้าบอกว่าขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ผมบอกไม่เป็นไรครับ ไม่มีใครตั้งใจให้เกิดขึ้น
แถมผมยังขอโทษที่ทำให้แม่ค้าเปลืองค่าส่งอีกรอบ แล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ของใหม่มาส่ง ผมขอบคุณ แม่ค้าขอบคุณ แฮปปี้เอ็นดิ้ง อันนี้เป็นตัวอย่างเล็กๆ ที่อย่าหาว่าชมตัวเองเลย ผมคิดแบบนี้มานานแล้วว่าทุกคนเท่ากัน อาจเป็นด้วยว่าช่วงนึงผมเคยขายของมาก่อน ก็เลยรู้สึกขอบคุณพ่อค้าแม่ค้าทุกครั้ง ทั้งที่ผมเป็นลูกค้า เพราะถ้าไม่มีพวกเขาขายของให้ ผมก็คงลำบาก อยากได้สินค้าก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน บางทีรู้ว่าเขากำไร ขายแพงนิดหน่อยก็ปล่อยไป ถ้าไม่เดือดร้อนมากนัก ก็แบ่งๆ กันไป
ยิ่งเป็นธุรกิจบริการด้วยแล้ว ยิ่งต้องขอบคุณ เขาลำบาก ให้เราสบาย เราแค่จ่ายเงินเท่านั้นเอง ลูกค้าคือพระเจ้า แต่คนขายของต้องไม่ใช่ขี้ข้า ประโยคนี้ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า งั้นคนขายเป็นพระเจ้า ลูกค้าเป็นขี้ข้า เลือกไม่ได้ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ ผมก็แค่อยากให้เราปฏิบัติต่อกันดีๆ และเท่ากันเท่านั้นเอง “ทุกคนเป็นคนดี แต่เขาอาจผิดพลาดได้โดยไม่ตั้งใจ” ใจเขา ใจเรา เป็นเรื่องที่ควรระลึกไว้ในใจเสมอครับ..
#boywisoot
ขอบคุณเรื่องราวจาก : https://www.facebook.com/boywisootFanpage/posts/806332666243334
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี