ชวลิต ชูขจร
จากนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่มีหลักการชัดเจนในการช่วยเหลือเกษตรกร โดยมุ่งลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายอย่างเคร่งครัด ทั้งในด้านการควบคุมราคาและคุณภาพของปัจจัยการผลิต ล่าสุด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร ได้ส่งเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร 8 ชุด กว่า 150 นาย สุ่มตรวจปัจจัยการผลิตในพื้นที่แหล่งผลิตสำคัญ
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การส่งเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรออกตรวจสอบโรงงานผลิตปุ๋ย สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์พืช เพื่อรณรงค์ให้ผู้ประกอบการผลิตปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ เป็นการช่วยเหลือให้เกษตรกรให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพแต่ราคาไม่สูงเกินไป ขณะเดียวกันจะเสริมการทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อตรวจสอบราคาจำหน่ายปัจจัยการผลิตว่ามีการลดราคาหรือจำหน่ายตามประกาศราคาแนะนำของกรมการค้าภายใน รวมถึงมีการทำป้ายประกาศเข้าร่วมโครงการลดต้นทุนค่าปัจจัยการผลิตที่ชัดเจนด้วยหรือไม่
สำหรับพื้นที่เป้าหมายในการตรวจสอบของสารวัตรเกษตรนั้นจะดำเนินการทั่วประเทศ แต่ในเบื้องต้นจะตรวจสอบในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล 13 จังหวัด รัศมี 200 กม. เช่น สุพรรณบุรี ชัยนาท สมุทรปราการ ราชบุรี นครนายกเป็นต้น เนื่องจากเป็นแหล่งต้นน้ำของผลผลิตปุ๋ย สารเคมีเกษตรที่สำคัญถึง 90% ที่กระจายไปจำหน่ายทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้มีการประชุมหารือกับผู้ประกอบการโรงงานผลิตปุ๋ย สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์พืช ซึ่งมีสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อเป็นการซักซ้อม และทำความเข้าใจร่วมกันในการสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรตามมติ คสช. ให้เกิดขึ้นได้อย่างจริงจัง ทั้งนี้ ทางสมาคมต่างๆ จะรวบรวมรายชื่อร้านค้า และจุดจำหน่ายที่อยู่สมาคมฯ มายังกรมวิชาการเกษตร เพื่อจัดทำเป็นคู่มือแหล่งจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ และลดราคาตามโครงการลดต้นทุนเพื่อแจกจ่ายให้แก่เกษตรต่อไป
ดำรงค์ จิระสุทัศน์
ด้าน นายดำรงค์ จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะที่กรมวิชาการเกษตร ซึ่งดูแลพระราชบัญญัติที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิตทางการเกษตร คือ พระราชบัญญัติปุ๋ย พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย และพระราชบัญญัติพันธุ์พืชนั้น ที่ผ่านมาได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด พบว่า มีคดีที่สิ้นสุดแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการจำนวนลดลง โดยผลการดำเนินการจับกุมผู้ผลิตและจำหน่ายที่ฝ่าฝืนกฎหมายมีจำนวน 15 ราย ของกลาง 7,570 ตัน มูลค่า 113 ล้านบาท เป็นคดีปุ๋ยจำนวน 11 ราย มูลค่า 80 ล้านบาท วัตถุอันตรายปลอม 4 ราย มูลค่า 32 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นได้ว่ามาตรการเสริมของกระทรวงเกษตรฯ ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการตรวจสอบและปราบปราม จะทำให้การกระทำผิดเกี่ยวกับปัจจัยการผลิตทางการเกษตรลดลงอย่างรวดเร็วแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี