ฮือฮา! “ปู่ฤาษี” โผล่จากดินจอมปลวก และยังพบตำราโบราณ ที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินที่เคยเป็นที่ฝังศพเด็กทารกของหมอตำแยโบราณ เชื่ออายุหลาย 100 ปี ชาวบ้านแห่ขอโชคลาภ
13 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ราชบุรี ว่า ชาวบ้านในตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี นำธูปเทียน ดอกไม้ และผลไม้ มากราบไหว้บูชา “องค์เทพปู่ฤาษี” ที่เชื่อว่าผุดขึ้นมาจากดินจอมปลวกขนาดใหญ่บริเวณหลังศาลาปฏิบัติธรรมสำนักสงฆ์พรหมรังศรี เลขที่ 149 หมู่ 2 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคล และหวังขอโชคลาภ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน หลังชาวบ้านเชื่อในเรื่องปาฏิหาริย์ต่อปู่ฤษีที่โผล่ขึ้นมาจากดินจอมปลวกขนาดใหญ่ที่พังทลายไปเมื่อหลายปีก่อน จนสามารถเห็นองค์ปู่ฤาษีได้อย่างชัดเจน และยังมีสภาพที่สมบูรณ์ แม้บางส่วนจะผุกร่อนเสียหายไปตามกาลเวลา
นอกจากนี้ยังพบตำราโบราณที่มีการจารึกอักษรเป็นภาษาล้านนาหรือทางแถบพม่า ในสภาพที่มีความสมบูรณ์แค่บางส่วน จึงมีความเชื่อว่า องค์ปู่ฤษีและตำราโบราณนี้จะมีอายุมากกว่าหลายร้อยปี
สำหรับ “ปู่ฤาษี” รูปดังกล่าวมีขนาดหน้าตักประมาณ 5-6 นิ้ว ในลักษณะนั่งหลังค่อม มีลูกประคำห้อยคอ ท่านั่งขัดสมาธิหนวดยาวถึงหน้าตัก ตัวองค์เป็นสีดิน คล้ายสร้างขึ้นจากผงว่านผสมดิน และยังคงมีคราบของดินจอมปลวกเกาะติดทั้งองค์ ซึ่งไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าสร้างขึ้นมาจากวัสดุอะไรบดผสมกัน โดยบริเวณหน้าตักถูกฝังลึกลงไปในพื้นดินบนจอมปลวก ไม่เหมือนเป็นการนำมาวางตั้งหรือขุดเพื่อฝังแต่อย่างใด และอีกทั้งมีใครทราบอายุของพระพุทธรูปดังกล่าวที่แน่ชัด ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็น “ปู่ฤาษี” ศักดิ์สิทธิ์ ที่โผล่ออกมาจากดินเพื่อเป็นสิริมงคลและให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชา
นางณิชชันน์ ศรีอิ่นแก้ว อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดลำปาง เป็นผู้พบเห็น เล่าให้ฟังว่า ตนมาปฏิบัติธรรมถือศีลที่นี่ เป็นเวลา 1 ปีเศษ และได้เดินผ่านไปยังจุดที่พบกับฤาษีจอมปลวกที่ขึ้นมาจากดิน ตนจึงเกิดความสงสัยจึงได้สอบถามทาง ครูบาบุญยง หรือหลวงพ่อบุญยง อภิลาโส เจ้าสำนักสงฆ์พรหมรังศรี ทราบว่า ก่อนที่จะมีการตั้งสำนักสงฆ์ ที่นี่เคยเป็นป่ารกร้างของหมู่บ้าน เนื่องจากอยู่แถบเนินเขาระหว่างเขื่อนไม้เต็งกับบ้านน้ำพุ และที่นี่เคยเป็นป่าช้าสำหรับฝังศพ หรือกระทำการเผาศพผู้เสียชีวิต
ส่วนที่บริเวณพบองค์ปู่ฤาษีนี้ เป็นสถานที่ฝังศพทารกที่เสียชีวิตจากการคลอดบุตรของหมอตำแย และเด็กที่เสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ต่อมาไม่มีการนำมาฝังต่ออีกเนื่องจากหมอตำแยล้มหายตายจากไปหมด อีกทั้งการคลอดบุตรต้องไปคลอดยังโรงพยาบาล ทำให้สถานที่ดังกล่าวกลายเป็นป่าช้ารกร้าง จนมีจอมปลวกขึ้นเป็นเนินสูงกว่า 5 เมตร คาดว่าบริเวณหน้าทางขึ้นด้านหน้าของที่ฝังศพเด็กทารกนี้ มีการนำรูปปั้นองค์ปู่ฤาษีมาตั้งไว้ เพื่อเป็นการสะกดจิตวิญญาณต่างๆ และหมอตำแยหรือผู้ที่เล่นคาถาได้นำมาวางไว้ที่ปู่ฤาษีด้วย เมื่อเวลาผ่านไปจอมปลวกจึงได้ขึ้นปรกคลุมจนมอดกลืนรูปปั้นปู่ฤาษีและตำราโบราณหายไปด้วย
นางณิชชันน์ เล่าให้ฟังอีกว่า หลังจากที่ครูบาบุญยง มาจำพรรษาที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวด้วยการปักกลดค้างแรม และได้นิมิตว่ามีชายชรานุ่งชุดขาว หนวดเครายาวสีขาว และผมหงอกขาว ผิวกายสีขาว มาบอกว่าต่อไป คูบาจะต้องจำพรรษาที่นี่ และจะมีคนเดินทางมาความศรัทธา ครูบาบุญยืนจึงกล่าวไปว่าถ้าเป็นอย่างที่กล่าวจริงขอให้ครอบครองพื้นที่ดินดังกล่าวเพื่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ในการปฏิบัติธรรมของสาธุชน ภายจากนั้นได้มีชาวบ้านเดินทางมากราบสักการะครูบาบุญยืน และถวายปัจจัยเพื่อนำไปใช้ในการสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ครูบาบุญยืนจึงนำปัจจัยดังกล่าวไปซื้อที่ดินดังกล่าวและสร้างสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน
หลังจากที่จะต้องดำเนินการสร้างกุฏิที่พักสงฆ์ จึงต้องมีการพังทลายจอมปลวกที่มีความสูงใหญ่ลงทั้งหมด และเทปูนทับและหลังจากที่สร้างได้ไม่นานต้องทำการทุบออกหลังจากมีเหตุที่ทำต้องให้มีการทุบพื้นปูนออก และขยับกุฏิออกมาบริเวณด้านข้าง จนมาเข้าสู่ช่วงฤดูฝนเกิดลมพายุฝนตกหนัก น้ำได้ชะล้างดินจอมปลวกในช่วงค่ำ ซึ่งก็ไม่มีใครเข้ามาสังเกตใดๆ
จนหลายวันต่อมาสังเกตเห็นมีองค์ปู่ฤาษีผุดขึ้นมาจากดิน และที่องค์ยังมีคราบของดินจอมปลวกทั้งองค์ ก่อนจะสร้างความฮือฮาให้กับบรรดาชาวบ้านที่เดินทางมาทำบุญและถือศีลที่สำนักสงฆ์ โดยส่วนใหญ่จะมากราบไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลและมาบนบานศาลกล่าวจนมีผู้ประสบความสำเร็จและมาสร้างศาลากันฝนถวายรวมไปถึงมีคนมาแก้บนกันอย่างต่อเนื่อง
ส่วนทางด้านคุณเฟิร์ส ผู้ที่มาบำเพ็ญการถือศีล เล่าว่า หลังจากที่ตนเข้ามาทำบุญกับทางครอบครัว ตนก็ได้เดินทางเข้ามาเพื่อมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในสำนักสงฆ์และเหลือบไปเห็นองค์ปู่ฤาษี จึงเอะใจว่าใครนำมาวางไว้ พอเข้าไปดูใกล้ปรากฏว่าไม่ใช่เป็นการเอามาวางตั้ง แต่ปู่ฤาษีโผล่จากพื้นดิน โดยที่ฐานยังจมอยู่ในดิน จึงไปนำไปบอกชาวบ้านและข่าวก็แพร่ออกไปจึงทำให้ชาวบ้านหมู่บ้านใกล้เคียงโดยชาวบ้านทราบข่าวแห่มาดูพร้อมนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้กันจำนวนมากอย่างไม่ขาดสาย เพื่อขอโชคลาภ
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินดูบริเวณรอบสำนักสงฆ์ พบมีกอจอมปลวกขึ้นอยู่กระจัดกระจายโดยรอบบริเวณ อีกทั้งยังมีการปั้นรูปหล่อของฤษีจำนวน 108 ตน ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่โดยรอบเพื่อให้ประชาชนได้เดินทางเข้ามากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
ด้าน ครูบาบุญยง เจ้าสำนักสงฆ์พรหมรังศรี กล่าวว่า อาตมาอยากให้ใช้วิจารณญาณในการเข้ามาชื่นชมบารมีขององค์ปู่ฤาษีจอมปลวกได้ ซึ่งทางสำนักสงฆ์ไม่มีข้อห้ามใด เมื่อเกิดขึ้นภายในสำนักสงฆ์แล้ว ก็ต้องดูแลรักษาเพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่กับพื้นที่ดินดังกล่าวมาเนิ่นนานแล้ว ที่ผ่านมาก็มีญาติโยมเข้ามากราบไหว้บูชากัน ตนเองก็จะบอกกับญาติโยมว่ากราบไหว้ได้ขอได้แต่ต้องยึดมั่นในคุณงามความดี รักษาศีลให้ครบแล้วจะมีโชคลาภอย่างแน่นอน
สำหรับเส้นทาง เริ่มเดินทางจากกรุงเทพมหานคร เดินทางได้ทั้งถนนพระราม 2 และเพชรเกษม เดินทางสู่จังหวัดราชบุรี ที่อำเภอเมืองเริ่มต้นที่แยกเขามอ ตำบลเจดีย์หัก เข้าสู่ถนนราชบุรี – น้ำพุ เขื่อนไม้เต็ง ผ่านแยกวัดน้ำพุ เจอแยกอ่างเก็บน้ำเขื่อนไม้เต็งราชบุรี จากนั้นให้ใช้ช่องทางขวาวิ่งตรงเล็กน้อยประมาณ 200 เมตร จะเจอปากทางเข้าสำนักสงฆ์พรหมรังศรี เข้าซอยทางด้านขวามือ วิ่งอีกเล็กน้อยก็จะถึงยังสำนักสงฆ์พรหมรังศรี หรือจะโทรสอบถามได้ที่ 090-472-4424
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี