หลายคนอาจจะงง!.. หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าว "สีกาจุ๋ม" ถูกศาลจังหวัดนครพนมอนุมัติออกหมายจับที่ให้การช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธี หรือพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินทอนวัดหลบหนีการจับกุมไปยังประเทศเยอรมนี กับอีกข่าว "สีกาจุ๋ม" ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทุจริตเงินทอนวัดกับอดีตพระพรหมสิทธิ หรือธงชัย สุขญาโณ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวงิหาร ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานร่วมกันฟอกเงิน หรือคดีทุจริตเงินทอนวัดเช่นเดียวกัน
ใช่ "สีกาจุ๋ม" คนเดียวกันหรือไม่???
"สีกาจุ๋ม" ตามที่เป็นข่าวดังกล่าวข้างต้นความจริงมี "2 สีกาจุ๋ม" วันนี้เราจะพาไปรู้จักทั้ง 2 สีกานี้เป็นใครมาจากไหน เหตุใดถึงต้องมาพัวพันกับคดีทุจริตเงินทอนวัด และการช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธี หนีการจับกุมไปถึงเยอรมนีเพื่อขอลี้ภัยกับทางการประเทศเยอรมนี
"สีกาจุ๋ม" คนแรกคือ "สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร นิพนธ์พิทยา" ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินทอนวัด ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญที่เป็นกุญแจ่นำไปสู่การออกหมายจับอดีตพระพรหมสิทธิ หรือธงชัย สุขญาโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หลังจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค.61 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กองปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นนายทหารยศ "ร้อยโท" นายทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย และอดีตเลขานุการส่วนตัวนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และยังพบด้วยว่า "ร้อยโท" นายนี้เป็นเป็นบุตรชายของ "สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร" และค้นพบหลักฐานความเชื่อมโยง "สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร" กับ "น.ส.นุชรา สิทธินอก" ที่เปิดบัญชีรับโอนงบ 27 ล้านบาท จากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
"สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร นิพนธ์พิทยา" เป็นใคร? หากย้อนดูประวัติก่อนที่จะมาเป็นผู้ต้องหาร่วมกันในคดีฟอกเงิน หรือทุจริตเงินทอนวัด พบว่า "สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร" เคยเป็นนายกเทศมนตรีตำบลนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผู้กว้างขวางและมีสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองระดับชาติ หลายคนในพื้นที่
หลังพ้นตำแหน่ง "สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร" ได้ผันตัวมาทำธุรกิจัดอีเว้นต์ขนาดใหญ่ๆ เช่น เมื่อวันที่ 26 ก.ค.51 รับจัดงานตักบาตรพระ 1,111 รูป ของวัดพระธรรมกาย ทำให้ "สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร" ได้รู้จักกับอดีตพระพรหมสิทธิ หรืออดีตเจ้าคุณธงชัย
ต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า "สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร" ได้เปิดห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีดีทวีคูณ ในปี 2552 เพื่อรับผลิตสื่อรายการโทรทัศน์ โดยใช้ชื่อนายกนกศักดิ์ ภูทองอูบ และ น.ส.นุชรา เป็นนอมินีถือหุ้น ปี 2556 ห้างหุ้นส่วนดีดีทวีคูณ เริ่มรับผลิตสื่อเผยแผ่ธรรมะให้กับวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จนมีความสนิทสนมกับพระผู้ใหญ่ในวัดสระเกศฯ มากขึ้น จนในปี 2559 เมื่อเดือน มิ.ย."ร้อยโท" บุตรชายของ สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร ได้เข้าอุปสมบทที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีอดีตพระพรหมสิทธิ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้อดีตพระราชกิจจาภรณ์ ผู้ต้องคดีเดียวกันทำหน้าที่เป็นพระผู้ดูแลระหว่าง "ร้อยโท" บุตรชาย สีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร อุปสมบทอยู่ในวัด
จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า ก่อนที่ "ร้อยโท" บุตรชายของสีกาจุ๋ม-น.ส.ฑัมพร จะอุปสมบทได้มีการเริ่มถ่ายโอนเงินบางส่วนจาสกงบ 62 ล้านบาทที่ได้รับการอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าบัญชี "น.ส.นุชรา สิทธินอก" จำนวน 27 ล้านบาท และเข้าบัญชีฆราวาสอีก 1 คน 5 ล้านบาท จึงเป็นหลักฐานสำคัญจนทำให้อดีตพระพรหมสิทธิ กลายเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงินและถูกจับกุมควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่ได้หลบหนีการจับกุมไปได้ระยะหนึ่ง คงเหลือแต่อดีตพระพรหมเมธี ที่หลบหนีออกนอกประเทศไปได้
ส่วนอีก "สีกาจุ๋ม" หนึ่งคือ "สีกาจุ๋ม-นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล" ที่เพิ่งถูกศาลจังหวัดนครพนมอนุมัติออกหมายจับที่ให้การช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธี หรือพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานร่วมกันฟอกเงิน หรือคดีทุจริตเงินทอนวัดรายสุดท้าย ที่หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอลี้ภัยกับทางการประเทศเยอรมนีอยู่ในขณะนี้แล้ว รวม 5 คนหลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดนครพนมเพื่อขออนุมัติหมายจับ
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่ถูกออกหมายจับประกอบด้วย 1.นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล หรือ "สีกาจุ๋ม" อายุ 54 ปี สัญชาติไทย ซึ่งเป็นคนสนิทของอดีตพระพรหมเมธี 2.นายพีรวิช ศรีศรัทธา อายุ 28 ปี สัญชาติไทย ที่คอยให้การช่วยเหลือ 3.จันทนา รัตนวงษ์ สัญชาติลาว 4.นางจิตติมา ลัดตะมะวง สัญชาติลาว 5.นายน้อย รัตนวงษ์ สัญชาติลาว
แล้ว "สีกาจุ๋ม-นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล" คนนี้เป็นใคร???
สำหรับ "สีกาจุ๋ม-นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล" ผู้นี้มีฐานะร่ำรวยเป็นนักลงทุนวงการตลาดหุ้นของไทย และเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง อาทิ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ สามีของ "สีกาจุ๋ม-นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล" ได้ประกอบธุรกิจทำเหมืองแร่ใน สปป.ลาว ทำให้รู้ช่องทางในการพาอดีตพระพรหมเมธี หลบหนีออกนอกประเทศได้อย่างง่ายดาย
จากการตรวจสอบพบ "สีกาจุ๋ม-นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล" มีชื่อถือหุ้นและเป็นกรรมการอย่างน้อย 4 บริษัท คือ 1.บริษัท เจ แอนด์ เจ คอนสตรัคชั่น แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 ก.ค. 2537 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่ตั้งเลขที่ 15/74 ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยนางศศิร์อรถือหุ้น 60%, 2.บริษัท บางกอก แวลู บิสซิเนส จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท เจแอนด์เจบิลดิ้ง1999 จำกัด) จดทะเบียนวันที่ 4 ก.พ. 2542 ทุน 20 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทุกประเภท ที่ตั้งเลขที่ 1213/105 ซอยลาดพร้าว 94 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยนางศศิร์อรถือหุ้น 30%
3.บริษัท อินคอร์ป จำกัด (ชื่อ เดิม บริษัท เจแอนด์เจคอมพิวเทค จำกัด) จดทะเบียนวันที่ 9 ก.พ. 2542 ทุน 1 ล้าน ปัจจุบัน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ จำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่ตั้งเลขที่ 1213/105 ซอยลาดพร้าว 94 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ นางศศิร์อรถือหุ้นใหญ่ 60 % และ 4.ถือหุ้น บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THLในลำดับที่ 8 จำนวน 6,025,900 หุ้น (2.90%)
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวย่อยๆ ของ 2 "สีกาจุ๋ม" คราวนี้หลายคนก็คงจะหายงง! กันแล้วนะครับ!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี