nn…กระแสการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้นของคนยุคนี้สมัยนี้ โดยเฉพาะอาหารการกิน ที่เน้นกินคลีน กินผัก ประกอบการออกกำลังกายควบคู่ ให้ร่างกายแข็งแรงไว้ก่อน ด้วยค่ารักษาพยาบาลที่สุดแสนแพง เลยทำให้คนยุคใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น หลายครอบครัวลงมือปลูกผักกินเอง จะใช้ดิน หรือไม่ใช่ดินไฮโดรโพรนิกส์ ก็ตามสะดวก... วันก่อน อดีต สส.สตูล พรรคประชาธิปัตย์ “นพ.อสิ มะหะมัดยังกี” แวะเวียนไปเยี่ยมชมการปลูกผักที่บ้านปันจอร์ อ.ควนโดน เกิดความประทับใจเพราะชาวบ้านเขาปลูกแบบธรรมชาติ ไร้สารพิษ มีแมลงมีหนอนก็ใช้มือหยิบออกไป ลงทุนไม่กี่พันบาทก็ได้กินผักปลอดภัย 100% แบบไม่ต้องสงสัย ก่อนจะเกิดไอเดียว่า “...ผมคิดว่าน่าจะมีการสนับสนุนให้ปลูกกันมากๆครับ คนไทยจะได้ไม่เป็นมะเร็งกันเยอะแบบปัจจุบันนี้...”...ก่อนจากเจ้าตัวเห็นว่าเจ้าของบ้านที่ปลูกผักจะกินไม่ทัน เพราะงอกงามดีเหลือเกิน ก็เลยขอติดไม้ติดมือมากินบ้าง...คุณหมออสิบอกด้วยว่า “...ใครสนใจจะปลูกผักสวนครัวติดต่อสอบถามไปได้ เขาไม่หวงวิชา จะพาไปดูถึงแปลงเลยครับ…”…nn
nn…ประเมินกันไว้ว่า อีกไม่กี่ปีประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่สังคม “ผู้สูงอายุ” ทำให้หลายฝ่ายออกมากระตุ้นเตือนให้เตรียมพร้อมรับมือ ซึ่งก็มีหลายหน่วยงานตื่นตัวลงมือดำเนินการเรื่องนี้ไปบ้าง อาทิ จัดกิจกรรม หรือสถานที่ดูแลคนสูงวัย เพื่อลดปัญหาในชุมชน...วันก่อนอดีตผู้แทนพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ “นริศ ขำนุรักษ์” เขียนเล่าถึงเรื่องนี้ผ่านเพจไว้น่าสนใจ สะท้อนถึงความพร้อมรับมือกับการให้ความสำคัญกับปัญหาในพื้นที่ว่า ปัจจุบันในจ.พัทลุง มีโรงเรียนผู้สูงอายุเกิดขึ้นเยอะ ทั้งที่จัดขึ้นโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บ้างก็เกิดขึ้นจากชมรมผู้สูงอายุ ที่กระจายอยู่ตามชุมชน หรือโรงพยาบาลตำบล (รพ.สต.) ที่มีอสม.เป็นแกนหลัก ซึ่งมีผู้สนใจเข้าเรียนจำนวนมากอยู่ แล้วแต่ขนาดของชุมชน...การแต่งกายก็แตกต่างกันไปบ้าง แล้วแต่ผู้จัดหรือข้อตกลงร่วมกัน แต่ประเด็นสำคัญกว่าอื่นใดคือ “...การจัดขึ้นทุกที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะทำให้ผู้สูงอายุได้มีพบปะพูดคุยสารทุกข์สุกดิบ ทำกิจกรรมร่วมกัน แค่นี้เป็นความสุขแล้ว ที่สำคัญได้รับรู้รับทราบสาระ ข้อมูลข่าวสารจากวิทยากรที่มาบอกเล่าให้ฟัง ผมพยายามไปให้กำลังใจทั้งผู้จัดและผู้เข้าเรียน พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์กับทุกคนที่โรงเรียนผู้สูงอายุอยู่เสมอ เพราะตระหนักว่าผู้สูงวัยทั้งหลายคือ ส่วนสำคัญของสังคม…”...รู้แบบนี้แล้ว ขอเชียร์นายกฯลุงตู่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อีกแรงว่า ดันเป็นวาระแห่งชาติเลยขอรับ เพราะสุดท้ายแล้วเราๆท่านๆก็ต้องเดินไปถึงจุดนั้นทุกคน...nn
nn...ท้ายสุดสุดท้าย มีข่าวดีจากมูลนิธิพัฒนาฝีมือแรงงานมาแจ้งถึง “แรงงานชาย” ที่ต้องการจะได้รับโอกาสฝึกงานด้านเทคนิคในสถานประกอบกิจการของญี่ปุ่น โดยประธานมูลนิธิ “สุทัศนี
สืบวงศ์แพทย์” มาบอกว่า มูลนิธิฯร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดอบรม “หลักสูตรเตรียมความพร้อมด้านภาษาญี่ปุ่น ด้านช่าง และด้านคณิตศาสตร์ เพื่อการฝึกงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น” เพื่อทบทวนความรู้ ทักษะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี กฎหมายต่างๆ...ซึ่งโครงการนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง “กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน” กับ “องค์กรพัฒนาแรงงานระดับนานาชาติ” ของญี่ปุ่น โดยมีวิทยากรเป็น อดีตนักเรียนทุนประเทศญี่ปุ่นของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาร่วมถ่ายทอดความรู้การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นให้ประสบความสำเร็จ ระยะเวลาฝึกอบรม 5 วัน รวม 30 ชั่วโมง...เริ่มตั้งแต่ 24-28 กันยายน เวลา 08.30-16.30 น. ที่ห้องอบรมภาษา วิทยาลัยแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ... แรงงานชายที่ได้รับการคัดเลือกเข้าอบรมจะได้รับโอกาสฝึกงานด้านเทคนิคในสถานประกอบกิจการของประเทศญี่ปุ่น เป็นระยะเวลา 3 ปีด้วย
...ประธานมูลนิธิยังกระซิบมาอีกว่า เมื่อแรงงานอบรมโครงการนี้แล้ว สามารถนำความรู้ไปใช้ในการทดสอบหรือฝึกงานที่ญี่ปุ่น โดยเปิดโอกาสให้ผู้ผ่านการอบรม 3 เดือนแรก แล้วรอเข้ารับการอบรมช่วง 1 เดือนสุดท้าย ก่อนเดินทางไปฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิคในญี่ปุ่น...แรงงานคนไหนสนใจรีบยื่นหลักฐานสมัครไปได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่วิทยาลัยแรงงาน ชั้น 1 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือสมัครผ่านทาง Email: sdfdsd2018@gmail.com หรือ สมัครทาง LineID : sdf61 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 09-5565-9347…นะขอรับ...nn
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี