“เจ้าแพนเค้ก” หมูป่าอายุประมาณ 7 ปี อาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง แบกร่างอันอุ้ยอ้ายน้ำหนักเกือบ 200 กิโล เดินลัดเลาะป่าจากสำนักสงฆ์ มายืนหน้าร้านขายขนมเป็นประจำเพื่อขออาหารและดื่มน้ำ โดยมีชาวบ้านให้กินเงาะและผลไม้ต่างๆ ซึ่งที่ชอบมากคือทุเรียน กระท้อน กล้วยน้ำว้า และมังคุด
วันนี้ 12 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ หมู่ที่ 12 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง พระเคารพ ญาติโก เจ้าสำนักสงฆ์ฯ ได้นำพวงมาลัยมาคล้องให้ ”เจ้าแพนเค้ก” หมูป่าเพศเมีย อายุประมาณ 7 ปี ซึ่งเมื่อ 4 ปีที่แล้วมีคนมานำมาถวาย ตั้งแต่เจ้าแพนเค้กยังเป็นลูกหมูป่าตัวเล็ก น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม
โดยบอกว่าเจ้าแพนเค้ก เป็นลูกหมูหลุดเต้า ซึ่งแม่หมูมีเต้านมทั้งหมด 10 เต้า แต่มีลูก 11 ตัว ทำให้เจ้าแพนเค้กแย่งกินนมแม่ไม่ทัน จึงตัวเล็กกว่าหมูป่าตัวอื่นๆ ชาวบ้านกลัวจะไม่รอดจึงนำมาถวายพระเคารพ โดยบอกว่าเป็นหมูแคระ ตัวใหญ่ไม่มากนัก แต่เมื่อเลี้ยงมาเรื่อยๆ ปรากฏว่าเจ้าแพนเค้กอ้วนขึ้นและตัวใหญ่ขึ้น จนพระเคารพพาใส่ย่ามเดินบิณฑบาตด้วยไม่ไหวจึงให้อยู่แต่ในวัด จนตอนนี้เจ้าแพนเค้กน้ำหนักเกือบ 200 กิโลแล้ว
เจ้าแพนเค้กเป็นหมูแสนรู้ นิสัยดี ไม่ดุร้าย เข้ากับสัตว์ในวัดได้ทุกตัว ทั้งสุนัข ลิง ไก่ และแมว ชอบกินผลไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะทุเรียน เงาะ กระท้อน กล้วยน้ำว้า กล้วยหอมและมังคุด ซึ่งเมื่อกินเสร็จก็จะถ่ายมูลเมล็ดผลไม้เอาไว้ ทำให้เกิดเป็นต้นใหม่งอกขึ้นมาเต็มวัด โดยไม่ต้องใช้คนปลูกแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังชอบนอนให้เกาพุง อาบน้ำ และมักจะเดินไปปลุกพระสงฆ์ตามกุฎิต่างๆเพื่อให้ออกมาทำวัตรเย็น
โดยช่วงนี้เป็นช่วงของผลไม้ตามฤดูกาล ทำให้เจ้าแพนเค้กมักจะหนีออกจากสำนักสงฆ์ ด้วยการเดินลัดเลาะป่าที่อยู่ติดกับสำนักสงฆ์ห่างกันประมาณ 200-300 เมตร เพื่อไปยังร้านค้าและบ้านเรือนของชาวบ้านที่ผลไม้ ซึ่งหากมีใครยื่นขนมให้ เจ้าแพนเค้กก็จะหยุดกินก่อนเดินทางต่อไปถึงบ้านที่มีผลไม้ ซึ่งเจ้าของร้านค้าได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปลงในติ๊กต๊อก แสดงให้เห็นถึงความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าแพนเค้ก และได้โทรศัพท์ไปบอกพระเคารพ ว่าเจ้าแพนเค้กหนีออกจากสำนักสงฆ์ มายืนอยู่ที่หน้าร้านค้าเป็นประจำ แต่ไม่เคยทำลายข้าวของหรือดุร้าย แค่แวะหยุดดูขนม ดื่มน้ำ และเดินไปเรื่อยๆ
ซึ่งพระเคารพก็จะถามร้านค้าอยู่เสมอว่า เจ้าแพนเค้กมาติดค่าขนมไว้กี่ห่อ พระจะตามไปจ่ายเงินให้ แต่ร้านค้าตอบว่าไม่มี หากไม่ให้กิน เจ้าแพนเค้กก็จะเดินออกไปอย่างหงอยๆ ซึ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก และต่างช่วยกันดูแลเจ้าแพนเค้กไม่ให้เดินขึ้นไปบนถนน หวั่นว่ารถนอกพื้นที่ไม่ทันระวังจะชนเอาได้
ด้านพระเคารพ ญาติโก เจ้าสำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ กล่าวว่า ที่แพนเค้กชอบกินคือทุเรียน เงาะ กระท้อน โดยกระท้อนชอบมากไปเที่ยวปลูกทั่วทั้งวัด ส่วนที่ร้านค้าแทบไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ให้ไปดูกล้องวงจรปิดขณะที่เจ้าแพนเค้กไปยืนกระดิกหางเพื่อขอขนมแต่ไม่เข้าไปในร้าน พอได้ขนมก็กลับวัด ซึ่งตาหลวงก็ถามแพนเค้กว่าไปติดค่าขนมร้านไหนเอาไว้บ้าง ซึ่งโยมร้านค้าบอกว่าไม่มีแค่ไปขอขนมกิน เมื่อก่อนไม่ค่อยไป แต่เดียวนี้คงคิดว่าตัวเองแก่แล้วจึงเดินออกกำลังกายวันละ 3-4 ชั่วโมงกว่าจะถึง แต่ไม่เข้าไปทำลาย โดยไปยืนอยู่ประมาณ 10-20 นาทีถ้าเขาไม่ให้ก็เดินกลับ ซึ่งเขารู้ ถ้าไม่มีคนให้ก็จะเดินไปขอร้านอื่นอีก ถ้าได้ขนมก็จะเดินกลับวัด
ส่วน น.ส พัณณิตา สำนักโหนด ลูกจ้างร้านขายของชำหน้าสำนักสงฆ์ฯ กล่าวว่า แพนเค้กมาบ่อย เดินมาแวะกินน้ำที่หน้าร้านแล้วเดินกลับตามถนนเอง โดยมายืนอยู่สักพัก แต่ตนไม่ค่อยให้กิน ส่วนมากจะมาแวะกินน้ำ มองแล้วรู้สึกน่ารักดี ฉลาดนะ เดินมาเองกลับเอง แต่ช่วงนี้หลายวันไม่เดินออกมา คงจะนอนอยู่ในวัด ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นหมูตัวไหนทำแบบนี้มาก่อนยกเว้นแพนเค้กตัวเดียว
ขณะที่นายสินไชย ชูศรีอ่อน อายุ 58 ปี อบต.หมู่ที่ 12 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง กล่าวว่า ตนรู้จักกับแพนเค้กมานานแล้ว สมัยที่ตาหลวงนำมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ ตอนหลังเห็นออกมาเดินนอกวัดบ่อย แต่ไม่ค่อยรบกวนชาวบ้าน บางครั้งก็เดินมาตามสวน บางครั้งก็เดินมาตามถนน มาอยู่ตามร้านและเจอเด็กๆ ก็ให้กินขนม กินเสร็จก็หาที่นอนนุ่มๆ นอน ที่บ้านของนายศุภลักษณ์ฯ ก็สอยเงาะให้กินอยู่ เขาบอกว่ามันชอบกินลูกเงาะด้วย.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี