หลังจากนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี 12 คน เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุและสามเณรภายในพระอุโบสถที่วัดพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่า "หน้าอกของดอยนางนอน" ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 25 กรกฎาคมแล้ว หลังเสร็จพิธีทั้งพระและสามเณรหมูป่าทั้งหหมด 12 รูป จะจำวัดอยู่ที่วัดพระธาตุดอยตุง 1 คืน
จากนั้นในวันที่ 26 กรกฎาคมถึง 3 สิงหาคมทั้งหมดกลับลงมาจำวัดปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดพระธาตุดอยเวา เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้กับเจ้าแม่นางนอน เจ้ากรรมนายเวร แทนคุณพ่อแม่ และ น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวง นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ กองทัพเรือ ได้เสียชีวิตจากปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ไปจนถึงวันที่ 4 ส.ค.จึงลาสิกขาเพื่อกลับไปเรียนหนังสือต่อ
สำหรับ "วัดพระธาตุดอยเวา" ที่ทีมหมูป่าทั้ง 12 คนจะมาปฎิบัติธรรมช่วงระหว่างวันที่ 26 ก.ค.-3 ส.ค.ก่อนที่จะลาสิกขาในวันที่ 4 ส.ค.นั้น เป็นวัดอันเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา พระธาตุที่เชื่อกันว่า มีความเก่าแก่เป็นรองพระธาตุดอยตุง พระธาตุดอยเวา ตั้งอยู่บนยอดดอยเวา แต่พระอุโบสถและเขตสังฆาวาสจะอยู่ที่เชิงดอย ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการต้องเดินขึ้นบันไดไปนมัสการ ซึ่งข้างบนเป็นจุดชมทัศนียภาพสองฝั่งสายสามารถเห็นทัศนียภาพได้รอบทิศ
ตามประวัติพระองค์เวา หรือเวา ผู้ครองนครนาคพันธ์โยนกเป็นผู้สร้างเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุองค์หนึ่ง เมื่อ พ.ศ.364 นับเป็นพระบรมธาตุที่เก่าแก่องค์หนึ่งรองมาจากพระบรมธาตุดอยตุงนอกจากนี้ยังมีหอชมทิวทัศน์ซึ่งสามารถชมทิวทัศน์ในตัวเมืองแม่สายและจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนม่า ได้อย่างชัดเจนและยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชสมเด็จพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยา
เดิมทีขุนควักเวา หรือองค์เวา กษัตริย์องค์ที่ 10 วงศ์สิงหนวัติแห่งนครนาคพันธุ์สิงหนวัติ (เชียงแสนโบราณ) สร้างพระเจดีย์บรรจุพระเกศธาตุไว้บนดอยนี้ เมื่อ พ.ศ. 296 ดอยนี้เรียกว่าดอยเวาตามพระนามของกษัตริย์พระองค์นั้น เมื่อล่วงเวลามานานพระเจดีย์ชำรุดหักพังตามอายุไขและมีผู้บูรณะขึ้นอีกหลายครั้งหลายหน ครั้งสุดท้ายเหลือซากพระเจดีย์เพียงฐานชั้นล่าง สูงพ้นดินประมาณ 2 เมตรและถูกขุดเป็นโพรงลึก
ต่อมานายบุญยืน ศรีสมุทร คฤบดีอำเภอแม่สายนี้ ร่วมกับพระภิกษุดวงแสง รัตนมณีเชื้อชาติไทลื้อ อยู่เมืองลวง เขตสิบสองปันนา พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า คหบดีผู้มีใจศรัทธา บูรณะขึ้นอีก จัดสร้างขึ้นตามแบบล้านนาไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากรในการขุดแต่งก่อนบูรณะได้พบพระสาริกธาตุในผะอบหินคำ 5 องค์ ผะอบใหญ่ขนาดไข่เป็ดจึงบรรจุใฐานพระเจดีย์ที่เดิม วางศิลาฤกษ์ ก่อองค์พระเจดีย์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2498 มีคณะศรัทธาจากหัววัดในอำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่จัน อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอพาน อำเภอแม่สรวย และฝั่งท่าขี้เหล็กรวม 58 หัววัด นำเครื่องไทยธรรมมาถวายเป็นพุทธบูชาธรรมบูชา สังฆบูชา
คำว่า "เวา" แปลว่า "แมลงป่องช้าง" ชะรอยองค์เวา เมื่อทรงพระเยาว์จะชอบขุดรูแมลงป่องช้างเล่น จึงมีพระนามอย่างนั้น
ปัจจุบัน บนพระธาตุดอยเวาได้จัดตกแต่งให้มีความร่มรื่นเป็นอันมากมีรูปปูนปั้นแมงป่องช้าง (แมงเวา) ตัวขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณลานกว้างทางด้านเหนือขององค์พระเจดีย์ มีอนุสาวรีย์ของ พระนเรศวรมหาราชพระสุพรรณกัลยา และพระเอกาทศรสประดิษฐานอยู่เคียงข้างกัน โดยอนุสาวรีย์ทั้ง 3 พระองค์สร้างขึ้นตามความตั้งใจของหลวงปู่โง่น โสรโย แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวกจ.พิจิตร รวมทั้งมีปราสาทไพชยนต์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อประกาศถึงคุณงามความดีและเพื่อสักการะพระอินทร์ (องค์อัมรินทราธิราช) ซึ่งร่วมสร้างกันหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน คหบดีของอำเภอแม่สาย ฯลฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี