สายลมหอบพาเครื่องจักร 2 ล้อผ่านประเทศสเปน สู่ประเทศโปรตุเกส
ประเทศที่มีมหาสมุทรแอตแลนด์ติกอยู่เคียงข้างมาตั้งแต่แต่โลกกำเนิด
มันเป็นวันเหงา ๆ ของไบเกอร์ขี้เหงาที่พาตัวเองตระเวนรถออกไปสู่โลกกว้างคนเดียวลำพัง
การเดินทางอันยาวนาน ทำให้เราได้พบเห็นในสิ่งที่ได้พบเห็น
ผ่านตามท่วงอารมณ์ที่แตกต่างกันในเวลาหนึ่ง ๆ
.
เข้ามา 'โปรตุเกส' ในครั้งนี้ มันอยู่ในช่วงอารมณ์ที่อ่อนไหว และ สับสน!
.
เพราะก่อนหน้ามีคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์คนหนึ่งขันอาสา
'เป็นไบเกอร์ และ ทำงานที่สายการบิน'
รับปาก ว่าจะช่วยเหลือ
ติดต่อประสานงานเพื่อจะนำรถมอเตอร์ไซค์ ขนส่งข้ามไปจาก ทวีปยุโรป ไป สู่ประเทศสหรัฐอเมริกา
.
ด้วยข้อจำกัดทางด้านภาษาที่เรามี
ด้วยข้อจำกัดเรื่องอายุของวีซ่าที่กำลังจะหมดลงไปเรื่อย ๆ
และด้วยข้อจำกัดทางด้านการเงิน
ที่ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันในเขตทวีปยุโรป
ต้องยอมรับว่า..แพงเหลือเกิน
.
เมื่อวันเวลาในการขนส่งถูกกำหนดเป็นกรอบคร่าว ๆ เริ่มจะหมดไป
.
จากเดิมที่เคยติดต่อพูดคุยกันได้โดยง่าย
แต่เมื่อเขาได้รับเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว
ดูเหมือนเขาจะหายไป...ไม่ติดต่อกลับมาเลย !!
.
ความโชคดี ก็ดูเหมือนจะเป็นความโชคร้ายขึ้นมาทันที
.
เมืองปอร์โต้ (Porto) จึงเป็นเมืองที่ถูกสัมผัสด้วยอารมณ์อันอ่อนไหวตามที่ว่ามา
“Porto เมืองที่ดูเหมือนมีความเหงาหลบซ่อนอยู่
มีอาคารเงียบ ๆ แลดูเศร้า ๆ ในแสงสลัวเมื่อนาน ๆ ทีจะมีรถยนต์วิ่งผ่าน
ตามซอกหลืบในซอยแคบ ๆ เวลาเย็นหลังเลิกโบสถ์
มีคนจำนวนหนึ่งยืนคอยรับบริจาคอาหาร
มีกลุ่มคนดำเจนจัด ยืนกร่างอยู่มุมถนน
มีกลุ่มคนท้องถิ่น นั่งนิ่งอยู่ตามป้ายรถเมลล์
มีคนชราอยู่ในมุมมืด นั่งจิบกาแฟ 'นิ่ง' ดูเหมือนก้อนหิน
สลัว และ ขุ่นมัว
........................................................
เราเวียนวนอยู่กับโลกที่เรารู้จักได้ไม่นาน
วันนี้...เราได้มายืนอยู่อีกมุมหนึ่ง
คือ โลกที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน!
..........................................................
แต่ช่างเถอะ ยังไงเราก็จะยังคงอยู่ต่อไป ”
.
การเดินทางยาวนานที่ผ่านมา
ทำให้เรามีมุมมองต่อโลกในแต่ละครั้งแตกต่างกันไป
.
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ
.
คือ อิทธิพลของจิตใจนั้น มักจะส่งผลมายัง 'รสชาติของการเสพสัมผัส' อย่างเลี่ยงไม่ได้
.
ศิลปินหลากหลายในประวัติศาสตร์โลก
ก็อาศัยปรากฏการณ์เหล่านี้สร้างศิลปะอันหม่นมัวนี้ขึ้นมา
.
และมีผู้คนมากมาย ที่ เสพ และ ฝังตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้น
.
จนบางครั้ง...น่าเสียดาย
.
ที่หลายคนไม่อาจนำพาตัวเองออกมาจากความเศร้าหมองเหล่านั้นได้เลย
.
และจมอยู่กับมันไปจนชั่วชีวิต
แง่มุมดี ๆ มีให้มองเห็นอีกมากมายในเมืองแห่งนี้
.
เพราะเมืองปอร์โต์ เคยเป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองมาแต่อดีตนับแต่ยุคโรมัน
มีตัวเมืองเก่าแก่ มากมายด้วยศิลปะ
จนได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก้ (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก
.
ทุกย่างเท้าที่เดินผ่าน
มันซ่อนศิลปะอยู่ในทุกมุมโทรม ๆ ของมัน
.
ใจกลางเมืองเป็นแหล่งสดชื่น มีแม่น้ำ Douro ไหลผ่าน
มองผ่านลงไปจากปลายสะพาน จะเห็นเรือสำราญเล็ก ๆ เคลื่อนไหวอยู่ในสายน้ำ
.
และด้วยความเป็นเมืองท่าที่เคยรุ่งเรืองมาแต่อดีต
เราจะเห็นผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ที่มาจับกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่นี่
.
ย่านร้านค้าชาวจีน
ย่านร้านค้าชาวท้องถิ่น
ย่านคนดำ ที่มักจะรวมตัวกันส่งเสียงดัง และ ทำท่าทางประหลาดดูไม่น่าคบหาเท่าไร
.
เลี่ยงได้...ก็ควรเลี่ยง !!!
555555555555555555555555555555555
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี