กรมพัฒนาที่ดิน มีนโยบายสำคัญในการพัฒนา “ยุวหมอดิน” เพื่อให้เป็นต้นกล้า ที่แข็งแรง เติบโตเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพ
นายวันชัย วงษา ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสุพรรณบุรี สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1 กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดิน ได้ทำโครงการเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียนและยุวหมอดิน เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนที่ศึกษาอยู่ระหว่างชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-5 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของเกษตรกร เข้ามาเป็นตัวแทนนักเรียนในฐานะเป็นยุวหมอดิน เข้าไปดำเนินกิจกรรมทางการเกษตรในโรงเรียนของตนเอง โดยกรมพัฒนาที่ดินจะเป็นผู้สนับสนุนด้านการถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน การทำเกษตรโดยใช้สารอินทรีย์ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถูกต้อง สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งการทำเกษตรในโรงเรียนเพื่อเป็นอาหารกลางวันที่ปลอดภัยให้กับเพื่อนนักเรียน รวมถึงนำความรู้ไปถ่ายทอดสู่พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เป็นเกษตรกร ให้มีการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ให้อุดมสมบูรณ์ เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชผล ควบคู่กับลดการพึ่งพาสารเคมี ที่สำคัญในอนาคต ถ้ายุวหมอดินเหล่านี้ได้ประกอบอาชีพเกษตร ก็จะเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ เป็นรากฐานที่ดีของสังคมและประเทศชาติต่อไป
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาภาวะผู้นำ และเตรียมความพร้อม ความเป็นยุวหมอดินที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กรมพัฒนาที่ดิน ยังได้จัดกิจกรรมค่ายยุวหมอดิน เพื่อให้ตัวแทนยุวหมอดินจากโรงเรียนต่างๆ มาร่วมกิจกรรม ซึ่งจะได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนด้วยกัน ตลอดจนมีการนำความรู้ที่ได้จากการเข้าค่าย ไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น ซึ่งกิจกรรมค่ายยุวหมอดิน จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี อย่างปี 2557 สถานีพัฒนาที่ดินสุพรรณบุรี ได้รับงบประมาณในการอบรม รวม 133 โรงเรียน มีนักเรียนโรงเรียนละ 2 คน และครูเกษตร 1 คน รวมทั้งสิ้น 399 คน โดยแบ่งออกเป็น 4 รุ่น รุ่นละ 3 วัน 2 คืน
สำหรับกิจกรรมค่ายยุวหมอดิน เด็กนักเรียนที่เข้าร่วมจะได้รับ ทั้งความรู้จากการอบรมในเรื่องเกี่ยวกับดิน เช่น องค์ประกอบดิน ปัญหาดินต่างๆ ทั้งดินเค็ม ดินเปรี้ยว ดินกรด ดินตื้น ดินในพื้นที่ลาดชัน รวมทั้งแนวทางการแก้ไข นอกจากนี้ จะเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง จากฐานเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ พด. เทคโนโลยีของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 6 ฐานเรียนรู้ ประกอบด้วย ฐานเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน โดยใช้สารเร่ง พด.1 ร่วมด้วย ฐานเรียนรู้การผลิตและใช้น้ำหมักชีวภาพ จากสารเร่ง พด.2 พด.6 ฐานเรียนรู้การผลิตสารป้องกันโรค/แมลงจากสารเร่ง พด.7 ฐานเรียนรู้ห้องปฏิบัติจุลินทรีย์ดิน ฐานเรียนรู้พืชปุ๋ยสดเพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน ที่เป็นการสร้างโรงงานปุ๋ยในไร่นา ฐานเรียนรู้หญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ รวมทั้ง ฐานเรียนรู้เกี่ยวกับ “หลุมพอเพียง” ที่ปลูกพืชหลายอย่างในหลุมเดียว ให้ทุกอย่างเกื้อกูลกัน “โรงปุ๋ยพอเพียง” ที่เป็นการเลี้ยงหมูหลุม แบบประยุกต์ โดยเลี้ยงหมู 4 ตัว เพื่อประโยชน์/วัตถุประสงค์ 4 อย่าง คือ เป็นเครื่องกำจัดขยะสด เครื่องผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และกระปุกออมสินประจำครัวเรือน รวมทั้ง เป็นโรงฝึกการมีส่วนร่วมของลูกหลาน ที่ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครองเลี้ยงหมู
“สิ่งที่กรมพัฒนาที่ดิน มุ่งหวังในการสร้างยุวหมอดิน ก็เพื่อให้เป็นต้นกล้าในการพัฒนาไปสู่การเป็นเกษตรรุ่นใหม่ ที่มีการนำนวัตกรรม ความรู้และเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เหมาะสม ซึ่งเชื่อมั่นว่า หลังจากที่เด็กนักเรียนเหล่านี้ได้มาเข้าค่ายยุวหมอดิน จะได้นำความรู้และเรื่องราวดีๆ ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทั้งที่โรงเรียน และขยายผลไปสู่ผู้ปกครองได้ดีกว่า ที่เจ้าหน้าที่หรือคนรุ่นเดียวกันไปบอก เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ที่มีอายุมาก มักจะยึดติดการทำเกษตรรูปแบบเก่าๆ ไม่เปิดรับเทคโนโลยีหรือเชื่อใครง่ายๆ แต่ถ้าเป็นลูกหลานของเขาเอง ไปบอกและลองทำให้ดูเป็นตัวอย่าง น่าจะเปลี่ยนแนวคิดได้ดีกว่า” ที่สำคัญ คือ การเข้าถึงองค์ความรู้และบริการ ด้านพัฒนาที่ดินและพัฒนาการเกษตร ได้ง่ายขึ้น” นายวันชัย กล่าว
ขณะที่ ด.ญ.ณัฐฌิมา เพ็งมณี (แก้ม) อายุ 12 ปี ยุวหมอดิน จากโรงเรียนชุมชนบ้านแก่งเสือเต้น จ.ลพบุรี ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายยุวหมอดิน เล่าว่า แก้มเป็นยุวหมอดินในโรงเรียนชุมชนบ้านแก่งเสือเต้น ซึ่งปกติที่โรงเรียนก็จะแบ่งหน้าที่กันทำกิจกรรมเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียน เช่น การขุดหลุมปลูกผักชนิดต่างๆ เพื่อเป็นอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนในโรงเรียน ดูแลรดน้ำพืชผัก ทำปุ๋ยคอก และเลี้ยงสัตว์ ซึ่งครั้งนี้ก็ได้รับการคัดเลือกให้มาเป็นตัวแทนยุวหมอดินของโรงเรียน มาเข้าค่ายยุวหมอดิน ที่สถานีพัฒนาที่ดินสุพรรณบุรี ก็ได้รับความรู้และประสบการณ์ที่มีประโยชน์มากมาย ตั้งแต่เรื่องดินมีความเป็นมาอย่างไร มีดินปัญหาอะไรบ้างมีวิธีที่จะแก้ไขอย่างไร การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ พืชสมุนไพรที่จะนำมาเป็นสารขับไล่แมลงทดแทนสารเคมีมีอะไรบ้าง
“หลังจากที่ได้รับความรู้เหล่านี้มาแล้ว หนูจะนำกลับไปทดลองทำ และถ่ายทอดให้เพื่อนๆ ที่ทำเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียนได้รู้เหมือนกัน จะได้ทำอย่างถูกต้อง และจะไปบอกกับคุณแม่ที่ประกอบอาชีพปลูกผักและผลไม้ขาย ให้นำแนวทางการพัฒนาที่ดินไปใช้ อยากบอกเพื่อนยุวหมอดินโรงเรียนอื่นที่ยังไม่ได้มาเข้าค่ายยุวหมอดิน ให้ลองมาดูเพราะจะได้รับความรู้หลากหลาย นอกจากนี้ยังได้รู้จักเพื่อนเพิ่มมากขึ้นด้วย” ยุวหมอดินแก้ม กล่าวฝาก
ท้ายนี้ หากผู้ปกครอง โรงเรียนใดอยากให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมค่ายยุวหมอดิน สามารถแจ้งความประสงค์มาที่สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด หรือประสานผ่านหมอดินอาสาใกล้บ้าน หรือถ้าต้องการความรู้ บริการต่างๆ ก็สามารถติดต่อมาได้เช่นกัน สถานีพัฒนาที่ดินทุกแห่ง พร้อมให้บริการ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ในการเพิ่มศักยภาพการผลิต ลดการเสียโอกาสของการทำการเกษตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี