5 มิ.ย.61 รุ่งโรจน์ รติเดช ก็เหมือนเด็กหนุ่มอีสานทั่วไป ต้องดินรนปากกัดตีนถีบต่อสู้ชีวิต หลังจากที่เรียนสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนจิกดู่วิทยา ต.จิกดู่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เพราะฐานะยากจน ไม่มีเงินเรียนต่อ จึงต้องเดินทางไปหางานทำที่กรุงเทพมหานคร ทำงานก่อสร้างอยู่หลายปี หนทางก้าวหน้าไม่มี จึงมองหางานใหม่ ซึ่งไม่ค่อยมีใครทำ ก็มาลงเอยที่งานแกะสลักไม้มงคลตามใบสั่งลูกค้า ทั้งแกะสลักพระพุทธรูป สัตว์ในวรรณคดีต่างๆ ผลงานออกมาสวยงามมาก สร้างความพึงพอใจและประทับใจแก่ลูกค้าและผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ส่งผลให้ยอดสั่งทำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำไม่ทันต้องระดมญาติพี่น้องมาช่วยทำและฝึกหัดลูกหลานเยาวชนให้ทำเป็น เพื่ออนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญหาย
นายรุ่งโรจน์ รติเดช อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 6 บ้านดู่ใน ต.จิกดู่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ช่างแกะสลักฝีมือเยี่ยม เล่าว่า หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนจิกดู่วิทยา ต.จิกดู่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งความตั้งใจอยากจะเรียนต่อให้สูง ทว่า มีฐานะยากจน ไม่มีทุนเรียน ก็ต้องหยุดเรียนแค่ ม.6 เท่านั้น จากนั้นเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อหางานทำ
โดยทำงานก่อสร้างอยู่หลายปี หนทางไม่ก้าวหน้า เงินเดือนก็น้อยและเงินก็ไม่เพิ่ม แถมเงินออกไม่ตรงเวลา ก็เลยมองหาอาชีพใหม่ กระทั่งไปพบทางอินเตอร์เน็ต ที่หมู่บ้านถวาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งทั้งหมู่บ้าน มีอาชีพทำการแกะสลักไม้มงคล ตามใบสั่งลูกค้า ประกอบกับเป็นคนรักงานศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เกิดความสนใจ จึงได้ติดต่อกับเพื่อนสมัยที่เคยทำงานก่อสร้างมาด้วยกัน ซึ่งเพื่อนกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่ เปิดร้านรับจ้างตัดผม พร้อมเล่าความต้องการที่จะเรียนการแกะสลักให้เพื่อนฟังและ เพื่อนตอบตกลงจะลองติดต่อครูสอนแกะสลักให้ จากนั้นจึงเดินทางไปที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเรียนวิชาแกะสลัก เป็นอาชีพติดตัว
เมื่อไปถึงเชียงใหม่เพื่อนก็แนะนำให้รู้จักช่างแกะสลัก พร้อมบอกจุดประสงค์ ต้องการเรียนวิชาแกะสลักไม้มลคลต่างๆ จากนั้นก็เป็นลูกจ้างครูแกะสลัก ระหว่างที่ทำงานเป็นลูกจ้าง ทำทุกอย่าง ทั้งแบกหาม ขนส่ง ไม้แกะสลัก ขึ้นรถบรรทุกไปส่งยังร้านค้า ที่มีใบสั่งให้ใบส่ง ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง อดทน ทนเหนื่อย ต่อสู้กับความยากลำบากอยู่หลายปี แต่เขาก็ไม่ยอมสอนให้เรา เป็นเพราะมีใจรักงานแกะสลักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเรียนรู้ด้วยตัวเองควบคู่กันไปจนเข้าใจและสามารถทำเองได้ ต่อมาได้ลาออกจากงานลูกจ้าง จากนั้นเดินทางกลับบ้านเกิด ต.จิกดู่ อ.หัวตะพาน โดยใช้พื้นที่บ้านพัก กลายเป็นที่ทำงาน รับจ้างแกะสลักไม้มงคลตามใบสั่ง จนทุกวันนี้เป็นเวลา 18 ปี สร้างรายได้ดีมาก
นายรุ่งโรจน์ หนุ่มสู้ชีวิต เผยถึงวิธีแกะสลักพระพุทธรูปอย่างพอเข้าใจว่า เริ่มแรกต้องเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ในการแกะสลักเสียก่อน เช่น ค้อน สิ่ว เลื่อย สว่าน หินเจียระไน กระดาษทราย ฯลฯ ส่วนไม้มงคลที่นิยม ทำก็คือ ไม้พะยูง ขนุน สัก เป็นต้น การแกะสลักแบบลอยองค์ จะแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้ คือ 1.โกนหุ่น 2.แต่งหน้า 3.ใส่ลาย และเก็บงานตกแต่ง ก็แล้วเสร็จ ส่วนระยะเวลาในการแกะสลักงานตามใบสั่งแต่ละงานขึ้นอยู่กับความยากง่าย ละเอียดประณีต จะใช้เวลา 1 วัน หากงานประณีตละเอียดอ่อนมาก ก็จะใช้เวลาทำถึง 1 ปีก็มี
ส่วนราคาก็อยู่ที่งานเล็กหรือใหญ่ ยากง่าย ก็คิดราคาไปตามงานที่สั่งทำ ราคาตั้งแต่ 1,000 บาทไปจนถึงหลัก 1 ล้านบาทก็มี ช่วงนี้ถึงแม้จะเป็นฤดูฝน ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะมีการสั่งทำอย่างต่อเนื่องจนทำไม่ทันต้องระดมญาติๆมาช่วยทำจะได้ส่งทันตามกำหนดและมีการฝึกหัดลูกหลาน ให้ทำเป็น จะได้มีอาชีพติดตัว และเป็นการอนุรักษ์อีกทางหนึ่งด้วย
นายรุ่งโรจน์ ช่างแกะสลักพระพุทธรูปฝีมือดี บอกทิ้งท้ายว่า นับตั้งแต่รับงานแกะสลักพระพุทธรูปไม้มงคล ส่วนใหญ่จะทำให้วัด หรือไม่ก็เป็นผู้มีฐานะดี สั่งทำถวายวัด ที่ผ่านมา ทำถวายวัดบ้านจิกดู่ จำนวน 1 องค์ ราคา 300,000 บาท ทำให้เป็นมงคลแก่ชีวิต ส่งผลให้การงานสะดวกราบรื่น มีลูกค้าสั่งทำไม่ขาด เงินทองไหลมาเทมา ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะบุญเกื้อหนุนนั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี