nn...วันก่อน กระจอกข่าวสาวมีโอกาสได้เจอะกับ อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย คนหนวดงาม“ประภัสร์ จงสงวน” ที่มาฟังคำสั่งศาลปกครองกลาง คดีที่เจ้าตัวฟ้อง ร.ฟ.ท.กรณีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ให้ชดใช้เงินจากการเลิกจ้างโดยมิชอบ ซึ่งศาลปกครองกลางพิพากษาให้ร.ฟ.ท.ชดใช้เงินให้เจ้าตัว กรณีการเลิกจ้างเป็นผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ก่อนครบกำหนดในสัญญาจ้าง โดยผู้ฟ้องคดีไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า จึงให้ร.ฟ.ท.จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเท่ากับอัตราจ้างเดือนสุดท้ายหนึ่งเดือน และรับผิดชดใช้เงินค่าตอบแทนเท่ากับค่าจ้างเดือนสุดท้ายของผู้ฟ้องคดีคูณด้วยระยะเวลา 6 เดือน รวมเป็นเงิน 3,139,452.05 บาท รวมดอกเบี้ย…
...หลังฟังคำพิพากษาเสร็จ นักข่าวที่มาติดตามทำข่าวก็เข้าทักทายเฮียประภัสร์หลายเรื่อง ตามประสาคนคุ้นเคย หนึ่งในนั้น ก็ไม่พ้น “หนวดงามเฟิ้ม” อันเป็นเอกลักษณ์อยู่เหนือริมฝีปาก นักข่าวก็อดถามไม่ได้ว่า ปีนี้อายุเท่าไหร่ เฮียก็ตอบยิ้มๆว่า 64 แล้ว ยังไม่จบนักข่าวคนเดิมก็แวะถามถึงหนวดอีกว่า ไว้มานานหรือยัง ก็เลยทราบที่มาที่ไปว่าไว้ตั้งแต่เรียนธรรมศาสตร์ ปีหนึ่ง ไม่เคยโกนทิ้งเลยตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้มากกว่า 40 ปีแล้ว และก็ไว้อย่างนี้มาตลอด และจะไว้ไปตลอดด้วย...ยังไม่จบน้องนักข่าวก็ถามถึงเคล็ดลับดูแลหนวดงามว่า ทำไมถึงยังดกดำดี แม้จะอายุมากแล้ว?...เฮียประภัสร์บอกหน้าเปื้อนยิ้มตามสไตล์ว่า “อายุขนาดนี้หนวดมีขาวบ้าง ผมเลยต้องยอมย้อม และแถมผมไปด้วย...”
...อีกสิ่งที่นักข่าวสนใจกันมากไม่แพ้หนวดงามคือ “ใบหน้า” ของเฮียประภัสร์ ที่หลายคนมองว่าไม่น่ามีอะไรจะช่วยได้ แต่ทำไมของเฮียถึงยังดูสดใส ดูหนุ่ม แม้อายุจะล่วงเลยมาถึงหลัก 6 แล้ว “...ผมเข้าใจในเรื่องของโลก เราจะไม่กังวล อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เราต้องมองคำสั่ง คสช.ที่ให้ผมพ้นตำแหน่งว่า ถ้าเปรียบกับนาฬิกาแล้ว ตัวเรือนอาจจะมีปัญหาบ้าง แต่เราก็ต้องดูที่เจตนา เพราะไม่มีใครจะดีไปได้หมดทุกอย่าง ต้องมีบูดเบี้ยวบ้าง แต่ผมมีความเชื่อตามหนังจีนยังไงก็ตามทุกสิ่งล้วนฟ้าลิขิตแล้วก็ทำใจใสๆ เข้าไว้ไม่ติดใจ...”...ทำเอากระจอกข่าวถึงบางอ้อ เคล็ดลับอยู่ตรงมองโลกในแง่ดีนั่นเอง...ก่อนจากยังอดถามไถ่ถึงกิจกรรมยามว่างงานไม่ได้ เจ้าตัวรีบบอกเลยว่า “...ผมว่างงาน ไปเป็นชาวเกาะ เกาะเมียกินครับ ยืมเงินเค้ามาใช้ก่อน พอได้เงินชดเชยกลับมาก็ต้องเอาไปใช้คืนเค้า...”... งานนี้ ก็ต้องดูกันต่อไป ถ้ามีอุทธรณ์ขึ้นมา คงต้องเป็นชาวเกาะต่อไปอีกยาวรึป่าวม่ายรู้...nn
nn…เก็บตกวันก่อน รองนายกฯและรมว.ยุติธรรม “บิ๊กจิน – พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง” นำคณะผู้บริหารเยี่ยมชมโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม แห่งใหม่ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. เริ่มสร้างมาตั้งแต่ 22 มีนาคม 2558 วงเงิน 1,476.750 ล้านบาท เนื้อที่ 15.9 ไร่ ตัวอาคารสูง 11 ชั้น มีที่จอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น รูปแบบสถาปัตยกรรมในยุคนีโอคลาสสิก เพียบพร้อมศูนย์อบรมสัมมนา การจัดเลี้ยง-จัดประชุมและร้านค้า ซึ่งขณะนี้สร้างเสร็จไปแล้ว 94%... กระจอกข่าวที่ติดตามไปทำข่าวก็เดินตามคณะทั่นรมต.แวะเข้าห้องนั้น ออกห้องนี้ จนถึงชั้น 4 เห็นบิ๊กจินไปหยุดที่ริมหน้าต่าง มองลงไปที่หน้าถนนใหญ่อย่างสนใจ ทุกคนก็สงสัยว่ามีอะไรพิเศษตรงนั้น เลยชะโงกมองไปบ้าง แล้วรมว.ตาชั่งก็ถามขึ้นว่า “ป้ายกระทรวง สูงประมาณแค่ไหน...”...เจ้าหน้าที่ฝ่ายเกี่ยวข้องการก่อสร้างบอกว่า สูงประมาณ 4.30 เมตร…ได้ฟังคำตอบแล้ว“บิ๊กจิน” ซักไซ้ต่อทันทีด้วยความห่วงใยว่า “...ป้ายกระทรวงยุติธรรม สูงระดับสายตาของประชาชนที่นั่งรถเมล์มากระทรวงยุติธรรม จะเห็นป้ายอาคารได้ชัดเจนมั้ย อยู่ในระดับสายตา มองมาปกติสะดุดตาเห็นชัดหรือเปล่า…”...ได้ยินรัฐมนตรีห่วงใยชาวบ้านตาดำๆขนาดนี้ อุ่นใจได้โขเลยว่า พ่อแม่พี่น้องจะได้รับบริการ ความช่วยเหลือในการให้ความยุติธรรมเท่าเทียมกันทุกระดับแน่นอนทีเดียวเชียว...nn
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี