บึ้มป่วน4จุดนราธิวาส
โชคดีไร้เจ็บ
พุ่งเป้ารถไฟตันหยงมัส
เร่งออกตามล่าคนร้าย
เปิดวงจรปิดแกะรอย
แฉมีแผนลวงฆ่าจนท.
รฟท.ยันวิ่งตามปกติ
เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วยพ.อ.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 นำกำลัง ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 4 ลูกซ้อน ในพื้นที่เขตเทศบาล ต.ตันหยงมัส โดยจุดแรก บริเวณริมกำแพงด้านหลังสถานีรถไฟตันหยงมัส ใกล้กับบ้านพักรถไฟ คนร้ายประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุไว้ในกระป๋องน้ำมันหล่อลื่น จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา ไอ.ซี.ไทม์เมอร์ ก่อนใส่ในถังขยะ ภายหลังเกิดระเบิด ไม่มีผู้บาดเจ็บ
จุดที่ 2 บริเวณริมกำแพงด้านหน้าสถานีรถไฟดังกล่าว ซึ่งคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องชนิดและขนาดเดียวกันไปวางไว้ในถังขยะ หลังจากเกิดระเบิดขึ้นไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ จุดที่ 3 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณโคนเสาไฟฟ้า หน้าห้องแถวซึ่งอยู่ถนนด้านหลังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาตันหยงมัส โดยคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่กล่องเหล็กน้ำหนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ วางไว้ แต่ภายหลังเกิดระเบิดไม่มีผู้บาดเจ็บ
ส่วนจุดที่ 4 ห่างจากจุดที่ 3 ออกไปประมาณ 4 เมตร พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณป่าริมคูน้ำ ซึ่งคนร้ายได้ใช้ผ้าใบยางสีฟ้าขาวพันห่อเอาไว้ เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ เจ้าหน้าที่จึงใช้ระเบิดซีโฟร์ติดไว้แล้วยิงทำลาย โดยจุดนี้คนร้ายลอบวางระเบิดหมายจะดักสังหารเจ้าหน้าที่ แต่โชคดีที่มีการเปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์และวิทยุสื่อสาร ระเบิดจึงไม่ทำงาน
อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าบริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณโดยรอบ เพื่อติดตามพฤติกรรมคนร้ายก่อนขยายผลไปสู่การจับกุมตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
ด้าน นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า หตุการณ์มีผู้วางระเบิด อ.ตันหยงมัส จ.นราธิวาส 4จุด ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงสถานีรถไฟตันหยงมัส จากการรายงานพบว่า เหตุดังกล่าวไม่มีพนักงานของ รฟท.บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ไม่มีทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท.เสียหายและไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถในพื้นที่ เนื่องจากเหตุระเบิดดังกล่าว แม้จะเกิดขึ้นในเขตทางรถไฟ แต่อยู่นอกอาคาร สถานีจึงไม่มีความเสียหาย
ก่อนหน้านี้เวลา 10.00น.วันเดียวกัน ที่โรงแรมปาร์ควิวแอนด์รีสอร์ท จ.ปัตตานี หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี จัดเวทีเสวนาระดมความคิดปฏิรูปประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการเสนอแนะแนวคิด มุมมอง ในการพัฒนาประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นำความสงบสุขคืนสู่สังคม โดยมี พ.อ.สมชาติ แน่นอุดร เป็นตัวแทนฝ่ายทหาร นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้แทนสื่อมวลชน ร่วมเสวนาในครั้งนี้
ทั้งนี้ ผศ.ดร.ศรีสมภพ หนึ่งในผู้ร่วมเสวนา ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความไม่สงบและสร้างความเป็นธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมนำเสนอทิศทางการแก้ปัญหาด้านต่างๆ โดยใช้ 9ยุทธศาสตร์ คือ 1.การสร้างความเป็นธรรมในสังคม 2.การพัฒนาคนไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 3.การสร้างความเข้มแข็งทางการเกษตร พลังงาน อาหาร
4.การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้เติบโตและยั่งยืน 5.การสร้างความเชื่อมโยงทางภูมิภาคความมั่นคงทางเศรษฐกิจและยั่งยืน 6.การจัดการทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน 7.การปรับปรุงรัฐวิสาหกิจให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน 8.การปรับปรุงโทรคมนาคมและเทคโนโลยี และ9.การปราบปรามยาเสพติดและการทุจริตอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ดี ทางหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี จะรวบรวมข้อมูลจากการระดมความคิดในทุกภาคส่วนในครั้งนี้ นำเสนอต่อผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี