10 ก.ค.61 วัดคูหาภิมุข เป็นวัดที่สำคัญของเมืองยะลา มีพิพิธภัณฑ์ศรีวิชัย เก็บวัตถุโบราณที่ได้มาจาก วัดถ้ำ ภูเขากำปั่น พระพิมพ์ดินดิบ สถูปเม็ดพระศก อิฐฐานพระพุทธรูป จอมพลแปลก พิบูลสงครามเปลี่ยนชื่อ "วัดหน้าถ้ำ" เป็น "วัดคูหาภิมุข"
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้พระยายะหริ่งมาสร้างเมืองยะลา ตั้งที่ว่าราชการ ณ บ้านท่าสาป ตำบลท่าสาป และสร้างวัดขึ้นที่ริมเขาหน้าถ้ำที่มีพระพุทธไสยาสน์ภายในถ้ำ พ.ศ. 2472 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ได้เสด็จมาประทับแรมที่วัดแห่งนี้ มีพระปรมาภิไธย ย่อ ป.ป.ร. ที่ผาหินภายในถ้ำวัดคูหาภิมุข
ตำบลหน้าถ้ำเคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พบร่องรอยศาสนสถาน เมืองโบราณ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่พบเทวรูปสำริด กำแพงเมือง พระพิมพ์ดินดิบแบบทวารวดีศรีวิชัย ภาพเขียนสีพระพทธรูปฉาย ภาพเขียนสีราชรถมีสัตว์เทียม มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15 -17 ยะลาเป็นชุมชนเกษตร นักโบราณคดีได้พบภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์บริเวณถ้ำคูหาภิมุข เป็นภาพพระพุทธฉายและภาพราชรถแกะสลักไว้บนหน้าผา ภายในบริเวณถ้ำคูหาภิมุขเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันวัดคูหาภิมุข หรือวัดถ้ำ ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ หลังจากสถานการณ์ความรุนแรงได้ลดน้อยลงไป ทำให้บรรยากาศของการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นคืนมาอีกครั้ง โดยได้มีนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นชาวมาเลเซียและพี่น้องชาวไทย ที่ได้เดินทางมากราบไหว้พระพุทธไสยาสน์ภายในถ้ำ ส่วนด้านการค้าขายพ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มที่จะขายได้ดีขึ้น โดยพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของภายในสถานที่ท่องเที่ยว ก็ขอให้รัฐบาลได้สนับสนุนประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว ได้รับทราบถึงความสวยงามและความปลอดภัยที่มั่นใจได้ในขณะนี้
นายสิทธา อนันธขาล ผู้ได้รับการฝึกอบรมมัครุเทศก์ทั่วไป (ต่างประเทศ) รุ่นที่ 1 จังหวัดสตูล ที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวและชมวัฒนธรรมของชาวตำบลหน้าถ้ำยะลา ได้กล่าวว่า ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะวัดคูหาภิมุข หรือวัดถ้ำ ตามที่ชาวบ้านทั่วไปได้เรียกกัน ซึ่งจากการที่ได้เดินทางมาศึกษาและชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตามที่สื่อต่างๆได้นำเสนอ แต่เมื่อมาดูด้วยตาตนเองก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ซึ่งหากตนเองกลับไปจังหวัดสตูลหรือที่ใดก็ตาม ก็จะอยากที่จะเชิญชวนให้ทุกคนได้มาท่องเที่ยวกัน โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีสถานที่เที่ยวอีกมากมาย ทั้งในด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติ
นายสิทธา ยังได้กล่าวถึง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำนางนอนและได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้วนั้นด้วยว่า ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมหน่วยงานทุกหน่วยที่ได้เข้าไปช่วยเหลือตัวน้องๆทั้ง 13 คน ก็ขอฝากเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ได้เข้าช่วยเหลือในครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี
ด้าน นางนิสา สรรพกิจ แม่ค้าขายของที่วัดคูหาภิมุข กล่าวว่า ตนเองเป็นคนหน้าถ้ำมาตั้งแต่เกิด และรักที่นี่มาก อาชีพปัจจุบันก็ยังคงขายอาหารอยู่ที่แห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันนี้สถานการณ์ได้ลดลงไปมากแล้ว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวบ้าง ต่างกับเมื่อก่อนไม่มีเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ พอที่จะขายได้บ้าง ส่วนเหตุการณ์ช่วงนี้ก็มีบ้าง แต่รวมๆแล้วก็ดีขึ้น และก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ก็มาดูแลความปลอดภัยให้อยู่ ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยว
นางนิสา ได้เล่าถึงเมื่ออดีตว่า ที่วัดถ้ำแห่งนี้โดยเฉพาะในถ้ำมืด ได้เคยมีคนติดอยู่ภายในถ้ำเช่นเดียวกัน และติดอยู่นานถึง 7 วัน และอาศัยดื่มน้ำที่ไหลตกลงมาจากโขดหิน ซึ่งเป็นคนมาจากภาคกลางเมื่อสมัยนั้น ปัจจุบันการเข้าไปเที่ยวในถ้ำมืด ก็จะมีเด็กนักเรียนเป็นมัคุเทศน์ คอยพานักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายในถ้ำมืด ซึ่งภายในมี สระแก้ว หินเขาช้าง และ อื่นๆอีกหลายอย่าง ที่สวยงาม สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอฝากบอกไปยังรัฐบาลด้วยว่า อยากให้หน่วยงานต่างๆได้พานักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเทียวที่วัดแห่งนี้ และชาวบ้านในพื้นที่ก็จะได้มีอาชีพขายของได้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี