เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวซึ่งยกร่างเสร็จเรียบร้อย โดยเนติบริกรชั้นนำอย่าง นายวิษณุ เครืองาม กำลังจะประกาศให้มีผลบังคับใช้ ตาม“โรดแมป”คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในสัปดาห์นี้ นำไปสู่การตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นบริหารประเทศ ตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติขึ้นทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติในการออกกฎหมายต่างๆ ทั้งจะมีการตั้ง“สภาปฏิรูป”ขึ้นดำเนินการเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการวางกรอบปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังด้วย
แน่นอนว่า การทำงานของ“สภาปฏิรูป”จะต้องมีการระดมฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนทั่วประเทศ เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ขณะที่“การปฏิรูป”ก็ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศชาติในทุกด้าน ให้เกิดประโยชน์สุขแก่สังคมโดยส่วนรวมอย่างแท้จริงด้วย
ในด้านการปฏิรูปภาคเกษตรของไทยนั้น ตอนนี้มีหลายๆ ฝ่ายเริ่มขยับกันแล้ว ผมเองเพิ่งได้รับเอกสาร “Road Map เพื่อการ
พัฒนาการเกษตรและแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน”ที่คุณอนันต์ ดาโลดม จัดทำขึ้นยื่นเสนอต่อคสช.ไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา
คุณอนันต์ ดาโลดม นั้น ปัจจุบันมีสถานะเป็นนายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ซึ่งในอดีตเคยเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีบทบาทสูง ทั้งในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ,อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร,อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ทั้งเคยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2544-2549 นับเป็นผู้ที่เข้าใจเรื่องการเกษตรอย่างลึกซึ้ง ทุกวันนี้แม้อายุ 71 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีไฟอยู่ คอยนำเสนอความเห็นแนวทางแก้ไขปัญหาและการพัฒนาการเกษตรอยู่เป็นประจำ
เอกสาร Road Map ที่คุณอนันต์ทำเสนอคสช.นี้ ตั้งชื่อไว้ว่า“ภาคเกษตรไทย:ผลประโยชน์ชาติบนความทุกข์ของเกษตรกรไทย” เนื้อหาโดยสรุปชี้ถึงข้อเท็จจริงภาคเกษตรไทย ปัญหาของเกษตรกร สถานการณ์ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันที่เกิดความล้มเหลวในภาคเกษตรไทย
ที่สำคัญได้แก่ ข้อเสนอเพื่อการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาเกษตรอย่างยั่งยืน คือ เกษตรกรต้องสามารถประกอบอาชีพการเกษตรมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เพียงพอส่งลูกหลานเรียนหนังสือ,มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น,การทำการเกษตรที่ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม การเกษตรที่อนุรักษ์ธรรมชาติ การเกษตรที่อยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้อย่างเป็นสุข
“ดังนั้น นโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการพัฒนาการเกษตรในอนาคต ต้องตอบโจทย์ที่เป็นข้อเท็จจริงของภาคเกษตรไทย โดยกำหนดเป้าหมายสุดท้าย(Ultimate Goals)ในการพัฒนาการเกษตรคือ การยกระดับรายได้ ฐานะความเป็นอยู่เกษตรกรให้สูงขึ้น เพื่อให้ครอบครัวเกษตรกรมีมาตรฐานการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น เทียบเท่าคนในสาขาอาชีพอื่น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม”
คุณอนันต์ได้เสนอพันธกิจ 12 ประการ คือ1.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาการเกษตร อาทิ แหล่งน้ำชลประทาน ถนนในชนบท 2.กำหนดนโยบาย มาตรการและวิธีการให้เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินของตนเอง ให้ได้มีที่ดินทำกินของตนเอง 3.ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาร่วมกับภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 4.พัฒนาองค์กรเกษตรกรให้เข้มแข็ง เพื่อทำหน้าที่ตัวแทนเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5.ปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับการเกษตรให้ทันสมัยและเหมาะสม 6.ปรับโครงสร้างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อความเป็นเอกภาพในการบริหาร ขจัดการทุจริตและการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม
7.จัดทำสำมะโนภาคการเกษตรให้ทันสมัย ถูกต้องน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนาและแก้ปัญหาทุกด้าน 8.ปรับโครงสร้างการผลิตการเกษตร เสนอทางเลือกให้เกษตรกร โดยกระบวนการมีส่วนรวมของเกษตรกร 9.สร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร 10.ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนจากพืชที่ไทยมีการผลิตเหลือจากบริโภค 11.น้อมนำแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียงมาส่งเสริมให้เกษตรกรนำไปปฏิบัติให้เกิดรูปธรรม และ12.ตรากฎหมายสำหรับพัฒนาการเกษตรและสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องผลประโยชน์เกษตรกรในระยะยาว
ข้อเสนอเหล่านี้ มีรายละเอียดที่ชัดเจนกว่านี้ แต่ผมมีเนื้อที่จำกัด จึงนำเสนอได้แค่นี้ก่อน โดยเชื่อว่า ข้อเสนอที่กลั่นกรองมาจากผู้เข้าใจในเรื่องการเกษตรเป็นอย่างดีนั้น สภาปฏิรูปของคสช.น่าจะต้องนำไปพิจารณาอย่าให้ “เสียของ” เป็นอันขาด
สาโรช บุญแสง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี