ตะลึง!รุกป่ากาฬสินธุ์
โค่นเหี้ยนกว่า3พันไร่
เขตอุทยานแห่งชาติฯเหลือแต่ตอ
ทหารบุกสอบเร่งทวงคืนพื้นที่
ปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าจากชาวบ้านและกลุ่มนายทุนเห็นแก่ได้ที่เข้าไปบุกรุกป่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพานและป่าอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กในพื้นที่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังเป็นไปอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง หลังจากพบว่าปัจจุบันยังมีการบุกรุกพื้นที่ป่าจำนวนมากหลายพันไร่โดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย
โดยเมื่อวันที่ 23กรกฏาคม พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจ.กาฬสินธุ์ พ.อ.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่กส.3 (ภูพาน) ได้ประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมที่ว่าการอ.คำม่วง เพื่อรับฟังสถานการณ์การบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพานและป่าอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก
ว่าที่ ร.ต.ทรงพล แป้นแก้ว นายอำเภอคำม่วง จ.กาฬสินธุ์ รายงานว่า พื้นที่ป่าในเขตอ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์มีทั้งหมด 147,458 ไร่ มีทั้งป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง และป่าไม้ตรวจสอบเบื้องต้นพบการบุกรุกพื้นที่ป่าทั้ง 2 แห่งอย่างชัดเจนจำนวน 900 ไร่ แยกเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพาน 700 ไร่ และป่าอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก 200 ไร่ส่วนใหญ่จะเข้าบุกรุกแผ้วถางตัดต้นไม้เพื่อปลูกยางพารา
ทั้งนี้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าก่อนคำสั่งคสช.ที่ 64/2557 ตั้งแต่เดือน พ.ค.54 - มิ.ย.57 จำนวน 28 คดี เนื้อที่ 320 ไร่ และติดตามจับกุมตรวจยึดพื้นที่ป่าหลังคำสั่งคสช.ที่ 64/2557 ตั้งตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.-21 ก.ค.57 จำนวน 14 คดี เนื้อที่ 160 ไร่ และต่อไปจะปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าตามแผนอาชาพิทักษ์ไพรโดยการร่วมมือกันทุกฝ่าย เบื้องต้นจะทำยึดพื้นที่ป่า ฟื้นฟู ปลูกต้นไม้ทดแทนให้ได้ 900 ไร่ภายในเดือนกันยายนนี้
ต่อมาพล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง ที่ปรึกษากองกำลังรักษาความสงบ นำกำลังทหารร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพาน และพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก บริเวณบ้านสร้างแข้ ม.10 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์
จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวกลายเป็นภูเขาหัวโล้น และเมื่อเดินเท้าเข้าไปลึกกว่า 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ถึงกลับตะลึง เนื่องจากพบการบุกรุกพื้นที่ป่าทั้งสองแห่งมากกว่า 3,000 ไร่ มีการตัดโค่นต้นไม้ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่จนเหลือแต่ตอมากกว่า 1 หมื่นต้น จากนั้นได้ทำการปลูกยางพารากลางภูเขาอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ด้าน พ.อ.ฉกาจพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าตรวจสอบว่า เบื้องต้นคาดว่าพื้นที่ป่าได้ถูกทำลายอย่างน้อยกว่า 2,000-3,000 ไร่ ซึ่งแนวทางต่อไปเจ้าหน้าที่จะเร่งปฏิบัติการโดยยึดแผนอาชาพิทักษ์ไพร ตรวจสอบพื้นที่ปลูกยางพาราเพื่อทวงคืนพื้นที่ทั้งหมดโดยเร็วและมี
รายงานว่ายังมีพื้นที่ป่าทั้งสองแห่งถูกบุกรุกให่ม่อีกจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี