วันนี้ (17 ก.ค.2561) ภายหลังจากที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวีดีโอ ที่มีการประกาศปฏิญญามหาสารคาม ความว่า ขอให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการสวัสดิการเงินการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ทุกโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ข้อ 2 ลูกหนี้ ช.พ.ค.จำนวน 450,000 คน จะดำเนินการยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ถึงความไม่เหมาะสม
ล่าสุด ดร.ครรชิต วรรณชา ศึกษาธิการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า กรณีครูที่ออกมาประกาศปฏิญญาขอยุติการชำระหนี้ ช.พ.ค. ให้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ตนเองมองว่า การที่กลุ่มครูออกมาเคลื่อนไหวนั้นถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่ส่วนตัวตนมองว่าไม่เหมาะสม ซึ่งกลุ่มครูที่ออกมาเคลื่อนไหวส่วนใหญ่พบว่าเป็นข้าราชการเกษียณ ซึ่งรายได้จากเงินบำนาญอาจจะไม่พอกับค่าใช้จ่าย ซึ่งตนเองเป็นแค่ผู้รับผิดชอบพื้นที่ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชา แต่ภายหลังจากทราบข่าวตนเองได้มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบ ทั้ง ผอ.กลุ่ม และนิติกร ได้ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและจะได้รายงานผู้บังคับบัญชาได้ทราบ
ดร.ครรชิต กล่าวอีกว่า ตนเคยรับตำแหน่ง ผอ.เขตการศึกษามาก่อนที่จะมารับตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด ที่ผ่านมาเคยได้ทำบันทึกข้อตกลงหรือ MOU กับทางธนาคารออมสิน และ สกสค. ในแต่ละจังหวัดว่า หลังจากที่ได้ยื่นกู้และได้รับเงินตามสิทธิ์แล้ว พันธะที่ต้องดำเนินการคือเรื่องหนี้สิน ซึ่งก่อนหน้านั้นพี่น้องครูอาจจะยังไม่เดือดร้อน แต่หลังจากที่เกษียณแล้วเงินที่หักจ่ายในแต่ละเดือน อาจจะมากจนไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย แต่ทราบมาว่าทางผู้บังคับบัญชาในระดับสูงสุดของแต่ละกระทรวง แต่ละกรม ได้ช่วยประนีประนอมไกล่เกลี่ยเรื่องนี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาเคยมีการพูดคุยกันทราบว่า 1.จะมีการคืนส่วนต่างที่เคยให้กับหน่วยงานที่หัก ให้กับสมาชิกที่มีประวัติการส่งเงินดี 2.เรื่องดอกเบี้ยก็ได้มีการพูดคุยกัน มีการปรับโครงสร้างหนี้ แต่รายละเอียดต่าง ๆ ก็ออกมาเป็นข่าวได้ไม่นานก็เงียบหายไป
สำหรับในส่วนของจังหวัดมหาสารคาม ถือว่าพี่น้องเพื่อนครูให้ความร่วมมือดี ยินยอมให้หักเงิน ปัญหาเช่นนี้ถามว่าผิดวินัยหรือไม่ ในเชิงกฎหมายถือว่ายังไม่ผิด เพราะจากข่าวที่ปรากฏออกไปถือว่าเป็นปฏิญญาเฉย ๆ แต่หากไม่ส่งเงิน ซึ่งทางธนาคารออมสิน หรือ สกสค. มีข้อกฎหมายระบุไว้ในสัญญาอยู่แล้ว หากผู้กู้ไม่ส่งเงินต่อ จนเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย จนศาลสูงสุดพิพากษาว่าเป็นบุคคลล้มละลาย ตรงนั้นถือจะเข้าสู่กระบวนการทางวินับ ว่าด้วย พรบ.ระเบียบครู ฉบับปัจจุบัน แก้ไขเพิ่มเติม คือ คุณสมบัติของครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น จะต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ตรงนั้นถือจะเข้าสู่กระบวนการทางวินัย ซึ่งมาถึงจุดนี้เราจะต้องช่วยกันหาทางออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพลักษณ์ของครูที่ออกไป เราเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ ตนมองว่ายังมีอีกหลายทางออก ในส่วนของจังหวัดมหาสารคาม หากดูจากข้อมูลข้าราชการครูที่มีหนี้อยู่ในภาวะวิกฤต ถือว่ามีไม่มาก ประมาณ 5เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการเกษียณ เพราะเงินบำนาญอาจไม่พอค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี