ศธ.ชง'คสช.'3.6พันล.ปล่อยกู้กยศ. ทบทวนโครงการแจกแท็บเล็ต
วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557, 15.27 น.
Tag :
26 พ.ค.57 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าตนได้ซักซ้อมความเข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้น ให้กับผู้บริหารองค์กรหลักฯ ได้รับทราบ หลังจากที่ตนเข้ารับฟังแนวปฏิบัติการทำงาน จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้
โดยการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะอยู่ในโครงสร้างของคสช. ฝ่ายสังคมจิตวิทยา ที่ขึ้นตรงกับพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) โดย คสช.ขอให้กระทรวงด้านสังคมเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้านสังคม โดยเฉพาะการดูแลด้านจิตใจของประชาชน และขอให้แต่ละกระทรวงรวบรวมปัญหา และนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญๆ เพื่อนำเสนอต่อ คสช.ในวันอังคารที่ 27 พ.ค. นี้ เวลา 9.00 น. ซึ่ง คสช.ได้เรียก 7 กระทรวงด้านสังคมมาประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้า คสช.และ ผบ.ทร.
นางสุทธศรี กล่าวต่อว่า คมช.ต้องการให้แต่ละกระทรวง นำเสนอโครงการเร่งด่วน โดยเฉพาะโครงการที่จะดำเนินการในปี 2557 ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องการให้เดินหน้าโครงการ ที่จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อเด็กและเยาวชน แต่ให้เลือกนำเสนอโครงการเร่งด่วน 3- 4 โครงการก่อน ดังนั้นศธ.จะสรุปนโยบายที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่ต้องเร่งดำเนินการในปีงบประมาณ 2557 เรื่องแรก คือ เสนอของบประมาณจัดสรรกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นเงิน 3,610 ล้านบาท เพื่อปล่อยให้กับนักเรียน นักศึกษาผู้กู้รายใหม่ 204,000 ราย และการเดินหน้าโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ที่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะโซน 4 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ที่เพิ่งมีการประกาศขายซองและคาดจะเริ่มการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชั่น) ช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการจัดซื้อเพราะเป็นโครงการต่อเนื่อง รวมถึงงบซ่อมแซมอาคารเรียน ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวที่ จ.เชียงราย อย่างไรก็ตาม ผบ.ทร.มีแผนจะเดินสายพบกระทรวงด้านสังคมภายในสัปดาห์นี้ รวมถึงกระทรวงศึกษาธิการด้วย เพราะฉะนั้น ศธ.จะได้นำเสนอรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมในโอกาสที่ ผบ.ทร.มากระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งรวมถึงเรื่องการปฏิรูปการศึกษาด้วย
"ส่วนโครงการแท็บเล็ตนั้น จะเชิญองค์กรหลักที่เกี่ยวข้องมาหารือในวงเล็กก่อนว่า ควรจะมีการทบทวนโครงการแท็บเล็ตในปี 2557 ว่าควรจะแจกนักเรียนทุกคนเหมือนเดิม หรือจัดเป็นห้องเรียนในรูปแบบ Smart classroom เพื่อ ให้เกิดประโยชน์กับเด็กสูงสุด ซึ่งเข้าใจว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะทำการวิจัยเรื่องการใช้แท็บเล็ตของเด็กไว้บ้างแล้ว ดังนั้นศธ. จะนำผลวิจัยดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา เพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสมเสนอให้ทางคสช. พิจารณาต่อไป ส่วนการแจกแท็บเล็ตในปีการศึกษา 2556 นั้น เนื่องจากได้มีการดำเนินการไปแล้ว ก็คงต้องเดินหน้าแจกต่อจนจบ" นางสุทธศรี กล่าว
ปลัดศธ. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมองค์กรหลักศธ. ได้มีมติจัดตั้งศูนย์ประสานงานฝ่ายสังคมและจิตวิทยาของศธ. เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานและขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา ระหว่างองค์กรหลักของศธ.กันเอง และ คสช. โดยมีรองปลัด ศธ.เป็นประธาน ขณะเดียวกัน ศธ. ก็พร้อมที่จะให้ทางคสช. ใช้พื้นที่เป็นศูนย์ประสานงานหลักระหว่าง 7 กระทรวง ที่อยู่ในกำกับดูแลของผบ.ทร. ด้วย
ด้านนาย อภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ในการประชุมกับ คสช.ในวันพรุ่งนี้(27 พ.ค.)สพฐ.จะเสนอขออนุมัติงบกลางในการซ่อมแซมโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่น ดินไหวในจังหวัดเชียงราย วงเงินประมาณ 250 ล้านบาท เบื้องต้นใช้สำหรับรื้อและสร้างใหม่ในโรงเรียน 15 โรง มูลค่าประมาณ 127 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้จะรวมค่าสร้างอาคารชั่วคราว 20 ล้านบาท ห้องน้ำ 30 ล้านบาท ครุภัณฑ์ 6 ล้านบาท เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้เพื่อซ่อมแซม 40 ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนการรื้ออาคารเรียนนั้น บริษัทผู้รับเหมาได้ขอรับวัสดุเหลือไปด้วย ซึ่งจะต้องมีเงินถอนให้กับรัฐบาลเพราะมูลค่าของที่ขอรับไปเกินกว่าค่าจ้าง จึงทำให้ สพฐ.ไม่ต้องควักงบประมาณ
"วงเงินดังกล่าวไม่รวมกับเงินพระราชทานส่วนพระองค์ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานช่วยเหลือโรงเรียน 2 แห่ง จำนวน 53 ล้านบาท คือ โรงเรียนพานพิทยาคม จำนวน 35 ล้านบาท และโรงเรียนแม่ลาววิทยาคม จำนวน 18 ล้านบาท นอกจากนี้ จะเสนอขอความเห็นชอบจาก ผบ.ทร.ในการขออนุมัติงบประมาณจัดซื้อแท็บเล็ต ปีการศึกษา 2557 วงเงินงบประมาณกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง และขณะนี้ได้มีการกำหนดรายละเอียดและสเปกเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจะขออนุมัติดำเนินการจัดซื้อแท็บเล็ต โซน 4 ระดับม.1 ปีการศึกษา 2556 ต่อเพราะเป็นการจัดซื้อใหม่ ภายหลังยกเลิกสัญญากับบ.จัสมินฯ โดยใช้งบประมาณเดิมไม่ได้เป็นการก่อหนี้ผูกพันใหม่แต่อย่างใด" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว