การผลักดันด่านบ้านฮวก อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา จากจุดผ่อนปรนชั่วคราวไทย-ลาวให้เป็นด่านถาวรไทย-ลาวใกล้ความจริงเข้ามาทุกขณะ หลังจากก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลายฝ่ายนายโกวิทย์ ไชยเมือง นายกสมาคมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ และกรรมการ กรอ.จังหวัดพะเยา คาดหวังว่าหลังเกิดด่านถาวรไทย-ลาว (บ้านฮวก-บ้านคอบ) แล้วจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนทางด้านเศรษฐกิจที่อำเภอภูซางและอำเภอข้างเคียง โดยเฉพาะอำเภอเชียงคำ เมืองเศรษฐกิจอันดับ 1 ของจังหวัดพะเยา
ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายในจังหวัดพะเยาต่างเชื่อมั่นว่า "ด่านบ้านฮวก" จะต้องถูกยกระดับจากจุดผ่อนปรนชั่วคราวให้เป็นด่านถาวรภายในปี 2560 แต่ก็ต้องมีอันเลื่อนออกไป ทั้งๆ ที่มีความพร้อมแล้วเกือบทุกด่านทั้งอาคารด่านพรมแดน และส่วนประกอบอื่นๆ
จนมาถึง ณ วันนี้ความหวังของชาวจังหวัดพะเยาก็ได้มีขึ้นอีกครั้งที่จะได้เห็นด่านบ้านฮวก ถูกยกระดับจากจุดผ่อนปรนชั่วคราวขึ้นป็นด่านถาวร เมื่อนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่ ที่เพิ่งย้ายมาจากจังหวัดเชียงรายหลังเสร็จสิ้นภารกิจช่วยนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี่ แม่สาย 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำยางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้กล่าวต่อหน้าข้าราชการและประชาชนจำนวนมากที่มาต้อนรับในวันแรกของการเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า "งานแรกที่อยากทำ คือ การผลักดันให้จุดผ่อนปรนบ้านฮวก อำเภอภูซาง ให้เป็นด่านชายแดนถาวร"
ทั้งนี้ เพราะถ้าหากผลักดันให้จุดผ่อนปรนบ้านฮวก เป็นด่านถาวรแล้ว นายณรงค์ศักดิ์ เชื่อว่าสิ่งที่ตามมาก็จะเป็นในเรื่องของการท่องเที่ยวที่จะเชื่อมโยงกัน ทั้งจังหวัดรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
รวมถึงพัฒนากว๊านพะเยา ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะได้มาดูบรรยากาศพระอาทิตย์ตกริมกว๊านพะเยา อาหารต่างๆ รอบกว๊านให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชิน อยากทำให้กว๊านพะเยาเก็บน้ำได้มากขึ้น เมื่อมีน้ำมากขึ้นเราก็อยากให้มีการต่อยอดเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ เพราะเรื่องของแหล่งน้ำ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งจะต้องเร่งพัฒนาแหล่งน้ำให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนชาวพะเยา
สำหรับ จังหวัดพะเยา มีแนวเขตติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตั้งแต่บริเวณบ้านฮวก หมู่ที่ 3 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง ถึง บ้านต้นผึ้ง หมู่ที่ 16 ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ เป็นระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร โดยมีช่องทางกิ่วหก (PB 502763) หมู่ที่ 12 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เป็นช่องทางที่ติดต่อระหว่างบ้านฮวก หมู่ที่ 12 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา กับบ้านปางมอญ เมืองคอบ แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว เป็นที่ตั้งจุดผ่อนปรนชายแดนไทย-สปป.ลาวบ้านฮวก เป็นช่องทางที่ราษฎรของทั้งสองประเทศ สามารถเดินทางติดต่อค้าขายกันได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. ของทุกวัน โดยไม่มีการหยุดพักเที่ยง และจัดตลาดนัดทุกวันที่ 10 และ 30 ของทุกเดือน ณ บริเวณตลาดบ้านฮวก
ทั้งนี้ การขออนุญาตเดินทางเข้า-ออกให้เป็นไปตามข้อตกลงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องด่านชายแดนด้านบ้านฮวก อำเภอภูซาง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดพะเยา ประมาณ 100 กิโลเมตร ตามถนนสาย พะเยา-จุน-เชียงคำ-ภูซาง
บ้านฮวก เป็นประตูเข้าสู่แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ก่อนเข้าไปสู่หลวงพระบาง พะเยา 108 มีโอกาสเดินทางมายังบ้านฮวก ได้สัมผัสถึงเสน่ห์ความงามของธรรมชาติที่ยังคงมีความงดงาม สองข้างบ้านฮวกยังมีมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านอยู่หลายร้านให้ผู้มาเยือนได้แวะเลือกซื้อหา จากหมู่บ้านขับรถไปอีกประมาณสองกิโลเมตรก็จะถึงช่องทางกิ่วหก ซึ่งเป็นช่องทางติดต่อระหว่างประเทศไทยกับแขวงไชยะบุรี ซึ่งจะมีรถโดยสารรับส่งจากอำเภอ เชียงคำ มายังจุดนี้
ในทุกปีในช่วงเทศการปีใหม่จะมีการจัดงานตักบาตรสองแผ่นดินขึ้น โดยอำเภอภูซาง ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ องค์กรเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนอำเภอภูซาง ได้ร่วมกันจัดขึ้น ณ จุดรอยต่อชายแดนไทย-ลาว บริเวณกิ่วหก บ้านฮวก หมู่ที่ 12 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เพื่อเป็นการสืบสานและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีการทำบุญตักบาตรให้คงคู่พุทธศาสนาและสังคมตลอดไป
ตลอดจนเสริมสร้างความสามัคคีและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนของจังหวัดพะเยาและเมืองคอบ แขวงไชยะบุลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอันจะพัฒนาไปสู่ความร่วมมือในด้านต่างๆ
การเดินทาง สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง ซึ่งมีตลอด 24 ชั่วโมง และทางรถยนต์ โดยจากเชียงคำใช้ทางหลวงหมายเลข 1021 มุ่งหน้าไปอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ผ่านตลาดสบบง ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าไป ทางอำเภอภูซาง จากนั้นไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกตรงจุดสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1093 ผ่านวัดหนองเลา และอุทยานภูซาง จากนั้นก็ตรงไปสู่บ้านฮวก
ส่วนเดินทางด้วยเครื่องบินจากท่าอากาศยานจังหวัดเชียงราย จะมีรถตู้หรือรถโดยสารประจำทางส่งถึงบ้านฮวก หรือเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยรถบัสถึงสถานีขนส่งเชียงคำ จะมีรถโดยสารประจำทางถึงบ้านฮวก
ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่บ้านฮวก ชุมชนอยู่ติดชายแดนไทย-ลาวแห่งนี้ยังคงดำเนินวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ที่เน้นการประกอบอาชีพทำการเกษตรและค้าขาย โดยเฉพาะการค้าขายกับกับประชาชนลาวและยังมีประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมนที่น่าสนใจ
ผลิตภัณฑ์เด่น ผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ดีเยี่ยมและขึ้นชื่อของหมู่บ้านแห่งนี้คือ หัตถกรรมผ้าทอมือ ผ้าถักโครเชต์ ผ้าพื้นเมือง
แหล่งท่องเที่ยว จุดผ่อนปรนชายแดนไทย-ลาว บ้านฮวก (กิ่วหก),ตลาดนัดชายแดนไทย-ลาว ทุกวันที่ 10 และ 30 ของเดือนจะจัดเป็นตลาดนัด เพื่อให้ประชาชนทั้งไทย-ลาวได้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง พืชผลทางการเกษตรและหัตถกรรม เป็นต้น และเส้นทางนี้ยังสามารถเดินทางต่อไปถึง ภูชี้ฟ้าและผาตั้งจังหวัดเชียงรายได้ ระยะทางประมาณ 38 กม.
ด้านธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร ก็มีน้ำตกโป่งผา ถิ่นกำเนิดเต่าปูลูที่ใกล้สูญพันธุ์ ตั้งอยู่ที่บ้านฮวก อยู่ห่างจากหมู่บ้านระยะทาง 1.5 กม. เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นหลายชั้น เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบเดินป่าชมธรรมชาติ และเป็นถิ่นกำเนิดและที่อยู่ของเต่าปูลู ซึ่งหาดูได้ยากอีกด้วย
ภาพจากเพจ "The North องศาเหนือ"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี