หลังจากที่ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" หรือที่เรียกกันในขณะที่เป็นกนนำ กปปส. ในนาม "ลุงกำนัน" อดีตรองนายกรัฐมนตรี หลั่งน้ำตาลูกผู้ชาย เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างการจัดประชุมผู้ก่อตั้งพรรค "รวมพลังประชาชาติไทย" หรือ (รปช.) ที่อาคารศาลาดนตรีสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต โดยนายสุเทพ ได้กล่าวประโยคที่กระแทกใจหลายคน และลงความเห็นว่า "ลุงกำนัน" ได้ "ตระบัดสัตย์" ต่อคำพูดที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้
"ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" จึงรวบรวมข้อมูลหลังจากที่ลุงกำนัน ประกาศตัวลงการเมืองอย่างเต็มตัวบนเวทีคราวๆ มาให้ดูอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคพลังประชาชาติไทย ถึงจุดยืนต่างๆ โดยนายสุเทพ กล่าวว่า "ผมขอใช้โอกาสวันนี้กราบเรียนให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบว่า บัดนี้ผมได้ตัดสินใจจะไปร่วมงานการเมืองกับพรรคพรรครวมพลังประชาชาติไทย เหตุผลที่ผมตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคการเมืองนี้ ก็เพราะได้ทราบจุดยืน แนวคิด อุดมการณ์ทางการเมือง ของบรรดาผู้ที่รักชาติรักแผ่นดิน แล้วตั้งใจที่จะสร้างพรรคการเมืองของประชาชนขึ้นมาในประเทศไทย"
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ไม่เคยมีพรรคการเมืองอย่างนี้มาก่อนในประเทศไทย ที่สำคัญกว่านั้นตนยังได้สอบถามถึงอุดมการณ์ของคนเหล่านี้ ยิ่งฟังก็ยิ่งชอบ ตนจึงถือโอกาสตรงนี้กราบเรียนว่า นี่ไม่ใช่พรรคการเมืองของ กปปส. เพราะ กปปส. ได้ยุติบทบาทไปแล้วตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามารักษาสถานการณ์ในประเทศ เราก็ยุติบทบาทลง แต่ความคิด อุดมการณ์ และเจตนารมณ์ที่ประชาชนเหล่านั้นได้แสดงไว้ พรรคการเมืองพรรคนี้ เขาจะรับหน้าที่สืบสานเจตนารมณ์นั้นต่อไป
"ฉะนั้น วันนี้ให้ชัดเจนเลยครับ ผมขอกราบเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า ผมจะเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ผมจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรค จะไม่เป็นผู้บริหารในพรรคทุกตำแหน่ง แล้วเรียนยืนยันว่าไม่ลงสมัคร ส.ส. ทั้งระบบเขต หรือบัญชีรายชื่อ และหากพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาล ผมก็จะไม่รับตำแหน่งใดๆ ผมจะทำหน้าที่เดียว คือ ช่วยเหลือ สนับสนุน ให้พรรคการเมืองของประชาชนที่ชื่อว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย ทำงานเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชนได้อย่างแท้จริง" ลุงกำนัน กล่าว
บรรดาแกนนำกลุ่ม นปช. เมื่อรู้ว่านายสุเทพ ประกาศเปิดตัวดังกล่าวก็ออกมาให้ความเห็นต่างๆ นานา โดยเฉพาะ "นพ.เหวง โตจิราการ" ที่กล่าวถึงการเปิดตัวพรรคการเมืองของนายสุเทพ ว่า ทำไมต้องตั้ง "พรรครวมพลังประชาชาติไทย" และทำไมน้ำตาต้องท่วมเวที เพราะลำพังมาตรการ ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า คสช. จะสืบทอดอำนาจได้จากการเลือกตั้งตาม รธน.60 ของพวกเขา
นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวอีกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ก็มีความจำเป็นที่จะต้องอาศัย ฐานมวลชน กปปส. ที่ คสช.ฝากความหวังไว้ว่า จะสร้างฐานคะแนนสนับสนุนได้ นี่จึงเป็นที่มาของการ จัดตั้ง "พรรครวมพลังประชาชาติไทย" เริ่มแรกตั้งใจที่จะให้ใหญ่โตเลิศหรูอลังการ แต่พอนายธานี เทือกสุบรรณ เปิดตัวตั้งแต่เดือน มี.ค.61 ก็แผ่วทันที ไม่ได้เกิดผลสะเทือนที่มุ่งมาดปรารถนาเลยแม้แต่น้อย จึงต้องพยายามที่จะไปรวบรวมเอา แม่เหล็กมารวมตัวกันจัดตั้งเป็นพรรค จนได้นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์, นายประสาร มฤคพิทักษ์, นายสุริยใส กตะศิลา จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจจะสร้างแรงสะเทือนได้
"ในวันนี้ การเปิดตัว รปช.แทนที่จะสร้างผลสะเทือนทางการเมืองได้อย่างแรง กลับไม่มีอะไรเลยในการเปิดตัวในครั้งนี้ มีก็แต่น้ำตาของนายสุเทพท่วมเวที ซึ่งก็ไม่ทราบว่าน้ำตาที่หลั่งมานี้ หลั่งมาด้วยความสะเทือนใจที่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ กปปส. ชัตดาวน์ประเทศไทยจริงหรือไม่ หรือหลั่งเพราะถูกแทงใจดำด้วยข้อกล่าวหาว่าตระบัดสัตย์ ซึ่งจะนำความเสียหายมาให้กับ รปช.เอง หรือ "ขมขื่นใจกับการปิดประเทศของ กปปส.เพื่อกรุยทางให้เกิดการรัฐประหาร คสช.แล้ว สิ่งที่เรียกว่า ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง" หรือเปล่า" นพ.เหวง กล่าว
"ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ได้ติดต่อไปเพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองไทยกับนักวิชาการ คือ "ชาติณรงค์ วิสุตกุล" อาจารย์ประจำภาควิชาสื่อดิจิทัลและการสร้างสรรค์ คณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์, นักเขียนเรื่องสั้นเจ้าของผลงาน "กลืนกินความมืด" และ "คน(ไม่) เหมือนกัน" กล่าวว่า ตนก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไรมากนัก คนที่กล้าพูดบนเวทีสาธารณะว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมืองอีก แต่มากลับคำพูดเรียกว่า ตระบัดสัตย์ คุณค่าของคำพูดก็จะจางหายไป จะมาอ้างเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เมื่อประชาชนผ่านจุดนั้นมาแล้ว อย่างนี้จะไปอ้างอย่างไรก็ได้ จะไปโกงกินก็อ้างเหตุผลต่างๆ ทำได้หมด และเท่าที่เห็นสมาชิกพรรคคนเหล่านี้ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จทางการเมืองมาเลย
ส่วนพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น ตนเห็นว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ และสานต่ออำนาจที่มี ตนไม่เห็นพรรคการเมืองไหนที่ออกมาทำเพื่อปากท้องและช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ส่วนพรรคการเมืองใหม่ๆ ก็มัวแต่มาจ้องแต่จะฉีกรัฐธรรมนูญอย่างเดียว การเขียนรัฐธรรมนูญออกมาแล้วมาฉีกเพื่อเขียนใหม่ ถามหน่อยว่าประชาชนจะได้อะไร หากมองไปที่พรรคเพื่อไทย ขณะนี้เรายังไม่ได้ความชัดเจนเลยว่าใครจะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรค สรุปได้ว่าการเมืองไทยเชื่ออะไรไม่ได้ ไม่แน่หากการเมืองไทยยังเป็นอย่างนี้ อาจจะมีการทำรัฐประหารขึ้นมาอีกแน่นอน การเมืองไทยก็วนๆ อยู่อย่างนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
"หากมีเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ ผมอาจจะไม่เลือกพรรคไหนเลยก็ได้ การเมืองไทยยังไม่มีอะไรโดดเด่นขึ้นมาเลย และผมก็ไม่เลือกนายสุเทพด้วย เพราะเขาผิดคำพูด ถือเป็นคนตระบัดสัตย์" ผศ.ชาติณรงค์ กล่าว
ด้าน น.ส.เมธินี ไชยพังยาง ชาวบ้าน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการที่นายสุเทพ กลับมาเล่นการเมืองอีกครั้งว่า จริงๆ นักการเมืองก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้ ซึ่งตน ชินแล้วกับการวางมือแล้วมาเล่นใหม่ แต่พอดีลุงกำนัน เคยพูดไว้ว่าจะไม่ลงเล่นการเมืองอีก ซึ่งไม่ได้พูดไว้อย่างที่เคยพูด ตนจึงรู้สึกผิดหวัง เรามองว่า คนแมนๆ ต้องพูดคำไหนคำนั้น ยิ่งเป็นนักการเมืองผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง ยิ่งต้องเป็นคำพูดมากกว่านี้
"เอาจริงๆ คนสุราษฎร์ส่วนใหญ่ หลังจากที่นายสุเทพ พูดอย่างนั้น และออกตัวจะสนับสนุนพรรคการเมือง จากที่พูดคุยกันรู้สึกว่ากระแสเริ่มติดลบ บางคนเคยชอบ เคยเชียร์ มาวันนี้มีเปลี่ยนใจ เพราะคำพูดของแกนั่นแหละ คำว่าตระบัดสัตย์ มันแปลได้ว่า "ไม่รักษาคํามั่นสัญญา" ซึ่งเขาก็เป็นอย่างนั้น ที่ภาษาชาวบ้านเค้าเรียกว่า กลืนน้ำลายตัวเอง" น.ส.เมธินี กล่าว
.ส.เมธินี กล่าวอีกว่า ช่วงนี้กระแสนายสุเทพ ไม่ค่อยดี และตอนนี้มีพรรคการเมืองใหม่ๆ เข้ามาให้เลือกจำนวนมาก บางทีคนใต้อาจฉีกแนว คว่ำบาตรพรรคประชาธิปัตย์ และเลิกเชียร์ลุงกำนันก็ได้ คล้ายกับคนผิดหวังกับสินค้า ที่เราซื้อมาแล้วใช้ไม่ดีเราก็ไม่อยากกลับไปซื้ออีก
นอกจากนี้ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ยังได้รวบรวมความเห็น และคอมเม้นจากเฟซบุ๊กต่างๆ ซึ่งได้มีการวิพากษณ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวกันอย่างกว้างขาวง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความเห็นไปในทำนองติหนินายสุเทพ มากกว่าที่จะให้การสนับสนุน ตัวอย่างเช่น ปากว่าทำเพื่อประชาชน จะเชื่อได้หรือในเมื่อคำพูดตัวเองยังเปลี่ยนได้แบบนี้, มวยล้มต้มคนดู, สุดท้ายก็ไม่รักษาคำพูด, ชอบนักเลงดี, เพิ่มทางเลือกใหม่เผื่อมีคนใหม่ๆ เข้ามาแก้ปัญหา เบื่อพรรคเดิมๆ, ไม่รู้สึกอะไรคิดไว้แล้วว่าจะเล่นมุกนี้ตระบัดสัตย์เพื่อชาติ, ชอบฉากที่แกบีบน้ำตา, No Comment เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี