ดักบึ้มสี่แยกปัตตานี
ตชด.บาดเจ็บสาหัส2
ตากใบเจอซุกระเบิด
นาวิกฯรอดหวุดหวิด
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4203 กองกำกับการ 42 จ.นครศรีธรรมราช ที่กำลังเดินทางด้วยรถยนต์กระบะเพื่อสับเปลี่ยนกำลังเข้าเวรที่ด่านตรวจก่อนเข้าเมืองปัตตานี เหตุเกิดบริเวณแยกไฟแดงถนนบายพาสทางหลวงสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส และสี่แยกไฟแดงถนนทางหลวงสาย 4018 ปัตตานี-ยะลา บริเวณ ม.4 ต.รูสะมิแล อ.เมือง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย
สำหรับอาการบาดเจ็บของตำรวจทั้ง 4 นายนั้น ส.ต.อ.ภาคภูมิ จันทร์เมธา ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าศีรษะ และลำตัวหลายแห่ง อาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว ทางแพทย์โรงพยาบาลปัตตานีต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดก่อนนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ จ.สงขลาแล้ว
ส่วนอีก 3 นายคือ ส.ต.ต.สิทธิพร โสภาวัง ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณศีรษะและลำตัว ได้เข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ขณะที่ร.ต.ต.สมจิตร รัตนพันธ์ และด.ต.นันทศักดิ์ เพชรเกษม ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่ายพร้อม ชุด EOD เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปัตตานีเข้าไปตรวจสอบ ยังที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะโตโยต้า ตอนครึ่งสีขาวของฝ่ายเจ้าหน้าที่ถูกแรงดักระเบิดสภาพพังยับเยิน มีเศษชิ้นส่วนถังดับเพลิงสีแดง เศษชิ้นส่วนวิทยุสื่อสารและเหล็กดัดที่ใช้ทำสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ
สอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตชด.ชุดดังกล่าวออกจากฐานปะกาฮารังเพื่อไปเปลี่ยนกำลังที่ด่านปัตตานีห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ระหว่างติดไฟแดงคนร้ายที่ดักรอข้างทางได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สฝังไว้กลางถนนด้วยวิทยุสื่อสาร เกิดระเบิดดังสนั่น แรงระเบิดทำให้รถเสียหายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่คนร้ายนำบรรจุไว้ในถังเคมีดับเพลิงมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารนำมาซุกไว้ที่ต้นหญ้าบริเวณมุมเกาะกลางเพื่อเป้าหมายสังหารหมู่เจ้าหน้าที่เมื่อรถของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาถึงคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่ตชด.ที่ขับตามหลังประสบเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าป้องกันคนร้ายยิงซ้ำก่อนจะวิทยุแจ้งขอกำลังเสริม
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พลตรี ชลิต เมฆมุกดา ผบ.ฉก.ปัตตานี เดินทางมาที่เกิดเหตุโดยกำชับให้ปิดล้อมติดตามไล่ล่าคนร้ายที่คาดว่าน่าจะหลบอยู่ในพื้นที่ พร้อมกำชับให้ทั้ง 12 อำเภอเพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษเนื่องจากมีข่าวว่าจะมีการก่อเหตุในช่วง 10 วันสุดท้ายของการถือศีลอดเพื่อแสดงศักยภาพและไม่เห็นด้วยกับการเจรจาที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 09.15 น. พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัด ฉก.นราธิวาส 31 จำนวน 6 นายขี่รถจยย. 3 คัน ขณะลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ เหตุเกิดริมถนนสายตากใบ-นราธิวาส บ้านโคกมะเฟือง หมู่ 1 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ขี่เลยจุดเกิดเหตุ 20 เมตร ทำให้รอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
สำหรับความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จำนวน 4 จุดเหตุเกิดในเที่ยงวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางพ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ ได้ร่วมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 45ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นหมู่บ้านโต๊ะเปาะฆะ ม.10 ต.ตันหยงมัส หลังสืบทราบผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุลอบวางระเบิดได้ซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งไม่มีเลขที่
เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 2 คนคือ นายอับดุลรอฮิม มูแย อายุ 21 ปี พร้อมเสื้อยืดแขนยาวสีส้มขณะสวมใส่ก่อเหตุ กับนายอับดุลเล๊าะ อาแวกือจิ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางเสื้อยืดแขนยาวสีดำที่มีสีแดงคาดจากข้อมือถึงหัวไหล่ จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน ทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมวางแผนและก่อเหตุลอบวางระเบิดจริง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี