ยโสธรเมืองบั้งไฟโก้ สืบสานตำนานวิถีอีสาน ดังนั้น จากความเชื่อที่ได้สืบทอดและถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน เมื่อถึงเดือนหกในแต่ละปี จังหวัดยโสธร จะได้จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ เพื่อจุดขึ้นไปบอกกล่าวเทวดาให้ปล่อยน้ำฝนลงมาเพื่อที่จะได้ทำไร่ทำนาตามความเชื่อที่ถือปฏิบัติกันมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
และเมื่อเอ่ยถึงจังหวัดยโสธร ก็ต้องเป็นบั้งไฟ อย่างคำขวัญประจำจังหวัดที่ว่า “ยโสธร เมืองบั้งไฟโก้ แตงโมหวาน หมอนขวานผ้าขิด แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ” และ 23 ปี ความสัมพันธ์ บุญบั้งไฟไทย-ญี่ปุ่น ยโสธร :ชิชิบุ
นายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า สำหรับประเพณีบุญบั้งไฟของจังหวัดยโสธร ตามตำนานที่เล่าต่อกันมา เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าถือชาติกำเนิดเป็นพญาคางคก ได้อาศัยอยู่ใต้ร่มโพธิ์ใหญ่ ในเมืองพันทุมวดี ซึ่งทางพญาแถนเทพเจ้าแห่งฝนได้โกรธเคืองโลกมนุษย์เป็นอย่างมาก จึงได้กลั่นแกล้งไม่ให้ฝนตกลงมายังโลกมนุษย์เป็นเวลานานถึง 7 เดือน ทำให้เกิดความลำบากยากแค้นอย่างแสนสาหัสแก่มวลมนุษย์ สัตว์ และพืช จนกระทั่งพากันล้มตายเป็นจำนวนมาก ส่วนพวกที่รอดตายก็ได้พากันมารวมกลุ่มใต้ต้นโพธิ์ใหญ่
พญาคางคกและสัตว์ทั้งหลาย จึงได้หารือกันเพื่อจะหาวิธีการปราบพญาแถน พร้อมทั้งได้ตกลงกันให้พญานาค ยกทัพไปรบกับพญาแถน แต่ก็ต้องพ่ายแพ้กลับมา จากนั้นจึงให้พญาต่อแตนยกทัพไปปราบแต่ก็ต้องพ่ายแพ้อีกเช่นกัน ทำให้พวกสัตว์ทั้งหลายเกิดความท้อถอย หมดกำลังใจและสิ้นหวัง ได้แต่รอวันตาย ต่อมาพญาคางคก จึงขออาสาที่จะไปรบกับพญาแถน จึงได้วางแผนในการรบโดยให้ปลวกก่อจอมปลวกขึ้นไปจนถึงเมืองพญาแถน เพื่อเป็นเส้นทางให้บรรดาสัตว์ทั้งหลายได้เดินทางไปสู่เมืองพญาแถน โดยมีมอด แมงป่อง ตะขาบ
สำหรับมอดได้รับหน้าที่ให้ทำการกัดเจาะด้ามอาวุธที่ทำด้วยไม้ทุกชนิด ส่วนแมงป่องและตะขาบให้ซ่อนตัวอยู่ตามกองฟืนที่ใช้หุงต้มอาหาร และอยู่ตามเสื้อผ้าของไพร่พลพญาแถนทำหน้าที่กัดต่อย หลังจากวางแผนเรียบร้อย กองทัพพญาคางคกก็เดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่การรบ มอดทำหน้าที่กัดเจาะด้ามอาวุธ แมงป่องและตะขาบกัดต่อยไพร่พลของพญาแถนจนเจ็บปวด ร้องระงมจนกองทัพระส่ำระสาย ในที่สุดพญาแถนจึงได้ยอมแพ้ และตกลงทำสัญญาสงบศึกกับพญาคางคก คือถ้ามวลมนุษย์จุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อใด ให้พญาแถนสั่งให้ฝนตกในโลกมนุษย์ ดังนั้นจากความเชื่อดังกล่าวทางจังหวัดยโสธร เมื่อถึงเดือนหก หรือเดือนพฤษภาคมของทุกปี จึงได้มีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อจุดบั้งไฟไปบอกกล่าวพญาแถนให้ทำฝนตกลงมา
นายนิกร ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธร 2561 จังหวัดยโสธร ได้ร่วมกับเทศบาลเมืองยโสธร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนหน่วยงานราชการและภาคเอกชนดำเนินการ จัดขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 9-13 พฤษภาคม 2561 รวม 5 วัน ซึ่งจะมีการแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงตำนานพญาคันคาก ชมการตกแต่งบั้งไฟโบราณ ณ วิมานพญาแถน มีการตั้งโชว์บั้งไฟโบราณ การแสดง แสง สี เสียง ละครบุญบั้งไฟ “ตำนานพญาคันคาก”
นอกจากนั้น การประกวดกองเชียร์ของแต่ละคณะของบั้งไฟ กว่า 30 คณะ ซึ่งแต่ละคณะนำเสนอการแสดงวัฒนธรรมประเพณีจังหวัดยโสธร บนเวที ตลอดแนวถนนแจ้งสนิททั้งสองข้าง จากหน้าศาลากลางจังหวัดยโสธรไปจนถึงสวนสาธารณะพญาแถน ชมขบวนบั้งไฟสวยงามตั้งเรียงตามถนน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามและถ่ายรูป พร้อมทั้งชมการประกวดธิดาบั้งไฟโก้ที่เวทีกลาง หน้าอำเภอเมืองยโสธรชมขบวนแห่บั้งไฟสวยงาม จากคุ้มวัดต่างๆ ภายในเขตเทศบาลเมืองยโสธร พร้อมทั้งขบวนบั้งไฟโบราณของอำเภอ จาก 9 อำเภอของจังหวัดยโสธร ซึ่งขบวนแห่และคณะเซิ้งบั้งไฟนี้แต่ละขบวนจะยิ่งใหญ่สวยงามอลังการที่ใช้คนแสดงและร่วมขบวนแต่ละคณะไม่น้อยกว่า 150 คน เป็นต้น
นอกจากการชมบั้งไฟสวยงามขบวนเซิ้งและจุดบั้งไฟขึ้นสูงแล้ว ทางจังหวัดยโสธร ยังได้นำสินค้าพื้นบ้านจากตำบลและอำเภอต่างๆ ที่เป็นสินค้าโอท็อปประดับตั้งแต่ 3-5 ดาว มาออกร้านจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ระหว่าง 9-13 พฤษภาคม 2561 นี้ จังหวัดยโสธร จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมาเที่ยวงานประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธร เพื่อมาสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความสุข ความสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจ กับขบวนบั้งไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี