ตอนที่ 3-4 ได้เล่าให้ฟังว่า ทั้ง ปี 2544 และ 2556 ได้แก้ไขประเด็นย่อยๆมาจากระเบียบหลักปี 2536 คือ 1.ปี 2544 แก้ให้ใช้เงินบำรุงจ่ายค่าตอบแทนและจ้างลูกจ้างประเภทต่างๆ ได้ ทำให้หน่วยบริการสามารถจ้างได้ทั้งกลุ่มวิชาชีพ กลุ่มสนับสนุน กลุ่มแรงงานทั้งหมด โดยอำนาจอยู่ที่กรรมการบริหาร รพ. 2.ปี 2556 สธ.ให้กำเนิดลูกจ้างสายพันธุ์ใหม่ เรียกว่าพนักงานกระทรวงสาธารณสุข จึงต้องกำหนดไว้ในระเบียบเงินบำรุง เพื่อให้เบิกจ่ายได้ และในปีเดียวกัน สธ.ยังได้แก้ไขให้อำนาจการจ้างไปอยู่ที่ นพ.สสจ.
“จากนั้น สธ.ยังไม่หยุด ต้องการให้สายบริหาร ทั้งในสำนักงานสาธารสุขอำเภอ/จังหวัด รวมถึงใน...... สามารถเบิกจ่ายค่าตอบแทนจากเงินบำรุงได้ ทั้งๆที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตีความมาหลายครั้งแล้วว่าหน่วยงานดังกล่าวไม่ถือเป็นหน่วยบริการ จึงไม่สามารถมีเงินบำรุงและไม่สามารถเบิกค่าตอบแทนได้ เงินบัตรทองและรายได้ก็เข้าเงินบำรุงไม่ได้ แน่นอนย่อมเบิกค่าตอบแทนไม่ได้ด้วย”
แต่ความพยายามของฝ่ายบริหารยังไม่หยุด คงคิดว่าต่อกับสายอำนาจได้ จึงเสนอเรื่องขอแก้ไขในประเด็นดังกล่าว แปลงให้หน่วยบริหารเป็นหน่วยบริการ จึงเข้าทางกระทรวงการคลัง ถือโอกาสต่อรอง หาก สธ. อยากให้หน่วยบริหารเป็นหน่วยบริการ คลังก็ไม่ขัดข้อง แต่ขอเพิ่มข้อ 10 ว่าคลังขอกำหนดกรอบอัตราและค่าจ้างของลูกจ้างทุกประเภท และอัตราค่าตอบแทนนอกจากคลังแล้วต้องให้สำนักงบประมาณเห็นชอบด้วย สธ.จึงทำหนังสือโอดครวญว่าอย่างนี้จะทำให้หน่วยบริการไม่คล่องตัว และมีปัญหาการเพิ่มศักยภาพหน่วยบริการ ปชช.ลำบากแน่
จึงเกิดการเจรจาอีกรอบเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2560 คราวนี้ รมต.สธ. ลงมาเอง เจรจากับ รมช.คลัง และสำนักงบประมาณ แต่แทนที่จะเจรจาความเมืองเอาเอกราชกลับคืน สธ. หรือไม่ก็ยกเลิกไม่ขอแก้ระเบียบ คราวนี้กลับโดนคลังทุบเอาหนักกว่าเดิม สรุปคือเสียเมืองมากขึ้น คือ คราวนี้คลังขอเอาเงินบริจาคที่มีวัตถุประสงค์มาเป็นรายได้เงินบำรุงด้วย เพื่อแลกกับการที่ได้ลูกจ้างรายคาบเท่านั้น ขอย้ำว่าได้แค่ลูกจ้างรายคาบที่จ้างได้โดยไม่ต้องตกลงกับคลังก่อน และค่าตอบแทนให้ขออนุมัติคลังที่เดียวไม่ต้องขอสำนักงบประมาณ
อย่างนี้ไม่เรียกเสียเอกราชแล้วจะเรียกอะไร แม่ทัพรบไม่เป็น ทหารก็ตายหมด สรุปแค่อยากให้หน่วยบริหารเบิกค่าตอบแทนได้ จึงต้องแก้ระเบียบเงินบำรุง จนทำให้เสียเอกราชการจ้างคนต้องย้อนกลับไปก่อนปี 2544 ต้องขอตกลงกับคลัง(ปี2544ขอสำนักงบประมาณ) และยังเสียเงินบริจาคที่มีวัตถุประสงค์ไปด้วย อันนี้ย้อนกลับไปสมัยพ่อเสมเลยทีเดียว พูดง่ายๆถ้าระเบียบนี้ออกมา รพ.เชียงรายจะไม่มีคำว่าประชานุเคราะห์ต่อท้าย เพราะจะไม่มีใครบริจาค ความคล่องตัวก็ไม่เกิด
ดูเอาเถิดว่าระเบียบเงินบำรุงที่เสนาบดี สธ.ลงนาม ต่างจากร่างที่กรมบัญชีกลางร่างมาให้เมืองขึ้นลงนามอย่างไร คำตอบคือไม่เลย จุดเริ่มต้นของการเสียเอกราชของ สธ. จึงเริ่มต้นอย่างแท้จริงนับแต่วันที่ 20 ต.ค. 2560 คน สธ. ต้องจำเอาไว้ให้ดีๆ เงินบริจาคไม่ต้องส่งคลังเริ่มจากพ่อเสม ก่อนปี 2502 อีก 60 ปีต่อมาเสียเอกราช เสียแขน 2 ข้าง การจ้างลูกจ้างถูกปลดแอกในปี 2544 อีกเกือบ 20 ปีต่อมา เสียเอกราช เสียขาซ้ำอีก 2 ข้าง!!!
ชมรมแพทย์ชนบท
หมายเหตุ : ล่าสุดในวันที่ 31 พ.ค. 2561 กระทรวงการคลังประกาศเลื่อนการบังคับใช้ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง โดยใช้เงินนอกงบประมาณปี 2561 ออกไปก่อน ขณะที่ทางชมรมแพทย์ชนบทยืนยันว่าจะติดตามต่อไป ว่าจะมีการแก้ไขระเบียบดังกล่าวให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ทำไมต้องยกเลิกระเบียบก.คลัง เรื่องการจ้างฯ2561 และปรับปรุงระเบียบเงินบำรุงปี2561 (ตอนที่1)
- ทำไมต้องยกเลิกระเบียบก.คลัง เรื่องการจ้างฯ2561 และปรับปรุงระเบียบเงินบำรุงปี2561 (ตอนที่2)
- ทำไมต้องยกเลิกระเบียบก.คลัง เรื่องการจ้างฯ2561 และปรับปรุงระเบียบเงินบำรุงปี2561 (ตอนที่3)
- ทำไมต้องยกเลิกระเบียบก.คลัง เรื่องการจ้างฯ2561 และปรับปรุงระเบียบเงินบำรุงปี2561 (ตอนที่4)
- เลิกชุมนุม! 'แพทย์ชนบท'พอใจ คลังยอมถอยเลื่อนบังคับใช้ระเบียบลูกจ้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี