วันนี้ (16 ก.ค.) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวระหว่างเดินทางเข้าทำงานที่ศาลากลางจังหวัดพะเยาเป้นวันแรก ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนจังหวัดพะเยาว่า การเดินทางรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยานั้นชาวพะเยาคาดหวังกับการบริหารงานของตนเองเป็นอย่างมาก โดยงานแรกที่อยากทำ คือ การผลักดันให้จุดผ่อนปรนบ้านฮวก อำเภอภูซาง ให้เป็นแดนชายแดนถาวร เพราะหากเป็นด่านถาวรแล้ว สิ่งที่ตามก็ก็จะเป็นในเรื่องของการท่องเที่ยวที่จะเชื่อมโยงกันทั้งในและต่างๆ จังหวัดร่วมถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย ส่งผลให้การเกิดรายได้ ทำให้เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย
จังหวัดพะเยามีแนวเขตติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตั้งแต่บริเวณบ้านฮวก หมู่ที่ 3 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง ถึง บ้านต้นผึ้ง หมู่ที่ 16 ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ เป็นระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร โดยมีช่องทางกิ่วหก (PB 502763) หมู่ที่ 12 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เป็นช่องทางที่ติดต่อระหว่างบ้านฮวก หมู่ที่ 12 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา กับบ้านปางมอญ เมืองคอบ แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว เป็นที่ตั้งจุดผ่อนปรนชายแดนไทย-สปป.ลาวบ้านฮวก เป็นช่องทางที่ราษฎรของทั้งสองประเทศ สามารถเดินทางติดต่อค้าขายกันได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. ของทุกวัน โดยไม่มีการหยุดพักเที่ยง และมีการจัดตลาดนัดทุกวันที่ 10 และ 30 ของทุกเดือน ณ บริเวณตลาดบ้านฮวก
สำหรับจุดผ่อนปรนบ้านฮวก แห่งนี้ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2536 อยู่ห่างจากตัวจังหวัดพะเยา ประมาณ 100 กิโลเมตรตามถนนสายพะเยา-จุน-เชียงคำ-ภูซาง เป็นประตูเข้าสู่แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ก่อนเข้าไปสู่หลวงพระบางสภาพพื้นที่ชายแดนส่วนใหญ่เป็นภูเขา และมีช่องทางธรรมชาติที่เหมาะสมกับการค้าชายแดน ซึ่งเป็นช่องทางที่ประชาชนทั้งสองประเทศไทย-ลาวใช้เป็นเส้นทางสัญจรเข้า-ออก คือ "กิ่วหก"
ส่วนการยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านฮวก อําเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เป็นด่านถาวรนั้นที่ผ่านมาจังหวัดพะเยา ได้มีการผลักดันและเตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง จากการประชุมระหว่างจังหวัดพะเยา และแขวงไชยบุรี สปป.ลาว เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 โดยในที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันในการยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านฮวก เป็นจุดผ่านแดนถาวร และยกระดับด่านบ้านปางมอญเมืองคอบ แขวงไชยบุรี เป็นด่านสากล ภายในปี 2560 และทางกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งผลประชุมให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิด-ระงับหรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
โดยจังหวัดพะเยา ได้มีการจัดทําข้อมูล การเตรียมความพร้อมในเรื่องของการใช้พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติภูซาง และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 28 ไร่ที่จะสร้างอาคารหน่วยงาน เพื่อรองรับการยกระดับจุดผ่านแดนถาวรดังกล่าว รวมทั้งแผนการใช้พื้นที่ระหว่างรอการพิจารณา เพื่อขอใช้พื้นที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเสนอเรื่องดังกล่าวต่อ สมช. ในด้านการเตรียมความพร้อม ด้านการก่อสร้างอาคารด้านถาวรบนพื้นที่ จํานวน 6 ไร่เศษ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน (ทับซ้อน) โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบคือกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช (อุทยานแห่งชาติภูซาง) และกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มนํ้าชั้นที่ 1 B ใน อํานาจกรมป่าไม้นั้นจะต้องมีการทํา EIA และทางจังหวัดได้ของบประมาณปี 2562 ดําเนินการ ในส่วนนี้ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอยู่พอสมควร เพราะจะต้องมีการจัดทําร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดําเนินการจัดทําร่างดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี