“ไปอินเดีย! ไปทำไม? ไม่กลัวหรือ?” คงเป็นคำถามที่หลายคนซึ่งคิดจะเดินทางไปเที่ยวหรือไปศึกษาต่อที่แดนภารตะต้องเคยเจอ ด้วยภาพที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลกผ่านสื่อต่างๆ ค่อนข้างจะทำให้คนจำนวนมากมองประเทศนี้ด้วยความรู้สึกกังวล ทั้งความแออัดของผู้คน สภาพที่อยู่อาศัยที่ดูจะไม่สะอาดนักส่วนความสะดวกสบายไม่ต้องพูดถึง อย่างไรก็ตาม “สำหรับบางคนแล้ว..เมื่อได้ออกไปสัมผัสประสบการณ์ต่างแดนก็ขอไปในที่ที่คนไม่ค่อยนิยมไปกัน” และอินเดียก็เป็นอีกประเทศที่มีความน่าสนใจ
พิมพ์พลอย พรมทอง นักศึกษาชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (PBIC) เป็น 1 ในนักศึกษาไทยที่มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อินเดียเป็นเวลา 6 เดือนช่วงเรียนอยู่ปี 3 โดยไปเรียนในสาขาวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน (Journalism and MassCommunication) ณ มหาวิทยาลัย Chandigarh รัฐปัญจาบ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย
“มหาวิทยาลัย Chandigarh เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับต้นๆ ของอินเดีย การเรียนในสาขาวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนที่อินเดียถือว่าเป็นสาขาวิชาที่มีชื่อเสียง อีกทั้งมหาวิทยาลัยก็มีความพร้อมด้านเครื่องมือในการเรียนการสอนวิชาต่างๆ ส่วนเรื่องการเทียบโอนหน่วยกิตนั้น นักศึกษาสามารถนำหน่วยกิตที่ศึกษาจาก Chandigarh มาเทียบโอนรายวิชาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรอินเดียศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ แต่นักศึกษาก็ต้องศึกษาเงื่อนไขวิชาและหลักสูตรต่างๆ ด้วย” เธอกล่าว
พิมพ์พลอย เล่าต่อไปว่า การใช้ชีวิตในอินเดียไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด โดยเฉพาะในเมือง Chandigarh พบว่าสภาพในเมืองค่อนข้างสะอาดมีความปลอดภัยที่แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงก็สามารถเดินทางคนเดียวได้ ระบบขนส่งสาธารณะที่นี่จะให้บริการจนถึงประมาณตีหนึ่ง อีกทั้งผู้คนค่อนข้างจะเป็นมิตร แม้ว่าแรกๆ อาจจะไม่กล้าพูดคุย แต่เมื่อรู้จักกันแล้วก็จะเข้ามาทักทายตลอด เมืองนี้จึงถือว่าน่าสนใจสำหรับคนที่อยากมาเรียนหนังสือพร้อมสัมผัสประสบการณ์ชีวิตแบบอินเดีย
แม้อินเดียจะมีภาพลักษณ์ที่ค่อนข้างน่ากลัว แต่ก็มี “เสน่ห์” ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอยู่ไม่น้อย โดยความโดดเด่นของอินเดียจะอยู่ที่ “สถานที่และวัฒนธรรม” พิมพ์พลอย เล่าว่า มีตั้งแต่ท่องเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสวัฒนธรรม ไปจนกระทั่งแหล่งช็อปปิ้ง เช่นที่เมือง Rishikesh รัฐ Uttarakhand ทางตอนเหนือของอินเดีย ที่นี่คือ “ต้นแม่น้ำคงคา” แน่นอนว่าแค่เอ่ยชื่อแม่น้ำคงคาอันเป็นแม่น้ำทางจิตวิญญาณของชาวอินเดีย หลายคนคงรู้สึกไม่ดีเนื่องด้วยชาวอินเดียทำกิจกรรมสารพัดอย่างในแม่น้ำสายนี้จนติดภาพแม่น้ำที่สกปรก แต่ที่เมืองนี้บรรยากาศแตกต่างออกไป
“แม่น้ำคงคาที่อยู่ในเมืองRishikesh เป็นส่วนของตอนต้นแม่น้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัย น้ำจึงใส และสะอาดมาก อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งโยคะ เพราะกิจกรรมการเล่นโยคะถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมในเมืองนี้ สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่พลาดไม่ได้คือ The Beatles Ashram โดยมีเรื่องเล่าว่า ศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง The Beatles เคยมาแสวงหาความสงบที่เมืองนี้จนมาเจอกับอาศรมที่หนึ่ง หลังจากนั้นผู้คนก็พากันมาตามรอยที่อาศรมแห่งนี้ และฝากงานศิลปะบนผนังทิ้งไว้เป็นสัญลักษณ์เท่ๆ อีกด้วย” พิมพ์พลอย ระบุ
เช่นเดียวกับในด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรม พิมพ์พลอย ยกตัวอย่างการได้ไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นแต่งงานแบบศาสนาซิกข์ หรือ Punjabi Wedding อันเป็นศาสนาที่คนในรัฐปัญจาบส่วนใหญ่นับถือ งานแต่งงานของซิกข์ก็แตกต่างจากงานแต่งงานแบบฮินดู ในแง่ของความอลังการ งานแต่งงานแบบซิกข์ในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ จะจัดงานถึง 3 วัน 3 คืน มีพิธีรีตองเยอะมาก และเน้นความสนุกสนาน
ถึงกระนั้นในอีกมุม “สังคมอินเดียยังมีการแต่งงานแบบคลุมถุงชนอยู่มาก” แม้ว่าในปัจจุบันชาวอินเดียจะมีเสรีภาพมากขึ้น แต่การแต่งงานถือเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตซึ่งต้องได้รับการยอมรับจากครอบครัวเสียก่อนจึงจะแต่งงานกันได้ อย่างไรก็ตาม พิมพ์พลอย ระบุว่า ในงานแต่งงานของเพื่อนที่ไปมานั้นเป็นการแต่งงานที่คู่บ่าวสาวตกลงปลงใจกันและครอบครัวทั้งสองฝ่ายยอมรับ บรรยากาศจึงออกมาอบอุ่นและสนุกสนานอย่างมาก ได้เห็นวัฒนธรรม โดยเฉพาะการแต่งกายของสาวๆ แดนภารตะที่มาเป็นแขกในงาน ถือว่าสวยงามตื่นตาเลยทีเดียว
ยังมีประสบการณ์ที่หากได้มาสัมผัสที่อินเดียแล้วเชื่อว่าต้องมีเรื่องกลับไปเล่าให้ใครต่อใครฟังได้อีกนาน เช่น “การเดินทาง” ที่ว่ากันว่าเหมาะกับนักท่องเที่ยวประเภท “สายลุย” ชอบการผจญภัย ที่อินเดียมีระบบขนส่งที่หลากหลายมากตั้งแต่รถไฟ รถเมล์ บริการรถ-รับส่งส่วนบุคคล (อูเบอร์) ไปจนรถรับจ้างแบบพื้นๆ ที่ผู้มาเยือนจะสามารถสัมผัสความเป็นท้องถิ่นได้แบบสุดๆ อย่าง “Rickshaw” หรือรถสามล้อที่อินเดียมีเหมือนกับประเทศไทย
“จากที่คิดว่าอินเดียเป็นประเทศที่น่ากลัว แต่พอมาใช้ชีวิตอยู่จริงๆ ทำให้รู้ว่าหากเราเข้าใจวัฒนธรรมของคนที่นี่ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเขาได้อย่างมีความสุข และอินเดียก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด จริงๆ แล้วการใช้ชีวิตที่อินเดียมีความคล้ายกับไทยมาก สิ่งหนึ่งที่มองว่าอินเดียดีกว่าไทยคือเรื่องการศึกษาที่เข้มข้น และเน้นปฏิบัติมากกว่า การมาแลกเปลี่ยนที่อินเดียจึงถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ที่ได้มาเรียนในประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการศึกษา และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในแหล่งอารยธรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก” พิมพ์พลอย กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี