จากกรณีที่สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดยนายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. นายสิวะ พันธภาค อุปนายกสมาคม ฯ ร่วมกับชมรมออฟโรดจังหวัดนครศรีธรรมราช และกลุ่มบริษัทเดอะบีโฮม ออกแบบตกแต่งภายใน และร้านสุขแก้ว ค้าวัสดุก่อสร้าง ร่วมจัดกิจกรรม “คาราวานบุญ” เดินทางไปช่วยเหลือ น.ส.คนางค์ทิพย์ ทองดี หรือ “น้องมุข” อายุ 15 ปี จ.นครศรีธรรมราช หนูน้อยยอดกตัญญูที่ปรนนิบัติดูแลแม่ที่เป็นอัมพฤกษ์นาน 8 ปี จนแม่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยน้องมุข ต้องการจะเรียนต่อในระดับ ปวช. แต่เนื่องจากฐานะทางครอบครัวยากจน แม้แต่บ้านก็ไม่มีบานประตู หน้าต่าง น้องมุขจึงต้องขออาศัยนอนตามบ้านญาติๆ และนายวีระ ทองดี อายุ 41 ปี พ่อของน้องมุข ขอให้ออกมาทำงานหลักจบ ม. 3 กระทั้งสื่อมวลชนนำเสนอเรื่องราวของน้องมุข ทำให้มีผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาช่วยน้องมุขเป็นจำนวนมาก ขณะทีมงานเดอะบีโฮม และร้านสุขแก้วค่าวัสดุก่อสร้าง รับที่จะปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้น้องมุข เพื่อจะได้อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
18 ก.ค.61 นายวัฒนา สินธะ กรรมการสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านครอบครัวน้องมุข พบว่าการดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์กว่า 95 เปอร์เซนต์เหลือเพียงการทาสีและตกแต่งอีกเล็กน้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในวันนี้ (18 ก.ค.) สำหรับการก่อสร้างบ้านหลังดังกล่าวเนื่องจากบ้านหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม ทางกลุ่มบริษัทเดอะบีโฮม ออกแบบตกแต่งภายใน และร้านสุขแก้ว ค้าวัสดุก่อสร้าง ร่วมดำเนินการสร้างโครงหลังคาเหล็กครอบคลุมโครงสร้างบ้านเดิมทั้งหมด ก่อนทำการทุบ รื้อทิ้งคานไม้ และผนังอิฐที่ชำรุดเสียหาย หลังจากนั้นนายวีระ ทองดี พ่อของน้องมุขและเพื่อนบ้าน ช่วยกันก่ออิฐฝาหนังใหม่ พร้อมก่ออิฐกั้นห้องส่วนตัวให้น้องมุขขนาด 3 x 3 เมตร 1 ห้อง ก่อสร้างห้องน้ำ ทางทิศตะวันตก 1 ห้อง โดยมีผู้ใจบุญบริจาคอิฐ และวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นให้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และร้านค่าวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ ได้บริจาคสีทาบ้านทั้งหลัง รวมงบประมาณการก่อสร้างประมาณ 2 แสนบาท
ขณะที่นายไพฑูรย์ อินทศิลา หัวหน้าศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.อุปนายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้กำหนดพิธีมอบบ้านให้กับครอบครัวน้องมุข อย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ก.ค.61 ตรงกับวันอาสาฬหบูชา ประจำปี 2561ซึ่งทางสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ รองผู้ว่าราชการ ให้เกียรติไปเป็นประธานในพิธีมอบบ้านให้ครอบครัวน้องมุข และเชิญฝ่ายทหารกองทัพภาคที่ 4 ที่ร่วมโครงการ "ทำคามดีด้วยหัวใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน" เข้าร่วมในพีดังกล่าวด้วย นอกจากนี้จะมีภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง แจ้งความประสงค์เดินทางไปร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย
"สำหรับโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ทางสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นศูนย์กลางในการประสานขอความร่วมมือ ขอรับการสนับสนุนเงินงบประมาณ วัสดุสิ่งของต่าง ๆ มาช่วยเหลือผู้ยากไร้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 5 ปี สามารถสร้างบ้านให้กับผู้ยากไร้ และผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ กว่า 150 หลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือน้ำใจของคนไทยทั่วประเทศที่มีความรัก ความสามัคคี เอื้อเฟื้อช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างแท้จริง ทางสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เป็นเพียงผู้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ และประสานงานเท่านั้น ขณะที่ทางสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช จะลงนาม MOU กับจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้แล้ว ยังได้ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 ในโครงการ “ ทำความดีด้วยหัวใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน"
ซึ่งจะทำให้การสร้างบานหรือการช่วยเหลือผู้ยากไร้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงขอเชิญชวนภารรัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมในพีมอบบ้านให้ครอบครัวน้องมุข ในวันที่ 27 ก.ค. 2561 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.โดยผู้ใจบุญทุกท่านที่ต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือครอบครัวน้องมุข สามารถบริจาคเงินเป็นทุนการศึกษา และการประกอบอาชีพ รวมทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่น ๆ ให้กับครอบครัวของน้องมุข ได้ในวันดังกล่าว พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวัน อย่างพร้อมเพรียงกัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช โทร. 082-3333139 ,นายวัฒนา สินธะ กรรมการสมาคมฯ โทร.081-9562701 และนายไพฑูรย์ อินทศิลา โทร. 081-6761299.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี