เมื่อถึงจุดวิกฤต ชีวิตหนูจะรอดได้อย่างไร?? ฝึกทักษะป้องกันจมน้ำ เทคนิคเล็กๆแต่มีค่ามาก
20 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ปัจจุบัน “การเสียชีวิตในเด็กที่อายุต่ำว่า 15 ปี” มีสาเหตุจากการจมน้ำเป็นจำนวนมาก และจากข้อมูลของสำนักโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า จ.นนทบุรีมีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556-2559 คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 3.5 คนต่อประชากรแสนคน และจากข้อมูลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ของกรมควบคุมโรคในปี 2560 ที่ผ่านมา พบเหตุการณ์จมน้ำเสียชีวิต 33 เหตุการณ์ เกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีถึง 21 เหตุการณ์ และมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปถึง 15 เหตุการณ์ หรือร้อยละ 71.4
ด้วยเหตุนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลจอมพระ จ.สุรินทร์ จึงได้ร่วมกับ สระว่ายน้ำอารีน่าท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จัดโครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการ เสริมทักษะชีวิตป้องกันการจมน้ำในวัยเรียน ประจำปี 2561 เพื่อให้เด็กไทยมีความรู้ในการป้องกันการจมน้ำ การเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ การสอนว่ายน้ำ และช่วยเหลือชีวิตคนจมน้ำ หลักสูตร 2 วัน ให้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 61 คน จากโรงเรียนบ้านขามราฎ ต.จอมพระ และโรงเรียนอนุบาลจอมพระ โดยได้รับการสอนจากวิทยากร รพ.จอมพระ อาสาฯกู้ชีพ กู้ภัย อ.จอมพระ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนประกันสุขภาพของอบต.จอมพระ
นายสุพจน์ สายบุตร นายก อบต.จอมพระ กล่าวว่า การลอยตัวในน้ำให้ได้นั้นเป็นหนทางในการเอาตัวรอดกรณีเกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้ดีที่สุด เด็กที่มาร่วมโครงการนี้จะได้เรียนรู้ พื้นฐานการว่ายน้ำเบื้องต้น รวมถึงการเอาตัวรอดภายใต้สถานการณ์คับขัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับน้ำ การฝึกหายใจใต้น้ำ การเตะเท้าคว่ำสลับกัน การลอยตัวแบบนอนคว่ำ ลอยตัวแบบนอนหงาย การใช้อุปกรณ์ช่วยในการเอาชีวิตรอด ไปจนถึงสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำได้ เช่น การร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้การปฐมพยาบาลผู้จมน้ำอย่างถูกวิธีในขั้นต้นอีกด้วย
นายพิชิต ผลคำ ชุดครูฝึกจากหน่วยกู้ชีพหนองสนิท กล่าวว่า ทักษะการเอาตัวรอดจากการจมน้ำอย่าง การลอยตัว เริ่มจากการที่ให้เด็กๆ ลอยตัวนิ่งๆ ในน้ำ โดยที่ไม่แสดงอาการตกใจ และทำตัวตามสบายๆ เพราะหากเด็กดิ้นจะทำให้จมน้ำ ขณะที่มือทั้งสองกางออกและขาทั้ง 2 ข้างวางราบ จากนั้นให้เงยหน้าขึ้น ตรงนี้เป็นเทคนิคการลอยตัวเพื่อป้องกันการจมน้ำได้นั่นเอง ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ให้เด็กตะโกนเรียกคนมาช่วยเหลือ ต่อมาเป็น “การฝึกเตะเท้าเข้าหาฝั่ง” โดยให้เด็กลอยตัวในท่าลูกหมาตกน้ำ (เงยหน้าขึ้น) จากนั้นให้จับอุปกรณ์ที่สามารถลอยน้ำได้ เช่น ขวดน้ำเปล่า, โฟม, ถุงพลาสติกคว่ำลงเพื่อให้ลอยน้ำได้ จากนั้นให้ประคองตัวจับอุปกรณ์ดังกล่าวและใช้เท้าเตะเข้าหาฝั่ง นอกจากนี้ยังมีการฝึก “การช่วยเหลือผู้อื่นขณะจมน้ำ” โดยใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิตที่หาได้ง่ายๆ เช่น ไม้, ท่อพีวีซี กระทั่งมือของผู้ฝึก หากเป็นการช่วยเหลือในระยะไกลๆ โดยการนอนคว่ำกับพื้น จากนั้นให้ใช้มือดึงเพื่อนเข้าหาฝั่ง หรือจะใช้เสื้อยืดก็ได้ โดยนอนคว่ำลงกับพื้นและทำท่าเหมือนเช่นเดิม
สำหรับการป้องกันการจมน้ำที่ดีที่สุดคือ การเรียนว่ายน้ำ โดยเด็กๆ สามารถเรียนได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบเป็นต้นไป แต่สำหรับช่วงวัยที่ได้ผลคือ แนะนำตั้งแต่ 4 ขวบ เพราะเด็กจะสามารถลอยตัวทั้งแบบคว่ำและหงายได้ อีกทั้งสามารถว่ายเป็นท่าได้แล้ว นอกจากนี้ หากบ้านไหนที่มีแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น บ่อน้ำ หรือบึงน้ำ ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตลูกน้อย หรือควรให้เด็กเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ยังเล็ก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันเด็กจมน้ำที่ดีที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี