11 พ.ค.61 พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การพูดคุยเป็นเรื่องของนโยบาย เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ การเปลี่ยนรัฐบาลของมาเลเซีย ถือว่ามีผลกระทบบ้างสำหรับการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ขึ้นกับนโยบายของรัฐบาลใหม่ของประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้ติดตามการแถลงนโยบายใหม่ของรัฐบาล เชื่อว่าแนวทางการพูดคุยเป็นแนวทางสันติวิธีสากล โลกยอมรับ รัฐบาลไหนก็ควรที่จะดำเนินการ
“ปัจจุบันโลกแสวงหาสันติภาพอยู่ แนวทางการพูดคุยถือว่าเป็นแนวทางสันติวิธี เชื่อว่ารัฐบาลใหม่ย่อมดำเนินวิธีที่ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้ติดตามนโยบายของเพื่อนบ้านต่อไป แม้จะกระทบบ้าง แต่เชื่อมั่นว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางสันติวิธี เพราะ โลกได้สนับสนุนวิธีนี้ และเพื่อความมั่นคงในภูมิภาค และประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ขอยืนยันว่าการพูดคุยมีความคืบหน้าอยู่ในกรอบตามแผนที่วางไว้ แต่เราต้องใช้เวลา เราคุยกับคนเห็นต่าง ไม่ได้คุยกับผู้เห็นด้วย มันก็ต้องใช้เวลา” พล.อ.อักษรา กล่าว
ด้าน พล.อ.กสิกร คิริศรี อดีต ผบ.กำลังผสมพลเรือน พตท.43 กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลบ้างต่อกรณีการพูดคุย จึงอยากแนะนำให้ผู้เกี่ยวข้องควรคุยทางลับมากกว่า เพราะคุยในลักษณะเปิดเผยจะทำให้ฝ่ายที่คิดเห็นต่างออกมาเคลื่อนไหวเรื่อยๆ เพื่อแสดงอำนาจต่อต้านกับแนวทางที่มีการพูดคุยจนไม่สิ้นสุด
ส่วนนายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เพราะไทยกับมาเลเซีย ยังเห็นความสำคัญอยู่ แต่เพียงไม่แน่ใจว่าคนดำเนินการจะเป็นคนเดิมหรือไม่ แต่คิดว่าทุกฝ่ายยังคงเชื่อมั่นในเรื่องของความสำคัญ มีความเชื่อมั่นทางมาเลเซียจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป สำหรับคนไทยที่อยู่ที่นั่นมานาน ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรต่อเขา บางกลุ่มเขาก็ยังบอกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของประชากรมาเลเซีย เพียงแต่เขามีสัญชาติสยาม
นายรักชาติ กล่าวด้วยว่า เพียงแต่จุดที่เขาอยู่อาจจะทำให้การพัฒนาล่าช้า เพราะอยู่ในโซนที่มีการสนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะส่วนหนึ่งที่เคยเข้าไปช่วยน้ำท่วมก็จะเห็นว่าในส่วนที่น้ำท่วมมากๆเป็นโซนที่อยู่ ไม่ค่อยโอเคกับรัฐ ส่วนที่ลงมาช่วยเหลือก็ช้า
“ในส่วนของกลุ่มขบวนการที่อยู่ที่นั่น รัฐบาลชุดใหม่ถ้าเขาเอาจริงเอาจังในเรื่องของติดตาม ก็ถือว่า มีผลกระทบบ้าง แต่ถ้าเขาเข้ามาร่วมในเรื่องของการพูดคุย อาจจะมีกรอบมากขึ้น ก็อาจทำให้คนที่อยู่ในบัญชีเข้ามีส่วนร่วมในการพูดคุยมากขึ้น” นายรักชาติ กล่าว
ด้านนายมารูดิง มูซอ ชาว จ.ยะลา กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่มาเลเซียเปลี่ยนอำนาจการเมือง คนมาเลเซียก็ยอมรับ คนไทยเราที่อยู่ที่นั้นก็เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
“จะเป็นผลดีมากกว่าผลเสียสำหรับคนไทยที่ไปทำงานที่มาเลเซีย ส่วนคนที่ร่วมขบวนการที่อยู่ในมาเลเซียคิดว่าเขาน่าจะต้องมีกรอบในการบีบให้เข้าร่วมพูดคุยมากขึ้น คิดว่าเป็นผลดีต่อการพูดคุยด้วยซ้ำ ที่มีการเปลี่ยนอำนาจครั้งนี้ คนไทยเราที่ไปทำงานในมาเลเซียก็หวังว่าเงินริงกิตจะสูงขึ้น ความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศ จะมีมากขึ้นหลังจากนี้ เชื่อมั่นว่า การพูดคุยจะเป็นไปได้เร็วขึ้นด้วย ในฐานะที่มาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก คือ คิดง่ายๆ คนที่จะมาดำเนินการ น่าจะมีวิสัยทัศที่ดีกว่าชุดเก่า” นายมารูดิง กล่าว
ขณะที่นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า ส่วนนโยบายเปลี่ยนหรือไม่กับไทย คงต้องดู นโยบายของรัฐบาลใหม่มาเลเซีย คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยน เพราะเราอยู่ในอาเซียน ส่วนนโยบายการพูดคุยก็ต้องรอดูนโยบายรัฐบาลใหม่มาเลเซียเหมือนกัน เพราะสันติภาพความมั่นคงอยู่กินดี พรรคไหนเป็นรัฐบาลต้องเห็นอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่พรรคต้องให้ความสำคัญในเรื่องของสันติภาพ เรื่องของกินดีอยู่ดี เรื่องของความมั่นคง ความปลอดภัย ที่สำคัญเราเป็นสมาชิกอาเซียน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี