ว่ากันว่าระบอบประชาธิปไตยของไทยที่ล้มเหลว แบบไม่เคยยืนได้อย่างมั่นคงเลยสักครั้งนับตั้งแต่นำเอาระบอบนี้มาใช้ อย่างหนึ่งที่เป็นปัญหาคือ คนไทย ชอบอ้างถึงสิทธิ์ แต่ ไม่รู้จักหน้าที่ จึงเกิดผลกระทบไปสู่ระบอบของการปกครองแบบประชาธิปไตย เพราะระบอบนี้ มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ สิทธิ และ หน้าที่ของปวงชนชาวไทย
แม้คนไทยจะบ้าใช้สิทธิ์โดยไม่คำนึงถึงหน้าที่ แต่ก็แปลกยิ่งกว่าแปลกที่ว่า “บางสิทธิ์ที่เราควรจะต้องกระทำอย่างยิ่งกลับไม่กระทำ” อย่างเช่น “สิทธิ์ในการใช้พื้นที่ที่ปลอดจากควันบุหรี่
คุณต้องเคยแน่ๆที่ ต้องสูดดมควันพิษของบุหรี่เข้าสู่ร่างกายทั้งๆที่คุณไม่ได้สูบ ทั้งๆที่ประเทศไทยมี พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ซึ่งได้กำหนดพื้นที่ปลอดบุหรี่ในสถานที่สาธารณะไว้จนเกือบ 100% แต่พบว่าเกิดการละเมิดกฎหมายและสิทธิของผู้อื่นอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีใครออกมาโวยวายเรียกร้องสิทธิ์นั้น
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ได้ร่วมมือกับ 11 หน่วยงาน จัดทำ แคมเปญรณรงค์จิตอาสาขยายพื้นที่ปลอดบุหรี่ “รวมพลัง ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ” เพื่อผลักดันให้เกิดการร่วมแสดงพลัง “ท้วงสิทธิ์ ห้ามสูบ”เพื่อให้พื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย 100%”
หลังจากมีการสำรวจสถานการณ์ควันบุหรี่มือสองในประชากรอายุ 15-64 ปี จำนวน 2,089 คนจากทั่วประเทศ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ปี 2557 พบว่า สถานที่สาธารณะ กว่า 2 ใน 3 มีการฝ่าฝืนสูบบุหรี่
สถานที่มีการฝ่าฝืนการสูบบุหรี่มากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ตลาดสด ตลาดนัด 73.61% รองลงมาคือ สถานีขนส่ง ป้ายรถเมล์ สถานีรถไฟ ท่าเรือ 72.66% และสนามกีฬา 67.88% ทั้งที่สถานที่ทั้งหมดนี้ ห้ามสูบบุหรี่ 100% แต่ประชาชนกลับรู้จักพื้นที่สาธารณะปลอดบุหรี่ตามกฎหมายกำหนดอย่างถูกต้อง ไม่ถึงครึ่งคือ 45% และมีประชาชนเพียง 46% เท่านั้น ที่เคยเห็นสัญลักษณ์ห้ามสูบบุหรี่ตามที่กฎหมายกำหนด
ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ อธิบายว่า กฎหมายสามารถทำให้เกิดความเกรงกลัว การรณรงค์ด้วยการติดป้าย จะทำให้เกิดความเกรงใจ และทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่สูบบุหรี่ ได้รู้ว่าตัวเองมีสิทธิที่จะไม่ต้องรับควันบุหรี่มือสองสุดอันตราย และทำให้ผู้สูบบุหรี่ทราบว่าสถานที่ใดไม่สามารถสูบบุหรี่ได้ ซึ่งเป็นทั้งการผิดกฎหมายและทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ เพราะฉะนั้นการจัดกิจกรรม ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ จึงต้องทำอย่างจริงจัง ทำทั้งระบบให้ครบวงจร
การรณรงค์ให้ครบวงจร ต้องมีทั้ง On Ground และ On Line
On Ground คือการจัดทำสติ๊กเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าเป็นพื้นที่ห้ามสูบ และรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของการไม่ละเมิดสุขภาพผู้อื่น โดยจะมีการแจกสติ๊กเกอร์รณรงค์ตามจุดต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และกทม. เพื่อเชิญชวนประชาชนและเจ้าของสถานที่ต่างๆ ให้เกิดจิตอาสาร่วมกันติดสติ๊กเกอร์รณรงค์ไม่สูบบุหรี่ในพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ตามกฎหมายกำหนด
On Line เป็นการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ โดยได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น “ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ” ไปใช้ใน Smart phone ในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และ IOS โดยทุกคนสามารถดาวน์โหลด ได้ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยถ่ายรูปสติ๊กเกอร์รณรงค์ที่ติดตามสถานที่สาธารณะ และโพสต์รูป พร้อม check in ผ่านแอปพลิเคชั่น เชื่อมต่อกับ Facebook และ www.nonsmokersright.com ที่จะแสดงแผนที่เขตปลอดบุหรี่ของประเทศไทย โดยแผนที่นี้จะสะท้อนสถานการณ์การรวมพลังทวงสิทธิ์ห้ามสูบของคนไทย หากมีการ ถ่ายรูปและโพสต์จํานวนมาก หมายถึงพื้นที่ปลอดบุหรี่กําลังขยายตัวมากขึ้นตามลําดับ โดยโครงการนี้ตั้งเป้าหมายที่จะรณรงค์ทวงสิทธิ์ขอคืนพื้นที่ปลอดควันบุหรี่ 100%
วิธีการเช็คอินนี้ เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นให้พื้นที่ต่างๆเริ่มตื่นตัวมากขึ้น เพราะจากการเช็คอิน จะมีการจัดทำลำดับของพื้นที่ที่มีการเช็คอินว่าเป็นพื้นที่ปลอดควันบุหรี่ จังหวัด อำเภอ ตำบล ใดมีอัตราการตื่นตัวมากหรือน้อย ก็จะแสดงออกมาเป็นลำดับ ว่า สิบลำดับจังหวัดที่มีพื้นที่ปลอดควัน และ สิบจังหวัดที่มีพื้นที่ปลอดควันน้อยที่สุด ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะทำให้เกิดความตื่นตัวขึ้นในพื้นที่เองด้วย
การเข้าร่วมรวมพลังสามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการขอสติ๊กเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่ที่จะเป็นช่องทางกระจายสติ๊กเกอร์รณรงค์ได้ที่ โรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้านทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nonsmokersright.com หรือ www.ทวงสิทธิ์ห้ามสูบ.com
สิทธิอันชอบธรรมของเรา เราต้องนำเอามาใช้ ยิ่งเป็นสิทธิ์ในการสร้างสุขภาพของเราให้แข็งแรง ปราศจากโรคภัย ยิ่งควรรีบกระทำเป็นอย่างยิ่ง ลงมือทำได้เลย
ปานมณี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี