ฮือฮา! ‘ดงพะยูง’กลางวัดเมืองคอน แฉนายทุนขอซื้อ หวิดถูกตัดขายหาทุนสร้างโบสถ์
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่า ที่วัดเกาะเทวดา หมู่ 6 ต.ไสหร้า อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช บรรยากาศร่มรื่นเต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ทั้งต้นเล็ก ต้นใหญ่ขึ้นปกคลุมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านทิศเหนือประมาณ 6 ไร่ มีทางเดินเล็กๆอยู่ตรงกลาง ขณะที่ 2 ข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ขนาด 1-2 คนโอบ สูง 20-30 เมตร ขึ้นเรียงรายเต็มพื้นที่ มีทั้งต้นตะเคียนทอง ตะเคียนทราย และต้นพะยูง ต้นไม้มหามงคลที่มีมูลค่าสูงเป็นพิเศษ ซึ่งพบว่ามีต้นพะยูงขึ้นเป็นจำนวนมาก
นายนุกุล ศิลปะรัศมี อายุ 70 ปี อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนสวนยาง ปัจจุบันเป็นคณะกรรมการวัดเกาะเทวดา เปิดเผยว่า ดงต้นไม้ใหญ่ที่เห็นทางด้านทิศเหนือของวัดในพื้นที่ 6 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนทางด้านขวามือเป็นต้นพะยูง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางผู้จัดการสำนักงานการไฟฟ้า อ.ฉวาง นำชาวบ้านปลูกเอาไว้เมื่อปี 2528 ส่วนต้นตะเคียนทอง ตะเคียนทราย ไม้มีมูลค่าสูงเช่นกัน คาดว่าต้นไม้ทั้ง 2-3 ชนิด มีการปลูกทั่วพื้นที่บริเวณวัดไม่ต่ำกว่า 100 ต้น แต่ละต้นอายุไม่ต่ำกว่า 28-30 ปี ประกอบด้วยไม้ตะเคียนทอง ตะเคียนทราย 62 ต้น และต้นพะยูง 58 ต้น และบริเวณหน้าโบสถ์ที่กำลังสร้างใหม่ยังมีอีก 4-5 ต้น อย่างไรก็ตามพบว่ายืนต้นตายแล้ว 1 ต้น
นายนุกุล กล่าวอีกว่า วัดเกาะเทวดาเป็นวัดเล็กๆในชนบท งบประมาณไม่มากนัก ก่อนหน้านี้ทางวัดต้องการสร้างโบสถ์หลังใหม่มูลค่าประมาณ 8 ล้าน จึงคิดหางบประมาณ โดยขายต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณวัด หลังจากนั้นมีนายทุนเดินทางเข้ามาติดต่อยื่นข้อเสนอซื้อไม้พะยูง 58 ต้น มูลค่า 12 ล้านบาท ทางคณะสงฆ์อำเภอฉวาง จึงเรียกประชุมคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามติ ในที่ประชุมนายทุน เสนอจ่ายค่ามัดจำก่อน 3-4 ล้านบาท แล้วนำไม้พะยูงไปขาย ส่วนที่เหลือมาจ่ายให้กับทางวัด
“แต่ผมชี้แจงในที่ประชุมว่าคณะกรรมการวัดและชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ขายไม้พะยูงในวัด แต่หากจำเป็นต้องหางบประมาณมาก่อสร้างโบสถ์ 8 ล้านบาทก็ไม่ขัดข้อง แต่นายทุนผู้ซื้อจะต้องนำเงินมาจ่ายให้กับทางวัดในคราวเดียวกัน 12 ล้าน เพราะไม่มั่นใจ หากจ่ายมัดจำ 3-4 ล้านบาท เมื่อมีการตัดและนำไปขายหมดแล้ว ทางนายทุนอาจเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินส่วนที่เหลือ 8 - 9 ล้านบาท ทางวัดคงไม่มีปัญหาติดตามทวงหนี้ค่าไม้แน่” นายนุกุล กล่าว
กรรมการวัดคนเดิมกล่าวอีกว่า หากนายทุนตกลงจ่ายครบ 12 ล้านบาท ตนและชาวบ้านจะไม่ขัดข้อง ส่วนเรื่องทางระเบียบกฎหมายการขออนุญาตตัดโค่นและเคลื่อนย้าย ทางวัดจะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือมีส่วนรับผิดชอบแต่อย่างใด หลังจากนั้นนายทุนก็หายไป และไม่กลับมาติดต่ออีกเลย อย่างไรก็ตามทางวัดและคณะกรรมการวัด และชาวบ้านร่วมกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรวบรวมเงินก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่มูลค่า 8 ล้านบาท ขณะนี้การก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ และคงยกเลิกความคิดที่จะขายไม้พะยูง
ขณะที่นักท่องเที่ยวจากต่างพื้นที่เข้ามาทำบุญที่วัดเกาะเทวดา กล่าวว่า การที่วัดๆหนึ่งมีไม้พะยูงขึ้นอยู่มากถึง 58 ต้น ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะที่ผ่านมาในหลายวัดมีแค่ไม่กี่ต้น และมีการลักลอบตัดโค่นจนถูกจับกุมดำเนินคดีมาหลายแห่งแล้ว แต่วัดเกาะเทวดา มีถึง 58 ต้น ตนเชื่อว่าเป็นวัดหรือแหล่งที่มีต้นพะยูงมากที่สุดในประเทศไทย ส่วนมูลค่าทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนที่ต้องการไม้พยุง โดยไม้พยุงจำนวน 58 ต้น ของวัด หากนำไปขายให้กับประเทศจีนจะมีมูลค่าสูงนับ 100 ล้ายบาท
นอกจากนี้ตนมองว่าวัดหรือหน่วยราชการจังหวัด อำเภอ ควรจัดโครงการอนุรักษ์ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่วัดเกาะเทวดา เป็นวัดที่มีไม้พะยูงมากที่สุดในประเทศ เชิญชวนเด็ก เยาวชน ประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมและศึกษาดงพะยูงในวัดเกาะเทวดา เชื่อว่าจะมีผู้คนสนใจเดินทางมาเที่ยวชมสร้างรายได้ให้กับวัดเกาะเทวดาไม่น้อยอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี