"ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ได้ลงพื้นที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากสำนักงานงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดอบรมหลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยให้กับครูและนักเรียนโรงเรียนยอเซฟอุปถัมป์ โดยมีนายประวิช รัตนเพียร กกต.ได้กล่าวเปิดหลักสูตรดังกล่าวว่า สำนักงาน กกต. สภาประชุมแห่งบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทยมุ่งหวัง เป็นอย่างยิ่งว่าการอบรมหลักสูตรพลเมืองฯนั้น เป็นการวางแนวทางการดำเนินกิจกรรมร่วมกัน
ทั้งนี้ หลักสูตรพลเมืองฯ จัดขึ้นเพื่อปลูกฝังการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ทั้งระดับท้องถิ่นและเลือกตั้งใหญ่ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.62 เพราะกติกาใหม่มีการเปลี่ยนแปลงจากการเลือกตั้งเดิม จะใช้ระยะเวลารณรงค์สร้างการรับรู้เรื่องการเลือกตั้งได้โดยใช้เวลาไม่นาน พร้อมทั้งสนับสนุนให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม
ทีมข่าวแนวหน้าได้รวบรวมความคิดเห็นของนักเรียนที่อยู่ในหลักสูตรพลเมืองฯ ว่ารู้จักคำว่า "ประชาธิปไตย" มากน้อยแค่ไหน และหากเลือกตั้งจะเลือกบุคคลแบบไหนเข้ามาเป็นผู้นำประเทศ!!!
น.ส.สุพิชา พิริยะศิริพันธ์ อายุ 16 ปี นักเรียน โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา กล่าวว่า ประชาธิปไตย คือ การได้ใช้สิทธิของตัวเองในการเลือกตั้ง หรือการลงความคิดเห็นต่างๆ เพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งการเลือกตั้งนั้นจะต้องให้ประชาชนที่มีสิทธิมาใช้สิทธิของตนเองในการเลือกตัวแทนที่จะมาบริหารประเทศ สิ่งแรกที่จะต้องดูคนที่เราจะเลือกมาบริหารประเทศ คือ คนที่มีความเป็นผู้นำ แบบผู้นำจริงๆ เพื่อมาบริหารประเทศของเรา ตนเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการเข้าร่วมอบรมหลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ซึ่งตนคิดว่าหากเข้ามาอบรมจะต้องได้ความรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตย ทั้งนี้ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีและสามารถนำไปเผยแพร่ให้กับเพื่อนที่โรงเรียน และครอบครัวได้อย่างแน่นอน
ด้าน น.ส.ศรุตา สุขพัฒนานรากุล อายุ 16 ปี นักเรียน โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา กล่าวกับทีมข่าวว่า ประชาธิปไตยที่ตนคิดนั้น คือ การฟังเสียงส่วนมาก เช่น การเลือกตั้ง หากตนจะเลือกใครเป็นประธานนักเรียนก็จะมองคนที่เป็นผู้นำ เป็นคนดี และไม่คอร์รัปชั่น ซึ่งในการเลือกตั้งประธานนักเรียนที่โรงเรียน ตนเคยเห็นมีคนที่บอกว่าหากเลือกเขาก็จะได้รับผลตอบแทน
"แต่ถ้าหากเป็นผู้ใหญ่แล้วยังเกิดการคอร์รัปชั่น เด็กโตขึ้นมาก็จะโกงเหมือนที่ผู้ใหญ่ทำ เพราะเขาดูผู้ใหญ่เป็นแบบอย่าง ซึ่งมันไม่ดี" น.ส.ศรุตา กล่าว
ส่วนนายชาญชล เสือชำนาญ อายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนยอแซฟอุปถถัมภ์ กล่าวว่า ประชาธิปไตย คือ ความเห็นของคนส่วนมาก เสียงของประชาชนทั่วไป หากจะเลือกผู้นำที่ดีขึ้นมา ตนจะเลือกจากลักษณะและบุคลิก รวมถึงความสามารถด้วย เท่าที่ดูสถานการณ์ตอนนี้การเมืองของประเทศไทยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะจากที่ดูข่าวต่างๆ มันเริ่มไม่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะมีการทุจริตเกิดขึ้น
"ผมคิดว่าแม้แต่การเลือกประธานนักเรียนในโรงเรียนก็มีผลต่อการเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะหากคนสมัครเลือกตั้งโกงตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นมาก็คงจะโกงเหมือนกัน ผมว่าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงๆ ก็ยังไม่แน่นอน เพราะประเทศเรายังมีความขัดแย้งอยู่ ผมว่าการเลือกตั้งอาจจะมีการเลื่อนออกไปอีกก็ได้" นายชาญชล กล่าว
ขณะที่นายธนภัทร โสวรรณะ อายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนยอแซฟอุปถถัมภ์ กล่าวว่า ประชาธิปไตย คือเสียงส่วนใหญ่ที่จะเลือกคนที่ดีเข้ามาปกครองประเทศ และอยากให้การเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นประชาธิปไตย หากมีการเลือกตั้งตนก็อยากจะเลือกคนที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ยังไม่พบการทุจริตจากการเลือกตั้งประธานนักเรียน แต่หากตนมีสิทธิได้เลือกตั้งระดับประเทศก็จะเลือกผู้นำที่ดี และมองจากนโยบายของเขาว่าจะทำอะไรให้กับประเทศบ้าง
"หากเราเลือกคนที่ทุจริตเข้ามาพัฒนา ประเทศของเราก็จะพัฒนาได้ช้ามาก และจะส่งผลเสียกับประเทศเราด้วย" นายธนภัทร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี