มท.เรียกประชุมพ่อเมืองทั่วปท. ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด
วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557, 14.55 น.
Tag :
10 ก.ค. 57 ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต กทม. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม คสช. เป็นประธานในพิธี โดยมี ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีทุกกรมในสังกัด ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ รองผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงภายใน สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายอำเภอ และผู้แทนกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้นประมาณ 1350 คน
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ผู้บริหารในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ได้รับทราบนโยบาย และแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของ คสช.ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่มุ่งเน้นปราบปราม สกัดกั้น หยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน การจัดระเบียบสังคม การนำผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา มาตรการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ทั้งนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นภาคีในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มามอบหมายภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และปลัดกระทรวงสาธารณสุข
นายวิบูลย์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดของกระทรวงมหาดไทยนั้น ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เป็นแม่งานในการอำนวยการระดมสรรพกำลังที่มีอยู่ให้เข้ามาดำเนินการทุกมาตรการ โดยกำหนดทิศทางในการดำเนินมาตรการ ดังนี้ มาตรการในการปราบปราม ให้สนธิกำลังร่วมกันทั้ง ด้านการข่าว การปิดล้อม การตรวจค้น จับกุมผู้ค้ายาเสพติด ควบคู่ไปกับกระบวนการสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน และชุมชน โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน เข้าทำหน้าที่ร่วมในการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ถ้าพื้นที่มีสถานการณ์ยาเสพติดรุนแรง ได้กำหนดมาตรการปราบปรามอย่างเข้มข้นในช่วงระยะเวลา 3 เดือนนี้
นายวิบูลย์ กล่าวว่า ด้านมาตรการบำบัดรักษา โดยเฉพาะการจัดทำค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะดำเนินการตามมาตรฐานทางวิชาการ ที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำหลักสูตรการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพผู้ติดยาเสพติด จะมีการคัดกรองเพื่อแยกประเภทตามความหนักเบาของการใช้ยาเสพติด เพื่อส่งเข้ารับการบำบัดในระบบที่เหมาะสมตามอาการ และภายหลังจากที่ผ่านการบำบัดรักษาแล้ว จะมีกระบวนการติดตามที่ชัดเจน โดยให้คณะกรรมการหมู่บ้านทำหน้าติดตามผลและดูแล ผู้ได้รับการบำบัด ทั้งยังช่วยเหลือฝึกอาชีพ และหางานให้ทำเพื่อป้องกันการกลับไปใช้ยาเสพติดอีก
นายวิบูลย์ กล่าวว่า ด้านมาตรการป้องกันกลุ่มเสี่ยง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นป้องกันกลุ่มเสี่ยงทั้งภายนอก และภายในโรงเรียน โดยอาจจัด การนำกลุ่มเสี่ยงมาฝึกอบรมเป็นอาสาสมัครทำหน้าที่ช่วยเหลือสังคม จัดกิจกรรมในเชิงป้องกันทั้งครู ครูพละ ครูทหาร เพื่อชี้นำให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด
“ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้มีความเป็นเอกภาพ เข้าถึงปัญหาในพื้นที่ และแก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยให้ความสำคัญกับปัญหาที่เป็นวิกฤตของพื้นที่ก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากยาเสพติด”นายวิบูลย์ กล่าว