จากกรณีนายพิทักษ์ ศุภเลิศ อายุ 50 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไทร จ.บุรีรัมย์ นายชุมพล ศุภเลิศ ข้าราชการครูโรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 32 บุรีรัมย์ และนายธนกฤต ศุภเลิศครูโรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม สพป.บุรีรัมย์ เขต4 มีชื่อเข้าสอบแข่งขันคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ครั้งที่ 1/2557 ใน 89 เขตพื้นที่การศึกษา สร้างความเคลือบแคลงสงสัยจะเชื่อมโยงการทุจริตหรือไม่นั้น
เมื่อวันที่ 22 เมษายน นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวมาแล้วว่า อยู่ระหว่างการสอบสวน คาดจะได้ข้อสรุปต้องสอบวินัยหรือไม่ภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งแนวโน้มน่าจะต้องมีการสอบสวนทางวินัย
ส่วนกรณีที่มีผู้ให้ข้อมูลว่านายพิทักษ์เป็นติวเตอร์ และให้เหตุผลในการไปเข้าสอบเพราะต้องการไปดูข้อสอบเท่านั้น นายจาตุรนต์กล่าวว่า โดยหลักการ การไปสอบโดยไม่ได้ขออนุญาตเขตพื้นที่ฯต้นสังกัด ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว ยิ่งไปสอบทั้งที่ตัวเองเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ยิ่งไม่เป็นเหตุเป็นผล และส่อไปในทางทุจริต เสื่อมเสีย ชื่อเสียง เป็นปัญหาทางวินัยชัดเจนอยู่แล้ว
“โดยจรรยาบรรณ ถ้าตนเองเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ไม่น่ามาสอบ ต้องหาวิธีการอื่น มากกว่าที่จะใช้วิธีเข้าไปสอบเพื่อดูข้อสอบ เหตุผลไม่น่าจะฟังขึ้น ส่วนจะมีความผิดถึงขั้นไหน ตรงนี้ต้องดูข้อเท็จจริงประกอบด้วย บังเอิญว่ากรณีนี้กรรมการคุมสอบรู้ก่อน จับได้ก่อน ความผิดบางอย่างจึงอาจยังไม่เกิดขึ้น”นายจาตุรนต์กล่าว
และว่า ส่วนผู้เข้าสอบจากจ.บุรีรัมย์ 9 คน ที่เดินทางไปสอบพร้อมกับนายพิทักษ์ จะส่อเจตนาทุจริตหรือไม่ ต้องรอฟังผลการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน ระหว่างนี้เขตพื้นที่ฯได้เรียกเข้ามาสอบสวนแล้ว แต่เบื้องต้นเห็นไปในทางคล้ายกันว่า ทำให้เกิดความเสียหาย เป็นปัญหาถึงขั้นวินัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายพิทักษ์เข้าไปดูแนวข้อสอบจริงๆตามที่กล่าวอ้าง จะถือว่ามีความผิดหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ลำพังการดูข้อสอบเฉยๆไม่ผิด ต้องดูพฤติกรรมอื่น ประกอบด้วย เท่าที่ตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.)และดูเรื่องวินัยมาบ้าง พอทราบว่า ความผิดทางวินัยไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเดียวกับความผิดอาญา กรณีที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย มีลักษณะไม่ชอบด้วยจรรยาบรรณ น่าจะเข้าข่ายวินัย ส่วนการดำเนินการทางอาญา กรรมการต้องดูข้อเท็จจริงและองค์ประกอบว่าเข้าข่ายความผิดอาญาหรือไม่
วันเดียวกัน มีรายงานว่า เขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 32 และเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 4 จ.บุรีรัมย์ มีคำสั่งให้สอบสวนนายชุมพล ศุภเลิศ ครูโรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม และนายธนกฤต ศุภเลิศ ครูโรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม เนื่องจากทั้งสองคนมีรายชื่อเข้าสอบบรรจุครูผู้ช่วยที่สนามสอบ จ.นนทบุรี และยังพบว่าเป็นญาติกับนายพิทักษ์ ที่มีชื่อสอบบรรจุครูผู้ช่วย จ.สมุทรสาคร ซึ่งทั้ง 3 คน ถูกตั้งสอบข้อเท็จจริงว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบครูผู้ช่วยหรือไม่
ด้านนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานคดีอาญาพิเศษ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีทุจริตสอบครูผู้ช่วยเปิดเผยว่า ทางศธ.ยังไม่ได้ประสานให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดำเนินการเรื่องนี้ หากประสานมาก็พร้อมเข้าดำเนินการทันที
“กรณีที่ผอ.โรงเรียนลดระดับมานั่งสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นครั้งแรกที่พบ ถือเป็นเรื่องผิดปกติ และยังเป็นติวเตอร์ด้วย ที่ผ่านมาผมเคยเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสอบบรรจุครูผู้ช่วยลักษณะนี้ในหลายจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูเล็กๆที่ถูกจ้างเข้ามาจดจำข้อสอบออกไป โดยมาเป็นกลุ่มๆละ 40-50 คน ส่วนครั้งนี้เป็นถึงผอ.รร. คาดว่าน่าจะเป็นการลดต้นทุน จึงมานั่งสอบเพื่อจดจำข้อสอบเอง”นายธานินทร์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี