วันนี้ (23 เม.ย.) เพจ "ทหารไทยใจกล้า" ได้โพสต์ภาพชายหนุ่มหน้าตาซื่อคนหนึ่ง พร้อมกับภาพ พ.อ.ปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมกับเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้ กับ พ.อ.ปริชญ์ ให้ฟังในระหว่างที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวกำลังเดินอยู่บนถนนเหงื่อไหลท่วมตัว พ.อ.ปริชญ์ จึงหยุดรถสอบถามและให้โดยสารไปกับรถเพื่อกลับบ้านไปหาลูกเมียที่ จ.นครพนม 

ทั้งนี้ จากการสอบถามเรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้ของ พ.อ.ปริชญ์ จึงทราบว่าเขาคือ "อดีตทหารเกณฑ์ที่เคยปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปลดประจำการเมื่อปลายปี 2561 แล้วมารับจ้างเป็นแรงงานติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ แต่ถูกหัวหน้างานเบี้ยวไม่จ่ายค่าแรงให้ทำให้ชายหนุ่มหน้าตาซื่อคนนี้ไม่มีเงินค่ารถกลับบ้านไปหาลูก 2 คนที่ยังเล็กและกำลังเรียนหนึ่งสือ" 

โดยเพจ "ทหารไทยใจกล้า"  ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้กับ พ.อ.ปริชญ์ ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้ "เมื่อหนุ่มคนซื่อ เจอกับท่านผู้พัน และการตัดสินจากจิตใจหาใช่เสื้อผ้าหน้าตา"

คนเรา มีเวลาไม่เกินสิบวินาทีในการตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับบุคคลที่สามที่เดินริมถนน เพราะสมองเราจะประมวลผลว่า เขาเป็นคนบ้าหรือเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ 

วันนี้ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ เกิน 40 องศา เขาเดินดุ่มๆ ไม่สนใจใคร บริเวณเลยจาก จอหอ มาเล็กน้อย สภาพเหงื่อไหลท่วมตัว เลยหยุดรถสอบถาม ได้ความว่าจะไปนครพนม เราบอกให้ขึ้นรถ เขาเดินอ้อมไปขึ้นท้ายกระบะ (เรานึกในใจ สอบผ่านขั้นต้น) ขับรถต่อไปอีกประมาณ 20 นาที สังเกตดูพฤติกรรมไม่มีสื่งผิดปกติ เลยแวะร้านริมถนน ซื้อไก่ย่าง 1 ตัว ข้าวเหนียว น้ำดื่มขวดใหญ่ และบอกให้เขามานั่งในรถ บอกให้เขาทานข้าวที่ซื้อมาให้ เขาบอกทานเมื่อเช้าแล้ว แต่ก็ให้ไว้ หิวเมื่อไรก็ทานได้เลย 

พูดคุยสอบถาม ได้ความว่า เป็นแรงงานติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ (เสาสูง 30-40 เมตร) แต่พอเสร็จงาน หัวหน้าฯหายตัวไป ไม่จ่ายค่าแรง ไม่มีเงินติดตัวสักบาท เมียบอกให้กลับบ้านก่อน ลูกสาวเรียน ป.2 กับกำลังคลาน รวม 2 คน กำลังรอพ่อกลับบ้าน (ในสภาพข้างต้น)

พูดคุยต่ออีก ได้ความว่า เป็นอดีตทหารเกณฑ์ เคยปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปลดประจำการเมื่อปลายปี 61 แล้วมารับจ้างเป็นแรงงานดังกล่าว( เริ่มคุยออกรส )

ถึง อ.พล เราแวะซื้อกาแฟเย็นและเข้าห้องน้ำ ให้ตังส์เขาไปซื้ออะไรกิน ตามที่ตัวเองอยากซื้อ พร้อมบอกเขาว่า หยุดพักสัก 10 นาที ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที เขามารอเราที่รถ พร้อมเงินทอนยื่นให้เรา บอกว่า ผมซื้อกาแฟเย็น(กระป๋อง) เราบอกเก็บเงินทอนไว้เถอะ ( สอบผ่านอีกแล้ว )

ถึง บขส.ขอนแก่น ยื่นเงินให้ไปซื้อตั๋วรถกลับนครพนม ส่วนเงินที่เหลือให้เก็บไว้ซื้อชุดนักเรียนให้ลูก ตามที่ลูกรอคอย

ดูเขาดีใจเป็นอันมาก เมื่อเราบอกว่า กลับไปดูแลลูกเมีย สักระยะ พร้อมเมื่อไร จะฝากให้ทำงานเป็น รปภ.ในสังกัดคนรู้จัก ค่าแรงขั้นต้นวันละ 535 บาท (ทำวันหยุดได้ 2 แรง) เพราะเราได้ประมวลผลแล้ว เขาสอบผ่าน มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะสนับสนุน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดใจอดีตทหารเกณฑ์ชายแดนใต้ ชีวิตสุดขมขื่นกำพร้าพ่อแม่-เมียมีชู้-ญาติยึดที่ดิน