จากข้อมูลสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่าปริมาณน้ำฝนปี 2561 จะมาเร็วและมากกว่าปกติโดยเฉพาะช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.ที่ปริมาณฝนจะมามากกว่าค่าเฉลี่ย 10% ทำให้ขณะนี้หลายหน่วยงานในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างที่น้ำจะไหลหลากเข้ามาในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ นิคมฯบางปะอิน นิคมฯบ้านหว้า และนิคมฯสหรัตนนคร ที่เคยถูกน้ำท่วมใหญ่มาแล้วเมื่อปี 2554 ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมด้วยการสร้างแนวเขื่อนไว้ป้องกันแล้ว
สำหรับการเตรียมความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมของนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นพื้นที่ราบลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมมากที่สุดนั้น ก่อนหน้านี้นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ให้นิคมฯทั้ง 3 แห่ง ทำการตรวจสอบและเสริมความแข็งแรงของเขื่อนดินกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีความสูงเฉลี่ย 5.4-7.5 เมตร พร้อมกับให้ทั้ง 3 นิคมฯ จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำ โดยร่วมมือกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด พร้อมกับร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลการระบายน้ำจากทั้ง 3 เขื่อนได้แก่ เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระรามหก
รวมทั้งการติดตามปริมาณน้ำฝนจากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา และข่าวสารสถานการณ์ในพื้นที่ จากคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประจำทุกวัน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ทำการสำรวจ ตรวจสอบ ซ่อมแซมและบำรุงรักษา ความมั่นคง แข็งแรง ของคันป้องกันน้ำท่วมนิคมฯ และตรวจสอบระดับน้ำ โดยรอบแนวถนนทางหลวงระยะทาง 32.5 กิโลเมตร เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ส่วนทางด้านการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือเกษตรกรของเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น นายวรชันย์ หลักกรด เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า พื้นที่เกษตรกรที่เราดูแลอยู่ ณ ขณะนี้มีกว่า 4,000 ไร่ ซึ่งทางเกษตรกรจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ซึ่งก็ต้องจับตาดูจำนวนน้ำในช่วงนั้นด้วย หากมีพายุเข้าในช่วงนั้นก็อาจจะทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็ได้มีนโยบายให้เข้าไปดูแลในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทางกรมชลประทานจะปล่อยน้ำเข้ามาในพื้นที่ผันน้ำ ทางกรมชลประทานก็จะทำหนังสือทำความเข้าใจส่งไปยังผู้ว่าราชการฯ อยู่แล้ว จากนั้นผู้ว่าราชการฯ ก็จะส่งไปที่นายอำเภอให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรว่าจะมีการผันน้ำภายในเดือน ก.ย.ซึ่งเกษตรกรก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนเกษตรกรรายใดที่ปลูกข้าวช้าเก็บเกี่ยวไม่ทันก็จะมีการชดเชยค่าเสียหายให้โดยว่าไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าเหตุการณ์ถึงขั้นอุทกภัยหรือไม่
"คาดการณ์ไม่ได้ว่าน้ำภายในปีนี้จะมีปริมาณมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นถือเป็นเรื่องปกติสำหรับการเป็นพื้นที่รับน้ำ และที่ผ่านมาเราได้มีการประชุมและหาแนวทางกันตลอดเรื่องเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยได้เริ่มส่งน้ำให้เกษตรกรเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ต้องรอน้ำฝนในการเตรียมแปลง เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตให้เสร็จทันก่อนฤดูน้ำหลากจะมาในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. หลังจากที่มีแผนผันน้ำที่เป็นระบบขึ้นทำให้พื้นที่เสียหายลดลงจาก 10 ล้านกว่าไร่ เหลือเพียง 4 ล้านกว่าไร่เท่านั้น" นายวรชันย์ กล่าว
ด้านนายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สำหรับการผันน้ำเหนือเข้าพื้นที่ลุ่มบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นจะมีการปล่อยน้ำในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้โดยมีแผนควบคู่ไปกับผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ราชการต่างๆ เพื่อรับทราบร่วมกันเพื่อความชัดเจน เพราะหากเกิดความเสียหายในพื้นที่เกษตรกรจะทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนได้ ซึ่งพื้นที่เกษตรกรมีจำนวนมาก ส่วนน้ำในภาคเหนือต้องดูทิศทางว่าน้ำจะไหลมาทางไหน ซึ่งเราจะต้องดูแนวทางที่ได้วางแผนและทิศทางว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรไว้แล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นการผันน้ำในแนวทางไหนก็จะต้องมีการแจ้งให้เกษตรกรและชาวบ้านรับทราบก่อน เพื่อจะได้เตรียมรับมือได้ หากกรมชลประทานจะทำการผันน้ำเหนือเข้าพื้นที่เกษตรกรก็จะแจ้งให้ทราบก่อน 15 วัน หลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"มาตรการการป้องกันเพื่อเตรียมรับมือกับน้ำเหนือที่จะไหลมาลงในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานครนั้นเราได้เตรียมแผนไว้แล้ว ไม่ว่าจะมีปริมาณน้ำมากหรือน้อยก็จะต้องทำตามแผนที่วางไว้ ส่วนกรณีที่ชดใช้ค่าเสียหายพื้นที่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบนั้นจะต้องดูจากความเสียหายว่าเกิดขึ้นจากอะไร มาจากอุทกภัยหรือไม่ โดยจะต้องมีเจ้าหน้าที่จากจังหวัดแจ้งรายละเอียดให้ทราบ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในส่วนที่ได้รับผลกระทบ" รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว
*ภาพจากแฟ้ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี