การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลของประชากรไทย นั้นจากผลสำรวจอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชากรไทยอยู่ในระดับต่ำ แต่ดื่มในปริมาณมาก จากการรายงานขององค์การอนามัยโลกในปี ค.ศ. 2013 คนไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ย 7.08 ลิตรต่อหัวประชากร ทําให้ถูกจัดเป็นประเทศที่ดื่มระดับเสี่ยงปานกลาง การศึกษาในประเทศไทยโดยการสํารวจระดับชาติในกลุ่มประชาชนทั่วไป อายุ 15-59 ปี (พ.ศ. 2551) พบความชุกของการมีความผิดปกติพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์(Alcohol Use Disorders) ร้อยละ 10.9 ในจํานวนนี้จัดเป็น alcohol dependence ร้อยละ 6.6 และ alcohol abuse ร้อยละ 4.2 ผู้ที่มีความผิดปกติพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์พบมีโรคร่วมทางจิตเวช ร้อยละ 7.1 ร้อยละ 4.6 เป็น Bipolar disorders (โรคอารมณ์แปรปรวน),ร้อยละ 2.8 เป็น Anxiety disorders (โรควิตกกังวล) และยังพบมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย และการใช้สารเสพติด ชนิดเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า,ยาไอซ์การรายงานของสํานักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (International Health Policy Program [IHPP]) ปี พ.ศ. 2552 พบว่า การดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดภาระโรคในชายไทย นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบว่าผู้หญิงไทยและกลุ่มวัยรุ่นมีความชุกของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น
สุรามีผลกระทบต่อระบบการทํางานของร่างกายเกือบทุกระบบ เป็นสาเหตุของโรค กว่า 60 โรค เช่น มะเร็งตับ มะเร็งลําไส้ใหญ่ เบาหวาน โรคเกาต์ กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม ความดันโลหิตสูง ภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ภูมิต้านทานลดลง ฯลฯ ที่เห็นผลกระทบชัดเจน คือ กลุ่มโรคทางระบบประสาทส่วนกลางและสมอง เช่น โรคสมองเสื่อม โรควิกลจริต โรคลมชัก นอนไม่หลับ หูแว่ว ประสาทหลอน โรคซึมเศร้า กลัว หวาดระแวง ฯลฯ
นายแพทย์ปริทรรศ ศิลปกิจ รองผู้อํานวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า การดื่มสุรามีความสัมพันธ์ต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิตแทบทุกรูปแบบ และปัญหาเหล่านี้ก็ดูเหมือนเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการหาซื้อสุราได้ง่าย เพราะสุราเป็นสารเสพติดที่ไม่ผิดกฏหมาย จากสถิติผู้ที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุง ในปี 2553-2556 พบว่ามีปริมาณสูง (ปี2553=5,006 ราย / ปี2554=5,217 ราย / ปี 2555=5,028 ราย และ ปี2556=4,784 ราย) และพบว่าผู้ที่มีแนวโน้มจะติดสุรา ที่คาดว่าในที่สุดจะต้องส่งมารักษานั้น ยังมีอยู่มาก
ดังนั้นจึงขอฝากให้ประชาชนร่วมกันตั้งข้อสังเกตดูว่าผู้ที่ดื่มสุราที่อยู่ใกล้ชิดท่าน เริ่มติดสุราหรือยัง โดยดูว่ามีอาการ 3 ใน 7 อย่างดังต่อไปนี้หรือไม่ 1. ต้องเพิ่มปริมาณการดื่มมากขึ้นจึงจะได้ฤทธิ์เท่าเดิม 2. มีอาการทางร่างกายเมื่อไม่ได้ดื่ม 3. ควบคุมการดื่มไม่ได้ 4. มีความต้องการอยู่เสมอที่จะเลิกดื่มหรือพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สําเร็จ 5. หมกมุ่นกับการดื่มหรือการหาสุรา 6. มีความบกพร่องในหน้าที่การงานหรือการพักผ่อนหย่อนใจ 7. ยังคงดื่มอยู่ทั้งๆ ที่มีผลเสียเกิดขึ้นแล้ว
นายแพทย์ปริทรรศ ศิลปกิจ กล่าวอีกว่า และที่เป็นห่วงเพราะมีความเสี่ยงอย่างมาก สําหรับผู้ที่ติดสุราที่ต้องการหยุดหรือลดปริมาณการดื่มลง การหยุดหรือลดปริมาณการดื่มลงเป็นสิ่งที่ดีและน่าชื่นชม เพราะอย่างไรก็ควรที่จะ ต้อองเลิกดื่ม แต่ต้องมีการจัดการที่ถูกวิธี เนื่องจากสุราเป็นตัวไปกฎการทํางานของสมองส่วนที่ควบคุมการทํางานของร่างกายและสติสัมปชัญญะ ร่างกายที่เคยได้รับสุรามานานเมื่อมีการหยุดหรือลดปริมาณ
การดื่มลงอย่างกะทันหัน สมองที่เคยถูกกดการทํางานจะปรับไม่ทัน หรือเกิดอาการตีกลับ ซึ่งจะมีอาการแสดงที่รุนแรงขึ้น เป็นระยะๆ คือ 6-12 ชั่วโมงแรก หลังหยุดดื่ม มีอาการมือสั่น ตัวสั่น หงุดหงิด อาเจียน ปวดศรีษะ ซึมลง หลัง 24 ชั่วโมงหรือ 1 วัน เริ่มสั่นมากขึ้น กระสับกระส่าย หัวใจเต้นแรง เหงื่อออกมาก ความดันสูง หูแว่ว ประสาทหลอน กลัว ระแวง หลัง 48-72 ชั่วโมง หรือ 2-3 วัน อาจเกิดอาการชักแบบลมบ้าหมู อาเจียน ท้องเสีย มีไข้สูง หูแว่วหรือเห็นภาพหลอนมากขึ้น มึนงง สับสน บางรายที่มีอาการรุนแรงและมาโรงพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้
ดังนั้นการจะหยุดหรือลดปริมาณการดื่มสุรานั้น ผู้ที่ติดสุรานั้นแม้ว่าสามารถทําได้เอง หรือบางทีญาติอาจคิดว่าเลิกเองก็ได้อยู่ที่ใจ แต่สําหรับเรื่องสุราแล้วทําไม่ได้ เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต ต้องมารับการรักษทอย่างถูกวิธีจึงจะสามารถเลิกได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ การสังเกตพบโดยเร็วว่าเริ่มีการติดสุราจะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยนำผู้ติดสุราเข้าสู่กระบวนการบําบัดรักษาได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามหากสามารถหลีกเลี่ยงการไม่ดื่มสุราได้ จะเป็นการป้องกันกลุ่มโรคทางร่างกาย ทางระบบประสาทและสมองได้เป็นอย่างดี และหากพบว่าติดสุราหรือมีปัญหาสุขภาพจิตจากการดื่มสุราหรือเสพติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถมาบําบัดรักษาได้ที่ โรงพยาบาลสวนปรุง หรือโทรศัพท์ปรึกษาเบื้องต้น ได้ที่ สายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
ศุภรักษ์ จิรกิจญาดา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี