22 กันยายนของทุกปีเป็น "วันอนุรักษ์แรดโลก" เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์แรด เนื่องจากที่ผ่านมาแรดถูกล่าเพื่อต้องการนอ ด้วยความเชื่อที่ผิดๆ จากมนุษย์จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชากรแรดลดลงจนใกล้สูญพันธุ์
แรด จัดเป็นสัตว์ป่าสงวนชนิดหนึ่งใน 15 ชนิดของประเทศไทยและจัดอยู่ใน Appendix 1 ของอนุสัญญา CITES ทั้งยังเป็นสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ตาม U.S.Endanger Species
แรด มีรูปร่างโดยทั่วไปคือ ตาเล็ก ปากงุ้มเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยม มีหนังที่หนามาก ในบางชนิดอาจเห็นเป็นชั้นคล้ายเกราะ และมีลักษณะเด่นที่สุด คือ เขาบริเวณสันจมูกที่งอกแหลมยื่นยาวอกมา เรียกกันว่า "นอ" ซึ่งใช้เป็นอาวุธในการพุ่งชนป้องกันตัว ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว นอของแรดนับว่าเป็นเขา อย่างหนึ่ง แต่เป็นเขาที่ไม่มีกระดูกเป็นแกนกลาง นอแรดทำมาจากเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของขน ผม และเล็บ โดยนอแรดไม่ได้เกิดจากขนที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นตามที่เข้าใจผิดกัน นอแรดอาจยาวได้ถึง 1.5 เมตร แรดโดยทั่วไปจะมีนอ 2 นอ แต่บางชนิดจะมีเพียงนอเดียว
แรด เป็นสัตว์ที่ไม่มีต่อมเหงื่อ ดังนั้น จึงชอบนอนแช่โคลนหรือแช่ปลักเหมือนหมูหรือสัตว์ชนิดอื่น ๆ เพื่อดับความร้อนและไล่แมลงที่มารบกวน หากินในเวลากลางคืน กลางวันนอนพักผ่อนซึ่งอาจนอนหลับในท่ายืนก็ได้
แรด เป็นสัตว์ที่มีสายตาแย่มาก แต่มีประสาทรับกลิ่นและประสาทหูดีเยี่ยม จึงเป็นสัตว์ที่มีนิสัยฉุนเฉียวง่าย โกรธง่าย ประกอบกับขนาดลำตัวที่ใหญ่จึงมักไม่ค่อยมีศัตรูตามธรรมชาติ ในปัจจุบันมีแรดหลงเหลืออยู่เพียง 5 ชนิดเท่านั้น พบในทวีปแอฟริกา 2 ชนิด ในเอเชีย 3 ชนิด และทุกชนิดเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วทั้งสิ้น ศัตรูของแรดเพียงอย่างเดียว คือ มนุษย์ ที่ล่าแรดเพื่อเอานอเนื่องจากเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยา โดยเฉพาะยาจีนเชื่อว่าเป็นยาเย็น สามารถดับพิษไข้ได้
สำหรับ "วันอนุรักษ์แรดโลก" มีมาเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2553 โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตระหนักถึงสถานการณ์ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของแรดที่ยังคงถูกล่าอย่างผิดกฏหมายอยู่ในปัจจุบัน ที่ผ่านมา แรด ถูกฆ่าเพียงเพื่อนำนอไปทำเป็นเครื่องประดับและยาแผนโบราณในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งในหลายพื้นที่ยังมีความเชื่อที่ว่านอแรดนั้นสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในยารักษาโรคมะเร็งได้ ทั้งที่ไม่พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นใดระบุว่ามันมีคุณสมบัติทางการแพทย์ใดๆ เลยก็ตาม
ในปัจจุบันนี้ แรดเหลือเพียง 5 ชนิดพันธุ์เท่านั้น ประกอบด้วย 1.แรดขาว เป็นแรดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พบในทวีปแอฟริกา 2.แรดดำ เป็นแรดที่มีความใหญ่รองมาจากแรดขาว พบในทวีปแอฟริกาเช่นกัน 3.แรดอินเดีย พบในภูมิภาคเอเชียใต้ จัดเป็นแรดที่มีเพียงนอเดียว มีลักษณะเด่นคือ ผิวหนังหนาและมีรอยย่นเห็นได้ชัดเจน 4.แรดชวา พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับแรดอินเดีย เป็นแรดชนิดที่หายากที่สุดในโลก และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดที่หายากที่สุดในโลกอีกด้วย และ 5.กระซู่ หรือแรด 2 นอ หรือ แรดสุมาตรา, แรดขน มีลักษณะเด่นที่สุดคือมี 2 นอ นอหน้าใหญ่กว่านอหลัง จัดเป็นสัตว์ตระกูลแรดที่มีขนาดเล็กที่สุด พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน มีลักษณะเด่นคือ มีขนปกคลุมทั้งลำตัว เป็นแรดที่หายากมากอีกชนิดหนึ่ง
แรดทุกชนิดพันธุ์ล้วนแล้วแต่ถูกจัดอยู่ในข่ายใกล้สูญพันธุ์ และประชากรแรดยังคงถูกล่าอย่างต่อเนื่องซึ่งหากการล่าแรดเพื่อเอานอยังคงดำเนินต่อไปในอัตราปัจจุบัน แรด จะสูญพันธุ์อย่างถาวรในช่วงชีวิตของเราทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี