อาฟเตอร์ช็อคปม‘ข้าวหมาก’! แม่ค้าโอดยอดฮวบ เปิดความต่าง‘ข้าวหมาก-สาโท’
29 ส.ค.61 ชาวบ้านบ้านไผ่ลวก หมู่ 10 ต.ชุมแสง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่มีอาชีพทำข้าวหมากห่อใบตองวางขายริมถนนกว่า 10 ครัวเรือน ออกมายอมรับว่า หลังมีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจับปรับผู้ที่ขายน้ำข้าวหมาก ทำให้ยอดขายข้าวหมากลดลงตามไปด้วย จากเมื่อก่อนเคยขายได้วันละ 300-400 บาท ปัจจุบันเหลือเพียงวันละ 100-200 บาทเท่านั้น ส่วนข้าวหมากที่เหลือขายไม่หมดก็ต้องทิ้งหรือให้สัตว์เลี้ยงกิน เพราะมีเจ้าหน้าที่มาตักเตือนว่าห้ามทำเป็นน้ำข้าวหมากบรรจุถุง หรือขวดมาวางขาย เพราะผิดกฎหมายจึงไม่มีใครกล้าทำขาย
จากกรณีดังกล่าวจึงต้องการให้ภาครัฐเห็นใจ และต้องการให้ออกมาประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้ประชาชนรับทราบอย่างชัดเจนด้วยว่าการนำข้าวหมากที่เหลือไปทำเป็นน้ำข้าวหมาก หากดีกรีไม่ได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดสามารถวางขายได้หรือไม่ อย่างไร เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าหากข้าวหมากเป็นภูมิปัญญา น้ำข้าวหมากก็น่าจะขายได้
นางจรรยา กางรัมย์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านบ้านไผ่ลวก ที่มีอาชีพทำข้าวหมากขายมานานกว่า 20 ปี อธิบายถึงขั้นตอนการทำข้าวหมาก ว่า วัตถุดิบหลักคือข้าวเหนียวขาว หรือดำก็ได้ แล้วแต่จะเลือก จากนั้นนำข้าวเหนียวที่เป็นข้าวสารไปแช่น้ำสะอาด โดยระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดข้าวว่าเป็นข้าวใหม่หรือเก่า หากเป็นข้าวใหม่ก็จะแช่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หากเป็นข้าวเก่าก็ใช้เวลาแช่นานกว่า จากนั้นก็นำไปนึ่งให้สุก แล้วเทใส่กระด้ง หรือภาชนะทิ้งให้เย็น นำไปล้างด้วยน้ำเปล่าให้เมือกเหนียวออกจนหมด เทใส่ภาชนะแล้วนำลูกแป้งที่ตำ หรือบดละเอียดมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากนั้นห่อใส่ใบตองหรือกระปุกพลาสติก ทิ้งไว้ประมาณ 2 วันก็นำไปวางขายได้ โดยลักษณะของข้าวหมากเมล็ดจะยุ่ย นุ่ม เกาะกันเป็นก้อน และจะมีน้ำหวานซึมออกมาเล็กน้อย หากรับประทานจะมีรสหวาน มีกลิ่นคล้ายเหล้าอ่อนๆ แต่หากทิ้งไว้เกิน 3 วันก็จะมีกลิ่นฉุนแรงขึ้น เมื่อรับประทานก็จะรู้สึกมึนเล็กน้อย
นางจรรยา กล่าวอีกว่า ลูกแป้งที่ใช้สำหรับทำข้าวหมาก หรือสาโท เป็นลูกแป้งชนิดเดียวกันหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปก้อนละ 10 บาท มีลักษณะเป็นก้อนแป้งครึ่งวงกลมขนาดประมาณ 3-4 เซนติเมตร ใช้ นิยมใช้ทำข้าวหมากและสาโท ซึ่งจะแตกต่างกันแค่ปริมาณที่ใส่เท่านั้น หากทำข้าวหมาก ลูกแป้ง 1 ก้อนสามารถทำได้ถึง 8 กิโลกรัม แต่ตนเองทำขายเพียง 2 กก. ก็จะใช้ลูกแป้งเพียงเศษ 1 ส่วน 4 เท่านั้น ที่เหลือเก็บไว้ทำวันหลัง หากจะทำเป็นสาโทจะใช้ลูกแป้งปริมาณที่มากขึ้น แล้วแต่ว่าต้องการจะให้มีความแรงมากแค่ไหน และขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการหมักด้วย
“ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยนำข้าวหมากที่เหลือขายไม่หมดไปผสมน้ำเปล่า ทำเป็นน้ำข้าวหมากบรรจุขวดวางขายๆละ 20 บาทด้วย แต่หลังจากมีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมาเตือนว่าขายไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย หากขายจะถูกจับปรับจึงได้เลิกขาย ข้าวหมากที่เหลือก็ต้องทิ้งหรือวัวควายกิน ยอมรับว่าหลังมีกระแสข่าวการจับปรับผู้ที่ขายน้ำข้าวหมาก ทำให้ยอดขายข้าวหมากลดลงตามไปด้วย จึงอยากให้ภาครัฐเห็นใจชาวบ้านด้วย” นางจรรยา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี