ปัญหา "พระตุ๊ด เณรแต๋ว" ไม่จะเพิ่งมีในช่วงนี้ แต่มีมานานแล้ว จากการตรวจสอบข้อมูลของ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" พบว่าปัจจุบัน "พระตุ๊ด เณรแต๋ว" มีมากขึ้นโดยพบบางวัดนอกจากจะมีพระเป็นตุ๊ด มีพระเป็นเกย์ มีเณรเป็นแต๋วแล้ว ยังมีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นตุ๊ด เป็นแต๋ว ฝังตัวอยู่ในวัดด้วยทั้งในวัดพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เมื่อเป็นเช่นนี้ปัญหาการเสพสังวาสจึงมีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงว่ายังไม่มีใครจับได้เท่านั้น
หากเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองปราบปรามไม่ได้เข้าค้นในกุฏิที่พักของอดีตพระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรืออดีตเจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และเลขานุการส่วนตัวอดีตพระพรหมสิทธิ หรือ ธงชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน ทุจริตเงินทอนวัดก็คงจะไม่พบหลักฐานเด็ดภาพอนาจาร ซึ่งเป็นภาพที่อดีตเจ้าคุณปิง ได้เสพสังวาสกับฆราวาสเพศชาย ซึ่งปรากฏเป็นภาพนิ่งและภาพวิดีโอจำนวนหนึ่งอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเจ้าคุณปิง จนกระทั่งมีการจับกุมตัวอดีตเจ้าคุณปิง ไปสึกจากความเป็นพระ
ต่อมาวันนี้ (5 มิ.ย.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) ได้เข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลหาตัวชายหนุ่มในภาพถ่ายที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตเจ้าคุณปิง เพื่อจะสอบสวนถึงมูลเหตุจูงใจที่ไปมีสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคุณปิง และหากพบว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็จะเข้าข่ายการค้ามนุษย์ และจะดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาการค้ามนุษย์กับอดีตเจ้าคุณปิง
นั่นแสดงให้เห็นว่า พระตุ๊ด พระเกย์ เณรแต๋ว ยังมีอยู่ในวัดหลายๆ วัดด้วยกัน
หากย้อนกลับไปดูข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับพระตุ๊ด เณรแต๋ว ตามที่นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา ได้ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้เมื่อราวปี 2557 จะพบได้ว่าพระ เณรที่มีพฤติกรรมเป็นพระตุ๊ด เณรแต๋ว มีถึงร้อยละ 10 จากจำนวนประชากรพระ เณร ทั้งหมด เช่น พระ 100,000 รูปจะมีพระตุ๊ด เณรแต๋ว 10,000 รูป เป็นต้น ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากกระบวนการบวชกาเริ่มตั้งแต่ ครอบครัว เนื่องจากชาวพุทธ ไม่รู้ข้อมูลพระธรรมวินัย เมื่อรู้ว่าลูกเป็นตุ๊ด เป็นแต๋ว ก็ไม่ควรส่งมาบวชในพระพุทธศาสนา กระบวนการที่ 2 เจ้าอาวาส และพระอุปัชฌาย์ เมื่อเห็นว่า เป็นตุ๊ด แต๋วชัดเจน ก็ไม่ควรที่จะให้บวช
ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมหาเถรสมาคม (มส.) ยังไม่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับพระธรรมวินัยห้ามไม่ให้ตุ๊ด แต๋ว บวชในพระพุทธศาสนาว่า มีอย่างไร เพื่อทำความเข้าใจกับสังคม โดยเฉพาะชาวพุทธซึ่งยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้ดีพอ
ในครั้งนี้ นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา เคยกล่าวไว้ว่า "ผมไม่ได้บอกว่า ตุ๊ด แต๋ว ไม่ดี แต่เราต้องนำความจริงมาพูดกัน เพราะปัจจุบันนี้มีพระมหาเถระที่เป็นแบบนี้ แล้วปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ยังมีอยู่อีกมาก แต่การแก้ปัญหาของคณะสงฆ์ในหลายกรณีเกี่ยวกับพระสงฆ์ทั้ง พระตุ๊ด เณรแต๋ว พระอลัชชี คือ การเงียบ ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง แต่ควรนำพระธรรมวินัยมาตัดสินโทษผู้กระทำผิดให้ชัดเจน รวมทั้งชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจว่าสาเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ อีกทั้งแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดทั้งระบบ หากปล่อยไปเช่นนี้ ปัญหาก็จะเป็นอยางนี้ไม่จบสิ้น"
ขณะที่เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช เจ้าอาวาสวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน จังหวัดเชียงใหม่ หนึ่งในคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ก็ยังได้โพสต์ข้อความเหมือนจะส่งซิกให้เจ้าหน้าที่ได้รับรู้ลงในเฟซบุ๊กระบุว่า "ข่าวเรื่องพระมีเมีย เป็นเกย์ เป็นตุ๊ด เนี่ย! มีเยอะมาก แต่มันเป็นข่าวกระซิบกันวงใน ไม่มีใครรู้ว่าจริง หรือไม่จริง ก็ได้แต่ถามกันไป เขาว่าองค์นั้นเป็นอย่างนั้น มันจริงไหม? แต่เชื่อเถอะว่า ไม่มีมูลฝอย หมามันก็ไม่ขี้หรอก แต่ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่เขากระซิบกัน คนไทยจะได้ตกตะลึงถึงขนาดตกเก้าอี้นั่นแหละ มันจะกระเทือนศาสนาหนักมาก เพราะศาสนาถูกปล่อยปละละเลยมานาน จนคนเกิดความรู้สึกชินกับการกระทำผิด ๆ ยิ่งพระผู้ปกครองมากระทำผิดเสียเอง"
"ดังนั้น ชาวพุทธจึงต้องแยกแยะให้ออกระหว่างพระอลัชชี กับพระพุทธศาสนา อย่าเอามาปนกัน ปล่อยให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเขากวาดล้างพวกพระอลัชชีออกไปเสียให้หมด มันเป็นหนทางเดียวที่จะชำระมลทินให้แก่พระพุทธศาสนาได้"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี