ประเทศไทยเที่ยวมุมไหนก็ไม่มีเบื่อ เพราะมีสถานที่เที่ยวให้คุณไปเช็คอินมากมายจนเลือกไม่ถูก เที่ยวได้ทั้งปี เที่ยวดีทุกฤดู รอให้ทุกคนได้ออกไปสัมผัสเสน่ห์ที่แตกต่างกัน กลับมาพบกับแนวหน้าพาเที่ยวกันอีกครั้ง วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวแบบชิลๆ พักผ่อนเติมพลังกายพลังใจกันในทริป วันธรรมดาน่าเที่ยวหรรษาใกล้กรุง'กับ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ปราจีนบุรี นครนายก และสระแก้ว
ไม่รอช้าเริ่มกันที่จังหวัดแรก จังหวัดสระแก้ว
1. โรงเรียนกาสรกสิวิทย์
ที่ตั้ง 999 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว
โรงเรียนที่มีไม่ตึกอาคารและกระดานดำ มีแต่ผืนนาเป็นที่ทำการเรียนการสอน สำหรับสถานที่แห่งนี้เป็นโรงเรียนสอนเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เรียนรู้วิธีการไถนาโดยใช้กระบือแบบดั้งเดิม โดยมีปราชญ์ชาวบ้านที่จะคอยแนะนำให้ตั้งแต่วิธีทำความคุ้นเคยกับควายประจำตัว สามารถทำงานร่วมกับควายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลควายให้มีสุขภาพแข็งแรง และการไถนาด้วยเครื่องมือแบบต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้การดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยตลอดหลักสูตรที่กินระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือน
ซึ่งนอกจากจะเปิดสอนแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้ามาชมวิถีพอเพียงอีกด้วย ได้ลองย่ำโคลนไถนา ถ่ายรูปใกล้ชิดแบบเอกคลูซีฟกับควายเซเลปของที่นี่อีกด้วย ซึมซับบรรยากาศความเขียวชอุ่มของต้นข้าวและต้นไม้นานาพรรณ เชื่อว่าใครที่หลงไหลการใช้ชีวิตแบบบ้านๆ ใกล้ชิดธรรมชาติอยู่กับท้องนา เมื่อคุณได้มาเยือนที่นี่จะต้องถูกใจเป็นอย่างแน่นอน
จังหวัดปราจีนบุรี
2.The Verona at Tublan
ที่ตั้ง 251 ม.6 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน (The Verona at Tublan) แหล่งท่องเที่ยวที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองเวโรน่า แห่งแคว้นเวเนโต้ ประเทศอิตาลี ต้นกำเนิดนวนิยายโรมิโอ & จูเลียต ซึ่งภายในประกอบด้วยตึกอาคารสีสีนต์ฉูดฉาด สะพานจำลอง Castelvecchio ทะเลสาบ Garda หอคอย Lamberti หอนาฬิกา เหมาะแก่การถ่ายรูปทุกมุม ซึ่งถ้าในวันที่อากาศดีๆ อาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่อิตาลีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Advanture ตามฐานต่างๆ ให้คุณได้เลือกสนุกอย่างสุดเหวี่ยง อาทิ ปีนหน้าผา เอทีวี โรยตัว โหนสลิง ลูกบอลยักษ์ ขี่ม้า ปั่นจักรยาน ในส่วนของที่พัก ร้านอาหาร และแหล่งช็อปปิ้งก็มีไว้ให้บริการอีกด้วย
3.ล่องแก่งหินเพิง
ที่ตั้ง ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
กิจกรรมที่เหมาะสำหรับสายลุย ให้คุณได้ไปท้าทายความมันท่ามกลางสายน้ำเชี่ยวกราก บนระยะทางรวมกว่า 4.5 กิโลเมตร โดยในปีนี้ความสนุกในการล่องแก่งยิ่งสุดเหวี่ยงมากกว่าเดิม เนื่องจากในปีนี้น้ำเยอะกว่าทุกๆ ปี อันเนื่องมาจากฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ผู้เขียนไปเจอความมันอยู่ในระดับ 4 กับสายน้ำที่เชี่ยวกรากพอสมควร แต่ก็ยังสามารถลงเล่นได้อย่างปลอดภัย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝีพายผู้เชี่ยวชาญประจำหัวและท้ายแพ มีอุปกรณ์ป้องกันเสื้อชูชีพและหมวกกันน็อกให้กับทุกคน โดยแต่ละแพจะสามารถนั่งได้ 6-7 คน แล้วแต่น้ำหนักของสมาชิก
ผู้เล่นจะเจอกับความมันทั้งหมด 6 แก่ง เริ่มต้นจากแก่งหินเพิง แก่งวังบอน แก่งผักหนามล้อม แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร และปิดท้ายที่แก่งงูเห่า บางจุดสามารถลงไปเล่นน้ำ ปล่อยให้กระแสน้ำค่อยๆ พัดไหลไป ก่อนกลับขึ้นมาบนแพไปลุยกันต่อจนสุดปลายทาง งานนี้ทั้งเปียก ทั้งมัน ทั้งสดชื่น สาย Advanture ไม่ควรพลาด
4.พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร
ที่ตั้ง หมู่ 12 ต.ท่างาม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
หลังจากที่สนุกกันสุดเหวี่ยงไปกับการล่องแก่งแล้ว อาจมีเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกันบ้างจุดมุ่งหมายต่อไปจึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจชั่วขณะ เรามากันที่พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร แหล่งรวมความรู้ความเป็นมาของ ตำรายาไทย การแพทย์ไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี มีห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวรให้คุณได้เดินชมอย่างเพลิดเพลิน 1. ห้องแนะนำการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร 2. ห้องประวัติศาสตร์ 3. ห้องท้องพระโรง 4. ห้องการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร 5. ห้องปูมเมืองปราจีนบุรี 6. ห้องไม้กฤษณา 7. ห้องหมอหลวง(หมื่นชำนาญแพทย์) 8. ห้องเก็บตำรา 9. ห้องประวัติการพัฒนาสมุนไพรอภัยภูเบศร 10.ห้องประวัติโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ต่อด้วยกิจกรรมการทำยาดมจากสมุนไพรไทยหลากชนิด ให้ได้ลองมิกซ์แอนด์แมทช์กลิ่นที่ใช่ ได้เป็นสูตรของตัวเอง ให้ลองนำกลับไปใช้ที่บ้านกันคนละกระปุก ก่อนที่จะไปฟื้นฟูร่างกายที่เหนื่อยล้ากับการนวดไทย ที่จะทำให้คุณผ่อนคลายจะเคลิ้มหลับไปเลยทีเดียว
5.บ้านเล่าเรื่อง
ที่ตั้ง 51 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
บ้านไม้ที่มีความทันสมัย และการตกแต่งสวนรอบบ้านที่ร่มรื่นน่าอยู่ติดแม่น้ำบางปะกง เป็นแหล่งรวมเรื่องเล่า นิทรรศการ ประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาด้านสมุนไพรจากคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่ และยังเป็นจุดนัดพบให้คุณได้มาอิ่มอร่อยกับเมนูที่ทำมาจากสมุนไพรสุดแปลกใหม่ ทั้ง ราดหน้าเส้นอัญชัน เทมปุระเล็บครุฑ หูเสือบะช่อตำลึง ไข่เจียวสมุนไพร ขนมหวานสาคูเบญจรงค์ใส่น้ำกะทิอบควันเทียน เครื่องดื่มสีสวย อัญชันโซดา สามทหารเสือโซดา สามเกลอโซดา สามดอกไม้โซดา ที่ดื่มแล้วสดชื่นแล้วยังดีต่อสุขภาพ
สำหรับ ความเป็นมาของบ้านเล่าเรื่องเดิมทีเจ้าของบ้านคือ “ครอบครัวเปี่ยมสมบูรณ์” ได้มอบบ้านหลังนี้ให้ “มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ จนกลายมาเป็นแหล่งรวมเรื่องราวและความอร่อยจากสมุนไพรจนถึงทุกวันนี้
6.ทุ่งดอกหงอนนาค
ที่ตั้ง ศักดิ์สุภารีสอร์ท หมู่ 4 ต.สะพานหิน อ.นาดี ปราจีนบุรี
สถานที่สำหรับสายหวานก็มีให้คุณได้ไปเที่ยวชมเหมือนกัน กับทุ่งดอกหงอนนาค ที่ตั้งอยู่ภายในศักดิ์สุภารีสอร์ท ดอกไม้สีม่วงอ่อนสวยที่เริ่มบานสะพรั่ง ชูช่ออวดความงามตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้ ยาวไปจนถึงช่วงฤดูหนาว รอให้ทุกคนมาชื่นชมพร้อมถ่ายรูปบันทึกความงามนี้ไว้ หากใครที่กลัวว่าการลุยเข้าไปถ่ายรูปในทุ่ง จะเป็นการทำร้ายทำลายดอกไม้หรือเปล่า ขอให้หายห่วงได้เลยเนื่องจากทางรีสอร์ทได้วางแผ่นหินปูเป็นทางเดินไว้ให้แล้ว สามารถเข้าไปชื่นชมแบบใกล้ๆ ได้เลย และขอความร่วมมืออีกนิด โปรดชมความงามด้วยเพียงสายตา อย่าใช้มือจับต้องเพื่อให้พวกเขาได้บานอวดโฉมนักท่องเที่ยวได้นานจนกว่าจะเหี่ยวเฉาลงไปตามธรรมชาติ
จังหวัดนครนายก
7.เขื่อนขุนด่านปราการชล และน้ำตกชื่อดัง
ที่ตั้ง บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
มาถึงนครนายกจะไม่แวะชมธรรมชาติและความงดงามโดยรอบเขื่อนขุนด่านปราการชล ก็เห็นว่าจะมาไม่ถึง ผู้เขียนขอพาไปเที่ยวชมเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อใช้เก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนไว้ในหน้าแล้ง และควบคุมไม่ให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือน ไร่นา และพื้นที่การเกษตรในหน้าฝน
โดยเราเริ่มกันที่นั่งรถลางฟังวิทยากรบรรยายประวัติความเป็นมาของเขื่อน ชมบรรยากาศทิวเขาที่ตัดสลับไปมา และวิวเหนือสันเขื่อนที่สามารถมองเห็นตัวเมืองนครนายกได้ ก่อนที่จะล่องเรือไปชมธรรมชาติสุดตระการตาของน้ำตกขึ้นชื่อ โดยระหว่างทางริมสองฝั่งก่อนถึงน้ำตก จะพบกับธรรมชาติเบื้องหน้าเขียวสวยและชวนให้รู้สึกสงบ สูดอากาศบริสุทธ์ให้ชื่นปอด ผ่อนคลายจิตใจก่อนที่จะไปดื่มด่ำกับความงามของน้ำตกกัน
ล่องเรือมาถึงน้ำตกแห่งแรกที่เราไปกันก็คือ น้ำตกผางามงอน ไปถึงเราก็พบกับน้ำตกชั้นแรก แต่นั่นยังไม่ใช้จุดไฮไลท์ ยังต้องใช้แรงปีนโขดหินขึ้นไปอีกประมาณ 10 เมตร ก็จะพบกับความงามของน้ำตกที่ไหลลงมาตามหน้าผาสูงกว่า 40 เมตร ให้ความรู้สึกเหมือน้ำตกที่อยู่ในป่าลึกดิบชื้น สวยยิ่งใหญ่เสียงน้ำตกกระทบโขดหินและผืนน้ำเบื้องล่างเสียงกังวานไปทั่งบริเวณ
ล่องเรือไปต่อกันที่น้ำตกจุดที่สอง ไม่ไกลจากแห่งแรกเราก็จะพบกับ น้ำตกคลองคราม น้ำตกแห่งนี้เมื่อเทียบเรือริมฝั่ง เราสามารถเดินไปยังน้ำตกได้โดยง่าย ไม่ต้องปีนขึ้นตามโขดหินสูงอย่างเช่นน้ำตกผางามงอน บรรยากาศโดยรอบแตกต่างกัน ที่นี่ให้ความรู้สึกเปิดโล่งท้าแดดรับลมจากเทือกเขาได้มากกว่า มีผีเสื้อหลากสีบินวนอยู่โดยรอบ ตัวน้ำตกไหลผ่านโขดหินสีครามสวยสมชื่อ และยังมีพื้นที่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ให้คนที่อยากเพิ่มความสดชื่นได้ลงเล่นอีกด้วย
8.สะพานทุ่งนามุ้ย
ที่ตั้ง 88 ม.11 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก 26000
สะพานไม้ที่ทอดตัวยาวไปในทุ่งนาเขียวขจีแห่งนี้คือ สะพานทุ่งนามุ้ย สถานที่เที่ยวสไตล์บ้านทุ่ง ที่ครั้งหนึ่งผู้สร้างตั้งว่าใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำนา ก่อนที่จะได้รับความนิยมจนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ของ จ.นครนายก ด้วยบรรยากาศที่สดชื่นผสมรวมกับสะพานที่ทอดตัวสวยในทุ่งข้าว จึงชวนให้เราเดินทอดน่องไปตามสะพานถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน ยิ่งมาเที่ยววันธรรมดายิ่งเพิ่มความฟิน เพราะคนน้อยสามารถเดินถ่ายรูปได้อย่างไม่รีบเร่ง ได้เฟรมที่สวยถูกใจกลับไปชื่นชม หากรู้สึกหิวก็มีร้านอาหารเป็นร้านจากคนในชุมชนมาให้ได้เลือกอร่อย โดยที่ทุ่งนามุ้ยมีความต้องการอยากช่วยรักษ์ธรรมชาติ จึงขอความร่วมให้ลดใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติให้มากที่สุด
9.เขาหล่น
ที่ตั้ง ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก
อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต ไม่ว่าจะหันไปมุมไหนก็ถ่ายรูปสวยทุกมุม การันตีได้จากละครและมิวสิกวิดีโอได้เดินทางมาถ่ายทำที่นี่กันหลายเรื่อง ด้วยทัศนียภาพหินผาตัดสลับกับทุ่งหญ้าให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศ มีสะพานศึกษาธรรมชาติความยาว 150 เมตร ให้เดินไปยังจุดชมวิวได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้แรงกันอีกนิดเพื่อปีนขึ้นไปชมทัศนียภาพบนยอดเขา ซึ่งรับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนกับวิวพาโนรามาสามารถมองเห็นวิวธรรมชาติเบื้องล่าง ทั้งเขื่อนขุนด่านปราการชล ผืนนาสีเหลืองเขียว และทิวเขาทอดตัวยาวเบื้องหลังสวยสะกดสายตา
10. Montreux cafe and farm (มองเทรอส์ คาเฟ่ & ฟาร์ม)
ที่ตั้ง 77 ม.4 ต.บึงศาล อ.องครักษ์ จ.นครนายก
เปิดทำการ วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00–19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
แวะเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตกันไปแล้ว มาพักกายเติมความหวานให้ร่างกายกันที่ มองเทรอส์คาเฟ่ ร้านกาแฟสุดชิคที่ตกแต่งให้ได้บรรยากาศคล้ายประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเจ้าของตั้งใจสร้างให้มีบรรยากาศแบบบ้าน ให้คนที่มาเที่ยวแล้วรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านต่างจังหวัด ซึ่งตัวคาเฟ่จะแบ่งออกเป็นสามโซน โซนแรกเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ที่มีโครงสร้างคล้ายโรงนาเมืองนอกไว้ให้บริการอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ด้านนอกมีโซนให้สามารถนั่งจิบกาแฟดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติ เมื่อเดินลึกเข้าไปด้านในจะพบกับอีกโซนซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ นั่นก็คือ โซนฟาร์ม รายล้อมด้วยทุ่งนามีสะพานทอดตัวไปยังเพิงพักไม้ หันไปอีกด้านก็จะพบกับบ่อปลา เล้าเป็ดไก่ สวนผัก นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ได้ทำร่วมกันฟรี อาทิ ทำไข่เค็ม พายเรือ วาดรูป ระบายสีปูนปั้น สไลด์เดอร์โคลน สอนประดิษฐ์สิ่งต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ปลูกผักกลับบ้านโดยใช้แก้วจากเครื่องดื่มที่คุณซื้อนับเป็นการช่วยลดขยะและยังได้ผักกลับบ้านด้วย
ด้วยบรรยากาศสบายๆ ให้กลิ่นอายบ้านทุ่งแบบนี้เอง จึงทำให้รู้สึกเหมือนเวลาเดินช้าลง ได้ผ่อนคลายร่างกายและสมองไปชั่วขณะ สำหรับใครที่มองหาสถานที่ชิลๆ และใกล้กรุงที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำ
ทั้งหมดนี้เป็น 10 สถานที่ใกล้กรุงที่เราขอแนะนำ ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมท่องเที่ยวลองเลือกสถานที่เหล่านี้ไปพิจารณากันดู รับรองคุ้มค่าไม่ผิดหวัง และยิ่งเที่ยววันธรรมดา ยิ่งทำให้คุณสามารถดื่มด่ำบรรยากาศของแต่ละสถานที่ได้อย่างเต็มที่ ทั้งหลีกหนีความวุ่นวายจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ถ่ายรูปมุมไหนก็ได้โลเคชั่นสวยๆ ขับรถสะดวก จอดรถสบาย อาหารการกินหาง่าย ได้สนุกกับทุกกิจกรรมอย่างเต็มที่ เมื่อทุกอย่างเป็นดังใจยิ่งทำให้คุณมีความสุขกับทริปนั้นๆ มากยิ่งขึ้น
สำหรับการเดินทางอันสุดเหวี่ยงครั้งนี้ขอขอบคุณรายการหลงรักยิ้มและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่สนับสนุนให้เกิดทริปหรรษานี้ขึ้นมา ครั้งหน้าแนวหน้าพาเที่ยวจะพาคุณไปพักผ่อนหย่อนใจที่ใด อย่าลืมติดตามกัน.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี