เร่งปรับปรุงพรบ.กองทุนพัฒนาข้าวฯ ชงคสช.คืนความสุขให้เกษตรกร
วันพุธ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557, 15.26 น.
Tag :
23 ก.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมมารวย การ์เด้นท์กรุงเทพมหานครการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่องกองทุนพัฒนาข้าวและชาวนาแห่งชาติโดยนายชาญพิทยา ฉิมพาลี อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า การปลูกข้าวนับเป็นอาชีพหลักในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย ที่ได้สั่งสมความมั่นคงทางอาหารให้ทั้งคนไทยและต่างชาติมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันมีชาวนาประมาณ 3.72 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 17 ล้านคน ปลูกข้าวเฉลี่ยปีละ 72.20 ล้านไร่ ผลิตข้าวเปลือกเฉลี่ยปีละ 32.28 ล้านตันข้าวเปลือก สร้างรายได้ให้กับประเทศปีละประมาณ 200,000 ล้านบาท รวมทั้งใช้บริโภคภายในประเทศคิดเป็นมูลค่าอีกปีละ 230,000 ล้านบาท รวมมูลค่าของข้าวปีละประมาณ 430,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ชาวนาส่วนใหญ่ยังมีฐานะยากจน รายได้น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับอาชีพอื่นๆ เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงทั้งจากภัยธรรมชาติฝนแล้ง น้ำท่วม ด้วย 70% ของพื้นที่ปลูกข้าวอยู่นอกเขตชลประทาน อีกทั้งชาวนาส่วนใหญ่ประมาณ 600,000 ครัวเรือนต้องเช่าที่นาเพื่อให้มีรายได้เพียงพอ และต้องเร่งเพาะปลูกข้าวมากกว่าปีละ 1 ครั้ง ทำให้เกิดการระบาดของศัตรูพืชได้ง่าย ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูง เมื่อเผชิญกับความผันผวนของราคาข้าวเปลือก ชาวนาจึงต้องเผชิญกับภาวะหนี้สิน ขาดความมั่นคงทางอาชีพ ขาดสวัสดิการที่เหมาะสมในวัยชราภาพ โดยชาวนาส่วนใหญ่มีอายุมากเฉลี่ย 55 ปี และมีอายุเกินกว่า 60 ปี ประมาณร้อยละ 30 ด้วยปัญหาต่างๆ ที่ยังคงรอการแก้ไขเช่นนี้ เยาวชนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมากจึงขาดแรงจูงใจ และละทิ้งไร่นาหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน
อย่างไรก็ตามหากปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป ในอนาคตประเทศไทยจะประสบปัญหาขาดความมั่นคงทางอาหาร ที่ผ่านมากรมการข้าวได้ตระหนักและมิได้นิ่งนอนใจ จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนสวัสดิการชาวนาให้แก่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติตั้งแต่ปี 2554 เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาชาวนาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนกระทั่งปรับปรุงแก้ไขเป็น พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาข้าวและชาวนาแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพของชาวนาให้ก้าวหน้าพร้อมกับสร้างหลักประกันความมั่นคงพื้นฐานที่จำเป็นให้ชาวนาอยู่อย่างมีเกียรติ ศักดิ์ศรี ทัดเทียมอาชีพอื่นในสังคม และสืบทอดอาชีพการผลิตข้าวได้อย่างภาคภูมิใจ
สำหรับการจัดตั้งกองทุนพัฒนาข้าวและชาวนาแห่งชาตินี้ จะเป็นหน่วยงานของรัฐและมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1.ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือชาวนาในด้านการจัดหาปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ เช่น ปุ่ยอินทรีย์ สารปรับปรุงดิน เมล็ดพันธุ์ เครื่องมือเครื่องใช้เครื่องจักรกล เป็นต้น
2.สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนในกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน และองค์กรชาวนาให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ
3.สร้างและพัฒนาอาชีพชาวนาให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการพัฒนาบุคคลควบคู่กับองค์กร เสริมสร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีการผลิตข้าวให้ได้คุณภาพดี การลดต้นทุน และสร้างทัศนคติที่ดีในการสืบทอดอาชีพการทำนาในอนาคต
จากกรณีดีงกล่าวกรมการข้าวจึงจัดให้มีการสัมมนาประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ และรับฟังความคิดเห็น เรื่องกองทุนพัฒนาข้าวและชาวนาแห่งชาติ ให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้แทนชาวนา องค์กรชาวนา เจ้าหน้าที่กรมการข้าว เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน เพื่อร่วมกันพิจารณารายละเอียดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักดำเนินการศึกษาแนวทาง การจัดตั้ง ผลกระทบ ผลดี ผลเสีย แล้วจึงนำข้อมูลที่ได้เสนอต่อคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการด้านการผลิตและการตลาดสินค้าข้าว ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป