พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช เจ้าอาวาสวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน จังหวัดเชียงใหม่ หนึ่งในคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช" ระบุว่า "มีข่าวว่า พระระดับเจ้าคุณวัดดัง (เจ้าเก่า) มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย กำลังจะถูกจับสึก อย่างนี้เขาเรียกว่า เป็นอะไร เป็นเกย์ หรือเป็นตุ๊ด"
มีข่าวว่า อีก ๑ พระพรหมที่หลบหนีไปได้ ถูกรวบตัวที่เยอรมัน ผบ.ตร.บินไปรับตัวกลับมา ตามข่าวว่า มีสีกาอยู่กินกันฉันผัวเมียด้วย สังคมจึงเกิดมีคำถามในเชิงเปรียบเทียบว่า แล้วที ธัมมชโย ทำไมยังจับไม่ได้? ทำไมเรื่องจึงหายเงียบเป็นเป่าสาก มันเป็นเพราะเหตุดังฤา? ใครจะตอบได้?
เรื่องพระมีเพศสัมพันธ์กับสีกา มันก็มีมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่เพิ่งมี และถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา หรือมีหลักฐานมัดแน่นชนิดดิ้นไม่หลุด ก็เอาผิดเขายาก เพราะพวกนี้ มันด้านชนิดที่เรียกว่า ยางมะตอยต้องเรียกพี่
ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวพระดังแถวกาฬสินธุ์ ที่มีสีกาออกมาแฉว่า มีเพศสัมพันธ์กัน ตอนนั้นก็ทำเอาหลายคนถึงกับช๊อค! แต่ตอนนี้เรื่องก็เงียบ ๆ ไป ก็ยังอยู่ในดุลพินิจของศาล มันจะเป็นแบบไหน ก็คอยดูกันต่อไป เพชรแท้ไม่ต้องกลัวการเจียระไน ทองแท้ไม่ต้องกลัวไฟลน ปล่อยให้ความจริงจะประกาศตัวเอง
ถ้าเป็นสไตล์พระอลัชชี ก็จะให้ลิ่วล้อออกมาโวยวายก่อนว่า ถูกกลั่นแกล้งทำให้เสียชื่อเสียง หากยังไม่จนแต้ม ก็มักจะวางมาดว่า เป็นพระดีไปเรื่อย ๆ มีลูกศิษย์ออกมาปกป้องแบบว่า “อาจารย์ข้าใครอย่าแตะ“ ครั้นพอจวนตัวคับขันเข้า ความจริงจะถูกเปิดโปง ก็ถลกจีวรเผ่นหนีหัวซุกหัวซุนแทบจะทุกราย
เรื่องของคนชั่วไม่ว่าจะเป็น พระชั่ว หรือโยมชั่ว มันก็มาจากกิเลสตัวเดียวกัน คือ กิเลสตัวปลิ้นปล้อนหลอกลวงอย่างหน้าด้านไร้ยางอาย ไม่มีวันยอมรับผิด จนกว่าจะจำนนด้วยพยานหลักฐาน ดังนั้น พระพุทธองค์จึงทรงตรัสว่า “ผู้ที่สามารถโกหกได้ทั้ง ๆ ที่รู้ ก็ไม่มีความชั่วอันใดที่บุคคลนั้นจะทำไม่ได้” จึงถ้าจะจัดการกับคนจำพวกนี้ จำต้องมีหลักฐานมัดให้แน่นอย่างเดียว มิฉะนั้น ไม่มีทางเอาผิดมันได้
เราก็ได้ยินพระมาพูดให้ฟังอยู่เรื่อย ๆ เขาก็รู้กันอยู่ในวงการผ้าเหลือง ก็กระซิบกันเป็นการภายใน มันพูดเสียงดังไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานนี่แหละ ก็ไม่มีใครรู้ว่าจริง หรือไม่จริง
ทั้งพระวินัยก็กวดขันห้ามพูดโจทอาบัติปาราชิกไม่มีมูล ก็ปรับอาบัติสังฆาทิเสสแก่ผู้พูด ดังนั้น กับพระที่ประพฤตินอกพระวินัย พระด้วยกันก็ไม่รู้จะทำกันยังไง จะบอกจะสอนกันก็ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน ก็เลยเป็นแบบต่างคนต่างอยู่ ปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรมจะให้ผลเอง
ถ้าอยากเห็นผลเร็ว ก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าไปตรวจสอบสืบค้นเอาเอง ข่าวเรื่องพระมีเมีย เป็นเกย์ เป็นตุ๊ด เนี่ย! มีเยอะมาก แต่มันเป็นข่าวกระซิบกันวงใน ไม่มีใครรู้ว่าจริง หรือไม่จริง ก็ได้แต่ถามกันไป เขาว่าองค์นั้นเป็นอย่างนั้น มันจริงไหม? แต่เชื่อเถอะว่า ไม่มีมูลฝอย หมามันก็ไม่ขี้หรอก
แต่ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่เขากระซิบกัน คนไทยจะได้ตกตะลึงถึงขนาดตกเก้าอี้นั่นแหละ มันจะกระเทือนศาสนาหนักมาก เพราะศาสนาถูกปล่อยปละละเลยมานาน จนคนเกิดความรู้สึกชินกับการกระทำผิด ๆ ยิ่งพระผู้ปกครองมากระทำผิดเสียเอง
ดังนั้น ชาวพุทธจึงต้องแยกแยะให้ออกระหว่าง “พระอลัชชี” กับ “พระพุทธศาสนา” อย่าเอามาปนกัน ปล่อยให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเขากวาดล้างพวกพระอลัชชีออกไปเสียให้หมด มันเป็นหนทางเดียวที่จะชำระมลทินให้แก่พระพุทธศาสนาได้
ต้องเข้าใจว่า พระที่เป็นปาราชิกแล้ว แต่ยังทำตัวเป็นพระอยู่เหมือนปกติ พระดีท่านก็ทำอะไรไม่ได้นะ จะกล่าวโทษกันโดยไม่มีพยานหลักฐานก็ทำไม่ได้ เพราะผู้เป็นปาราชิกจะต้องรู้ตัวเองว่า เป็นปาราชิกแล้ว แต่ยังกล้าสวมจีวรให้คนอื่นกราบไหว้ได้ ก็ต้องถือว่า นายแน่มาก!!
แต่ความลับไม่มีในโลก พระที่ท่านรู้ระแคะระคาย ก็ได้แต่กระซิบกันเป็นการภายใน หากต้องทำสังฆกรรมร่วมกัน จำนวนสงฆ์ขั้นต่ำเท่าไร ก็ต้องเลี่ยงพระองค์ที่ต้องสงสัยนั้น ให้อยู่นอกจำนวนขั้นต่ำที่กำหนด ท่านก็ทำได้แค่นี้
ทำเกินจากนั้น ต้องเป็นภาระของญาติโยมจะกล่าวโจท หรือฟ้องร้องกันขึ้นมาเอง พระจึงจะเข้าไปตรวจสอบไต่สวนได้ ตามที่มีผู้ฟ้องร้อง ก็เป็นไปตามสิกขาบทในอนิยต ๒ ถ้ามีผู้ที่เชื่อถือได้เขาฟ้องด้วยอาบัติใด ก็ให้ปรับอาบัติตามนั้น
ถ้าพระทำผิดจริง แล้วปกปิดความผิดเอาไว้ เราช่วยกันเปิดเผยความจริง ก็ไม่เป็นบาปหรอก เพราะถือเป็นการช่วยพระที่ทำผิดให้ยุติการกระทำผิดนั้นเสีย จะได้ไม่ต้องทำบาปทำกรรมหนักมากขึ้นไปโดยไม่จำเป็น
ตรงกันข้ามถ้าใครไปช่วยส่งเสริมให้พระทำผิด ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ คนนั้นก็ยิ่งเป็นบาปหนักไปด้วยกัน
ถ้าชาวพุทธช่วยกันกำจัดพระอลัชชี ถือว่าชำระมลทินให้แก่พระพุทธศาสนา เป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนไปนาน เพราะถ้าศาสนาพุทธเต็มไปด้วยพระอลัชชี ศาสนาพุทธก็คงถึงกาลวิบัติฉิบหายเป็นแน่แท้ ดังนั้น ถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะกวาดล้างพระอลัชชี ชาวพุทธก็จงสงบใจรอดูไปก่อนว่า เขามีเหตุผลอันใด? มีพยานหลักฐานสมควรไหม? พระผิดจริงไหม? อย่าเพิ่งไปกล่าวหาว่า เขาจะทำลายพระพุทธศาสนา หรือ กลั่นแกล้งพระสงฆ์องค์เจ้า เหมือนอย่างพวกที่ออกมาปกป้องพระอลัชชี พยายามจะพูดปลุกระดม
วงการพระท่านรู้ ๆ กันอยู่ในหมู่พวกเดียวกันว่า ใครปฏิบัติดี ใครปฏิบัติไม่ดีอย่างไร ถ้ามีการกลั่นแกล้งจะทำลายพระที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จริง ๆ นั่นถือเป็นการทำลายศาสนทายาท พระดี คนดี จะช่วยกันปกป้องท่านเอง คนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ โบราณว่าไว้ ไม่ผิดหรอก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี